ข้ามไปเนื้อหา

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๑๑๕/๒๕๕๗

จาก วิกิซอร์ซ
แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ[1]
ที่ ๑๑๕/๒๕๕๗
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางพระพุทธศาสนา




เพื่อเป็นการส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญและมั่นคง นำพาสังคมและวิถีชีวิตของประชาชนให้เกิดความสันติสุขอย่างยั่งยืนด้วยหลักพุทธธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางพระพุทธศาสนา โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

๑. องค์ประกอบ

๑.๑ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ ประธานกรรมการ
๑.๒ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รองประธานกรรมการ
๑.๓ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กรรมการ
๑.๔ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กรรมการ
๑.๕ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กรรมการ
๑.๖ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรรมการ
๑.๗ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรรมการ
๑.๘ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กรรมการ
๑.๙ ปลัดกรุงเทพมหานคร กรรมการ
๑.๑๐ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ

๒. อำนาจหน้าที่

๒.๑ เสนอแนะนโยบาย มาตรการ และแนวทางการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางพระพุทธศาสนา เสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
๒.๒ อำนวยการ กำกับดูแล ติดตามผลการดำเนินการตามนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางพระพุทธศาสนา เสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
๒.๓ พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนงาน โครงการ และมาตรการที่เกี่ยวข้องก่อนนำเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
๒.๔ กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางพระพุทธศาสนา
๒.๕ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการในการดำเนินการต่างๆ
๒.๖ ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติมอบหมาย

๓. คณะกรรมการตามคำสั่งนี้ สามารถยุบเลิก หรือปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ได้ตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


สั่ง ณ วันที่ ๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ


เชิงอรรถ

[แก้ไข]
  1. ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม /ตอน /หน้า / .



๑๑๔/๒๕๕๗ ขึ้น ๑๑๖/๒๕๕๗

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"