ข้ามไปเนื้อหา

งานแปล:สอดส่องหลายท้องถิ่น: สยาม/บทที่ 16

จาก วิกิซอร์ซ
สอดส่องหลายท้องถิ่น: สยาม (พ.ศ. 2451) โดย เออร์เนสต์ ยัง, แปลจากภาษาอังกฤษ โดย วิกิซอร์ซ
บทที่ 16 ช้าง

การล่าช้างที่อยุธยา หน้า 74

บทที่ 16
ช้าง

ช้างเป็นสัตว์สำคัญของสยาม ช้างพบได้เป็นจำนวนมากในภาคเหนือ และในที่ราบกว้างทางใต้ด้วย อันเป็นภูมิภาคซึ่งที่ราบเหล่านี้ยังไม่ผ่านการเพาะปลูก แต่ปกคลุมด้วยหญ้าป่า ไม้พุ่ม และต้นไผ่ บางครั้งช้างสยามสูงได้ถึง 10 หรือ 11 ฟุต ข้อเท็จจริงที่ว่า ช้างมักสูงเป็นสองเท่าของวงฝ่าเท้าข้างใหญ่ที่สุด ซึ่งได้จุดประกายให้สงสัยนั้น ได้รับการพิสูจน์ยืนยันแล้วด้วยการวัดขนาดอยู่เสมอ

ผู้ขับขี่ช้างเรียกว่า ควาญ เมื่อควาญต้องการขึ้นขี่เจ้าสัตว์นี้ ช้างจะงอขาขวาหน้าให้เป็นขั้นบันได ทันใดที่ควาญวางเท้าลงบนบันไดนั้น ช้างจะกระตุกตัวแล้วยกควาญขึ้นสู่หลังมัน ผู้ขับขี่จะนั่งคร่อมคอช้าง เพราะช้างเคลื่อนหัวตนเองไปอย่างคงที่ยิ่งนักจนมีความสั่นคลอนน้อยกว่าส่วนอื่นใดในร่างกาย ผู้ขับขี่ยังมีแท่งไม้เป็นอาวุธ ที่ปลายไม้นี้มีตะขอเหล็กแหลมคม คราใดที่ช้างทำตัวไม่เหมาะสม ช้างก็จะถูกกระหน่ำแทงอย่างทารุณด้วยอาวุธร้ายกาจนี้

โดยมากแล้ว ช้างจะได้รับการใช้งานในป่าไม้สัก ช้างพลายหรือช้างงายาว เมื่อฝึกมาดีแล้ว จะมีราคาตัวละ 100 ปอนด์ถึง 200 ปอนด์ ช้างพังมักไม่ได้รับการใช้ในงานประเภทนี้ และจะไม่มีการใช้ช้างใด ๆ ทำงานเลยในฤดูร้อนช่วง 10 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมง ช้างจะเริ่มทำงานเมื่ออายุราว 25 ปี และจะดีที่สุดเมื่ออายุประมาณ 70 ปี ในวัยนั้น ช้างจะใช้งายกไม้ซุงหนักครึ่งตันและลากซุงหนักมากถึง 3 ตันไปตามพื้นได้ ช้างอายุยืนยิ่งนัก บางครั้งอยู่ถึง 150 ปีหรือกว่านั้นอีก

ในป่า ผู้คนจะโค่นต้นไม้โดยใช้ขวานหนักด้ามยาวเหยียด งานประเภทนี้ทำกันในฤดูฝน เพื่อให้ต้นไม้ล้มลงบนพื้นอ่อนนุ่มและจะไม่เสียหายมากมาย ช้างจะเข้าจัดเรียงซุงเป็นแถวขนาน จากนั้น จะมีการติดบังเหียนที่ช้างแต่ละตัวเข้ากับท่อนซุง เพื่อให้ช้างลากไปทางลำน้ำ ท่อนอ่อน ๆ นั้นเอาไว้ใต้ซุงใหญ่ ๆ เพื่อทำหน้าที่เป็นเพลาเคลื่อน จากพงไพรไปสู่แม่น้ำมักมีระยะทางมากถึง 10 ไมล์ และน้อยครั้งที่จะน้อยกว่า 5 ไมล์ ช้างเคลื่อนตัวช้านัก ฝีเท้าโดยเฉลี่ยนั้นน้อยกว่า 3 ไมล์ต่อชั่วโมง และฉะนั้น ขั้นตอนการนำซุงไปสู่แม่น้ำจึงเชื่องช้าและชวนระอา เมื่อช้างถึงฝั่งน้ำแล้ว ช้างจะกองสุมท่อนซุงไว้ให้ผู้มาซื้อได้ตรวจดู แล้วจะมีการหมายท่อนซุงไว้ในลักษณะที่พ่อค้าแต่ละรายจะแยกแยะว่าเป็นทรัพย์สินของตนได้โดยง่ายในภายหลัง ครั้นแล้ว ช้างจะนำพาซุงไปทีละท่อน ก่อนวางลงในลำธารหรือลำน้ำ ช้างจะดันซุงไปบนก้อนหินกลมมนหรือดอนทรายใต้น้ำ นำต้นไม้ที่โค่นลงแล้วออกไปจากเส้นทาง และในที่สุด จะนำซุงไปยังจุดที่กระแสน้ำเป็นใจ แล้วซุงจะได้รับการผูกเป็นแพและล่องลงใต้

ครั้นซุงมาถึงโรงเลื่อย ช้างกลุ่มอื่นจะนำซุงขึ้นฝั่ง และช้างเหล่านี้แจ้งใจในการงานของตนเป็นอย่างดียิ่ง จนแทบไม่ต้องอาศัยการบังคับบัญชาจากควาญเลย ช้างเหล่านี้รู้ประสาเหลือเกิน ถึงขั้นที่เมื่อได้ยินเสียงระฆังมื้อเย็นสำหรับคนงานแล้ว ก็จะวางซุงลงและโลดแล่นมาพร้อมร้องร่าด้วยความยินดีในทันที ดุจเดียวกับเด็กทั้งหลายที่ได้รับการปล่อยออกจากโรงเรียน

ช้างยังพร้อมใช้เล่ห์กลทุกประการ เป็นต้นว่า ยามดึก ช้างจะได้รับการปล่อยไปหากิน โดยมีโซ่หนักอึ้งคล้องไว้ตามรอย และเมื่อช้างเคลื่อนไปรอบ ๆ โซ่ก็จะถูกลากไปตามพื้นและทิ้งร่องรอยไว้เป็นหนทางให้ติดตามช้างไปในยามเช้าได้ แต่ช้างตัวใดที่ตกลงใจจะหนีแล้ว ก็ได้ปรากฏว่า มัน "ใช้งาของมันรวบโซ่บ่งชี้ร่องรอยนั้นขึ้นแล้วแบกเอาไว้เป็นไมล์ ๆ อย่างระมัดระวัง" นอกจากนี้ ช้างแต่ละตัวยังมีกระดิ่ง และเสียงกระดิ่งนี้ทำให้ผู้ขับขี่ระบุแหล่งที่อยู่ของช้างตนเองได้แม้เมื่ออยู่ห่างไกลออกไปก็ตาม ทว่า ช้างบางตัวจะเอางวงปลดกระดิ่งนี้ออกแล้วจึงหลบหนีไปซ่อนตัว ควาญคนใดที่ช้างไม่ชอบ ก็มักถูกช้างเหวี่ยงลงพื้นแล้วกระทืบ

ช้างยังใช้ปลุกพี่น้องเกียจคร้านของมันให้ทำงานได้ ในกรณีเช่นนี้ จะใช้ช้างงายาวที่ตัวใหญ่และเหมาะดี เจ้าตัวนี้จะเอางางัดเข้าไปข้างช้างขี้เกียจ แล้วคะยั้นคะยอให้มันหยิบจับซุงขึ้นมา บางคราวสัตว์เหล่านี้ก็ทะเลาะกันเอง และดูเหมือนว่า หลัก ๆ แล้ว มันมุ่งจะกัดหางกันให้ขาด

ช้างต้องได้รับการหล่อเลี้ยงให้อารมณ์ดีในระหว่างงาน มิฉะนั้น มันจะบึ้งตึง ช้างทำงานสามวันและพักสามวัน หากช้างป่วย จะเอายาลูกกลอนทำจากพริกเผ็ดร้อนถูเข้าไปในดวงตาช้าง นี่น่าจะเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่รับยาด้วยตา เจ้าสัตว์นี้อาบน้ำอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง ช้างจะไม่ลากซุงท่อนหนึ่งไปเป็นระยะทางยาวไกล แต่เมื่อได้พาไปสักสามในสี่ของหนึ่งไมล์แล้ว ช้างจะกลับไปนำอีกท่อนมา เมื่อช้างนำซุงมาสะสมเป็นกองเล็ก ๆ ไว้ในที่เดียวกันทั้งหมดแล้ว ช้างก็จะออกเดินอีกหนเพื่อขนซุงแต่ละท่อนไปเป็นระยะทางอีกสามในสี่ของหนึ่งไมล์ แล้วกลับไปพัก ช้างจะไม่ข้ามสะพานโดยไม่เอาเท้าข้างหนึ่งทดสอบก่อนว่า ปลอดภัยเหมือนที่คิดหรือไม่ ช้างกลัวม้าแคระ และตามกฎหมายสยามแล้ว ม้าแคระต้องหลีกทางไปเมื่อได้เจอช้าง

ที่อยุธยา ราชธานีเดิม จะล่าช้างเป็นการใหญ่ปีละหนหรือสองหน จะมีการส่งท้องตราไปให้รวบรวมโขลงช้างตอนต้นฤดูฝน ผู้คนจำนวนหนึ่งจะตะลุยทั่วทุ่งราบที่เปิดให้ช้างท่องไปโดยไร้ผู้ประทุษร้าย แล้วจะต้อนช้างเข้ามาทางเมือง

ผู้คนทุกชั้นชนจะดั้นด้นไปอยุธยาเพื่อทัศนาความสนุก ทั้งเจ้าชายและพวกไพร่ ชาวยุโรปและชาวเอเชีย คฤหัสถ์และบรรพชิต ความตื่นเต้นจะบังเกิดเป็นขนานใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อเป้าหมายก็คือช้าง ปัจจุบันนี้จะได้เห็นช้างงายาวตัวมหึมา นี่เป็นช้างที่เชื่องแล้ว ช้างนี้จะเดินแช่มช้าอยู่ข้างหน้า และหมู่ช้างป่าข้างหลังซึ่งนับถือช้างนี้เป็นจ่าโขลงจะเดินตามดังฝูงแกะ ต่างกันก็แต่ที่ส่งเสียงดังกว่า รอบ ๆ พื้นที่ภายนอกโขลงจะมีช้างตัวอื่นที่เชื่องแล้ว พร้อมคนถือหอกเป็นอาวุธนั่งมาบนหลัง จนที่สุดก็ถึงแม่น้ำ จะหยุดพักกันสักระยะ แต่ช้างงายาวตัวใหญ่จะเดินย่ำอยู่ข้างหน้าต่อไป และช้างตัวอื่น ๆ ก็เบียดเสียดกันเข้ามาอยู่ข้างหลัง จนลงสู่ผืนน้ำด้วยกันทั้งหมด เหล่าช้างจะว่ายไปถึงอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ และที่นั่น ช้างที่มีผู้ขี่ก็จะจัดช้างทั้งโขลงเข้าเป็นแถวอีกครั้ง โดยทำทีเป็นพวกเดียวกับโขลงนั้นอยู่ตลอด ครั้นแล้ว ช้างงายาวจะเดินหน้าเข้าไปในส่วนปิดล้อมอันกว้างใหญ่ซึ่งมีเสาหลักปักรายรอบอยู่ และจากจุดนั้นก็เดินทะลุทางผ่านเข้าไปยังที่ล้อมแห่งที่สอง มาถึงตอนนี้ ช้างป่าบางตัวเริ่มเกิดความคิดว่า พวกตนกำลังติดกับ และพยายามจะกลับหลัง แต่ช้างองครักษ์ยืนกันอย่างแข็งขันนัก และผู้คนบนหลังช้างนั้นก็ใช้หอกให้เป็นประโยชน์ ฉะนั้น ที่สุดแล้ว ช้างเชลยก็ถูกนำพาเข้ามายังลานจัตุรัสที่มีกำแพงสูงและหนากั้นไว้รอบด้าน บนกำแพงนั้นมีผู้ชมนับร้อยคอยดูปฏิบัติการอยู่เนืองแน่น วันแรกก็สิ้นลงตรงนี้

เช้าวันถัดมา จะมีการนำช้างงายาวหกตัวเข้าสู่ที่ล้อม หรือที่เรียกกันว่า เพนียด บนหลังช้างแต่ละตัวมีบุรุษสองนายซึ่งได้รับมอบขดเชือกยาวเอาไว้แล้ว บุรุษเหล่านี้จะมองหาช้างเยาว์วัยซึ่งตนเห็นว่า จะฝึกปรือให้เป็นข้ารับใช้ที่ทรงกำลังและมากประโยชน์ได้ในภายหลัง ครั้นเลือกได้ตัวหนึ่งแล้ว พวกเขาจะไล่กวดช้างนั้นไปรอบ ๆ จนผ่านไปสักระยะ ก็จะคล้องบ่วงเข้าใต้อุ้งเท้ามันแล้วดึงให้รัดรึงเหนือเข่าได้สำเร็จ เสร็จแล้วจะโยนขดเชือกอีกปลายให้คนบนพื้น และคนเหล่านั้นจะนำปลายเชือกไปผูกมัดไว้กับหลักอันหนึ่งเป็นอันแน่น เมื่อช้างเยาว์วัยพยายามวิ่งไปรอบ ๆ อีก ก็จะพบว่า ขาข้างหนึ่งของตนถูกตรึงตราไว้แน่นหนาเสียแล้ว เจ้าช้างจะออกอาการขุ่นเคืองโดยร้องร่ำอย่างรวดร้าวหัวใจเป็นที่สุด ทันทีที่จับช้างมาผูกกับเสาได้จำนวนหนึ่งแล้ว ประตูในที่ล้อมจะเปิดออก และหมู่สัตว์ที่ไม่ถูกจับจะได้รับโอกาสให้แล่นออกไปยังที่ราบภายนอก แต่หาได้รับอนุญาตให้กลับสู่ภูมิลำเนาในป่าเขาไม่ ด้วยช้างที่มีผู้ขี่ตีวงอยู่รายรอบที่ราบนั้นและกักกันพวกมันไว้ในเขต

ช้างเยาว์วัยในเพนียดนั้นจะได้รับการนำออกมาทางประตูแคบทีละตัว ช้างเชื่องตัวหนึ่งจะเดินนำทาง และช้างอีกตัวหนึ่งจะเดินตาม ครั้นถึงภายนอก จะปรากฏช้างสามตัวซึ่งมีผู้ขี่อยู่ หนึ่งตัวจะไปประจำแต่ละข้างของช้างที่ตกเป็นเชลย และตัวที่สามจะตามหลังมา ช้างเชลยจะถูกล่ามคอเข้ากับคอของพี่น้องตนในอีกฝั่ง แล้วจะถูกนำพาไปยังคอกในลักษณะที่น่าอดสูเช่นนี้ ณ ที่นั้น ช้างจะถูกมัดคอและขาข้างหนึ่งไว้กับหลัก ราวสามปีผ่านไป ช้างจะสิ้นพยศ หมดความหยาบกระด้าง แล้วจึงสอนให้ทำงานได้

การคล้องช้างตัวอื่น ๆ กระทำในที่โล่ง แต่ในยามเย็น ครั้นอาบน้ำในแม่น้ำแล้ว โขลงช้างจะกลับคืนเข้าเพนียด เมื่อเลือกช้างได้มากเท่าที่ต้องการแล้ว จะให้ช้างที่เหลือเป็นอิสระ และปล่อยพเนจรไปตามใจอีก 12 เดือน