คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๑๒๒/๒๕๕๗
หน้านี้ควรจัดทำเป็นแบบพิสูจน์อักษร เนื่องจากมีต้นฉบับสแกนอยู่ที่ https://ratchakitcha2.soc.go.th/pdfdownload/?id=2028598 |
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติม คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๕/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงออกคำสั่ง ดังนี้
ให้ยกเลิกความในข้อ ๑ และข้อ ๓ ของคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๕/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๑ แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ประกอบด้วย
- ๑) พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นประธานกรรมการ
- ๒) ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการคนที่หนึ่ง
- ๓) ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นรองประธานกรรมการคนที่สอง
- ๔) ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นรองประธานกรรมการคนที่สาม
- ๕) เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ
- ๖) อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการ
- ๗) ผู้อำนวยการสำนักประเมินผล สำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ
- ๘) พลโท รณชัย มัญชุสุนทรกุล เป็นกรรมการ
- ๙) ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบภายในทหารบก เป็นกรรมการ
- ๑๐) พลตรี วิระ โรจนวาศ เป็นกรรมการ
- ๑๑) ผู้แทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นกรรมการ
- ๑๒) ผู้แทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นกรรมการ
- ๑๓) ผู้แทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นกรรมการ
- ๑๔) ผู้แทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นกรรมการ
- ๑๕) ผู้แทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นกรรมการ
- ๑๖) ปลัดบัญชีทหารบก เป็นกรรมการ และเลขานุการ
- ๑๗) ผู้แทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการคนที่หนึ่ง
- ๑๘) ผู้แทนสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการคนที่สอง
ข้อ ๓ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของคณะกรรมการตามข้อ ๑ ให้สำนักงานปลัดบัญชีกองทัพบก เป็นหน่วยงานรับผิดชอบและให้มีกำลังพลตามจำนวนที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนงานทั่วไปและงานที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการ”
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เป็นต้นไป
เชิงอรรถ
[แก้ไข]- ↑ ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม /ตอน /หน้า / .
งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตาม แม่แบบผิดพลาด: โปรดระบุประเภทของงานนี้ (ดูวิธีใช้) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า
- "มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
- (1)ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
- (2)รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
- (3)ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
- (4)คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
- (5)คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"