ข้ามไปเนื้อหา

ตำราไสยศาสตร์/ตำรา

จาก วิกิซอร์ซ
สารบัญ
  1. หลักการปฏิบัติ
  2. ไหว้สรรพคุณ
  3. พระอิติปิโสถอยหลัง
  4. พระอิติปิโสแปดด้าน
  5. พระคาถาพระเจ้าห้าพระองค์
  6. พระคาถาสัมพุทเธ
  7. พระคาถาเสกน้ำมันงา
  8. พระคาถาชุบตัว
  9. วิธีพาขึ้น
  10. คาถาพระยาคางคก
  11. พระคาถาช้างสารตกมัน
  12. พระคาถามหาทะมึน
  13. พระโองการปลุกตัว
  14. พระคาถามหาเย็น
  15. คาถาคงเมล็ดข้าว
  16. แต่งตัวเป็นมงคล
  17. พระมหาประเจียด
  18. คาถาทำประเจียด
  19. คาบทำประเจียด
  20. คาถามหาอุด (1)
  21. คาถามหาอุด (2)
  22. ตะบะฟ้า
  23. ยอดศีล
  24. พระคาถาปราบศัตรู
  25. พระคาถามหาจังงัง
  26. พระคาถาปลุกตัว
  27. พระคาถาพระเจ้าทรงมงกุฎ
  28. พระบารมีกางทัศ
  29. พระคาถาเรียกมนต์เข้าตัว
  30. คาถาปิดอักขระ
  31. คาถาผูกอักขระ
  32. คาถาไชยประสิทธิ์
  33. คาถาคุมอาคม
  34. พระคาถาพระเจ้าเล่นซ่อนหา
  35. คาถากันตัว
  36. วิธีปฏิบัติต่อพี่เลี้ยงทั้งสี่
  37. พระคาถากำแพงแก้ว 7 ประการ
  38. พระคาถาชินะปัญชร
  39. นมัสการคุณ
  40. พระคาถาต่อกระดูก
  41. คาถาบูชาพระเคราะห์
  42. พระคาถาขัดเบ็ญขันธ์
  43. คาถาคุ้มตื่น

๑.เมื่อจะทำกิจการใดเกี่ยวกับเวทย์มนต์อาคมแล้ว เริมต้นให้ระลึกมั่นในคุณพระรัตนตรัย คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ เป็นประธานขอความประสิทธิ์ขลัง

๒.จงตั้งใจให้เป็นสมาธิ และให้เกิดความเชื่อมั่นแน่วแน่ในวิชาอาคมนั้น ๆ จงตัดเสียซึ่งความลังเลใจใด ๆ

๓.ถ้าจะทำฝ่ายอิทธิฤทธิ์และคงกะพัน ต้องทำใจให้เข้มแข็ง ถ้าจะทำทางเมตตามหานิยม ก็ต้องทำใจให้อ่อนโยน ปล่อยอารมณ์ให้สงบเยือกเย็น

๔.ถ้าจะปลุกเสกใ ๆ หรือปัดเป่า จงพยายามเพ่งกระแสจิตให้แน่วแน่ลงสู่สิ่งนั้น ๆ เช่น เสกน้ำมนต์ เป็นต้น

ผู้ใดปฏิบัติได้ตามหลักนี้ แม้จะได้เวทย์มนต์มาจากเด็กหรือโยมวัด ก็สามารถทำให้เกิดความประสิทธิ์ขลังสมเจตนาแน่นักแล

นั่งพนมมือหน้าพระบูชาหรือบนที่นอน ภาวนาว่า พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ปัถวีชัยยะมุงคุณ ฯ ไหว้สรรพคุณเป็นมงคลว่า ๓ จบแล้วว่า พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ปัถวีชัยยะมุง ฯ บทนี้ว่า ๓ จบ ขอให้สรรพคุณคุ้มครองกันสรรพภัย ฯ

ติวาคะภะโท พุธนังสานุสมะวะ เทกาสัตถิระสา มะธัมสะริปุโร ตะนุตอะทู วิกะโลโต กะสุโน ปันสัมนะระจะชา วิชโทพุทธสัมมาสัมหัง ระอะวาคะภะโส ปิติอิ ฯ

พระคาถานี้มีคุณานุภาพมากหลายเหลือจักพรรณนา จึงขอแจ้งไว้ย่อ ๆ พอควรดังนี้ ภาวนาทุกค่ำคืนก่อนจะนอนเป็นประจำ จะเป็นที่เมตตาแก่เทพยดาและปวงชน อายุจะยืนยาว คุ้มกันภัย ศัตรูจะทำร้ายไม่ได้เลย ปิศาจร้ายก็เกรงกลัวไม่อาจเข้าใกล้ สะเดาะโซ่ตรวนขื่อคาภาวนาเป่าลงร่ำไปหลุดแล ฯ เสกน้ำมนต์รดศีรษะและดื่มกินสะเดาะลูกที่คลอดไม่ออกจะออกแล ฯ จงเสก ๑๐๘ คาบ ก้างปลาติดคอก็ใช้ได้เช่นกัน เสกหมากพลูหรือน้ำมนต์ ๑๐๘ คาบ ให้คนเจ็บกินรดศิรษะ แก้คุณกระทำทุกชนิด ทั้งปัดปอนด้วย เสกข้าวกินทุกมื้อเป็นประจำ คงกะพันแก่อาวุธ เอาลิ้นแทงอากาศ (ลิ้นดุนเพดาน) อึดใจภาวนา เมื่อผจญศัตรู เป็นมหาจังงัง ศัตรูกลัวอำนาจยิ่งนัก เสกแป้งมันหอมทาหรือใส่ผมเป็นเสน่ห์แก่หญิงชายทั่วไป ภาวนาลูบพาขึ้นเช้าและค่ำเป็นประจำทุกวันเป็นคงกะพันและมีอิทธิฤทธิ์กล้าแข็ง ถ้าจะเดินทางไกลบ่ายหน้าทางทิศที่จะไป ยืนภาวนา ๓ คาบ จึงยกเท้าออกเดิน จะเกิดสวัสดีสถาพรแคล้วคลาดจากภัยนานาประการ ฯ

อิระชาคะตะระสา ชื่อ กระทู้ ๗ แบก ประจำทิศบูรพา
ติหังจะโตโรถินัง ชื่อ ฝนแสนห่า ประจำทิศอาคเนย์
ปิสัมระโลปุสัทพุธ ชื่อ เกลื่อนสมุทร ประจำทิศทักษิณ
โสมะนากะวิลาโท ชื่อ นารายณ์ขว้างจักร ประจำทิศหรดี
ภะสัมสัมวิสะเทกะ ชื่อ กวาดป่าหิมพานต์ ประจำทิศปัจจิม
คะพุทธะปัญทู ธัมมะวาคะ ชื่อ นารายณ์เกลื่อนจักร ประจำทิศพายัพ
วาโทโนอะมะวา ชื่อ นารายณ์ถอดรูป ประจำทิศอุดร
อะวิสสุคนุสานุสติ ชื่อ นารายณ์แปลงรูป ประจำทิศอีสาน

สิทธิการิยะ พระอิติปิโสแปดด้าน ฤทธิ์พ้นคณนา อาจจะกันได้สารพัดตามปรารถนา พระอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า ฝอยท่วมหลังช้าง มีอุปเท่ห์มากหลายเหลือที่พรรณนา ท่านกล่าวไว้ย่อ ๆ ให้ใช้ตามอุปเท่ห์ดังต่อไปนี้

ถ้าจะไปทางไกลแห่งหนใด ให้ภาวนาพระคาถาประจำทิศที่จะไป จะคุ้มกันเหตุเภทภัยไม่แผ้วพาน ถูกทิศผีหลวงหรือหลาวเหล็ก ก็ไม่มีภัย จะไปค้าขาย ก็เกิดผล นอกจากนี้ ให้ใช้เป็นบท ๆ ไปดังนี้

บทที่กระทู้ ๗ แบก เสกข้าวกินทุกมื้อเป็นประจำทุกวัน คงกะพันแก่อาวุธ ภาวนาเข้าสู้กับช้าง อาจง้างเอางาหัก กำลังหนักกว่าช้างสาร ให้นมัสการครูบรรยายพระฤๅษีทั้งหลาย ๗ พระองค์ คุณครูทั้งสิ้นมา ท่านเร่งอยู่ทิศบูรพา ภาวนาอย่ากลัวมัน จงหันหน้าสู่ทิศนั้น

บทที่ฝนแสนห่า ให้ภาวนาเมื่ออดน้ำวันยังค่ำ อย่ากลัวอยาก จงเสกหมาก ๑๕ คำกินถนำไปเถิดหนา นึกปรารถนาให้ฝนตก พระคาถายกใส่ไส้เทียน แล้วจงเพียรภาวนา พระคาถาแสนเก้าพัน ระลึกถึงชั้นเทวดาและอินทร์พรหมสิ้นทั้งหลาย ฝนตกเนื่องอย่าร้อนใจ เป็นอะไรเสกน้ำพ่น ถ้วน ๗ หนก็จะหาย เคารพครูประสิทธิ์ ท่านประจำทิศอาคเนย์

บทที่เกลื่อนสมุทร ฤทธิ์สุดเสกพริกไทย ๗ เมล็ด เสก ๗ หน แล้วจงพ่นลงที่ฝีสัก ๓ ทีก็จะสูญ จะเสกปูนสูญฝีก็ได้ แม้ความไข้ก็ได้จะหาย เร่งตั้งใจภาวนาลงกระดาษทำไส้เทียน แล้วจะเขียนพระคาถาล้อมให้ครบตามกำลังเทวดาของผู้ใช้นั้น เทียนนั้นไซร้หนัก ๑ บาท จุดบูชาพระ นั่งภาวนา โรคโรคานั้นจะสูญสิ้น จงหันหน้าไปทางทิศทักษิณ แล้วบรรยาย

บทที่พระนารายณ์ขว้างจักร ฤทธิ์ศักดิ์มากนักหนา ภาวนาให้มั่น เมื่อผจญศัตรู ระลึกอยู่ในใจ ศัตรูไซร้หย่อนฤทธา แขนและขาให้อ่อนเพลีย ให้ละเหี่ยคิดย่อท้อ ไม่กล้าต่อสู้กับเรา ครูเฒ่าท่านกล่าวไว้ ท่านประจำทิศหรดี

บทที่กวาดป่าหิมพานต์ เดชเชี่ยวชาญเลิศล้น แม้นเดินหนพบเสือช้าง ใจกระด้างแรดโคควาย โจรผู้ร้ายเป็นคู่ขับ จงอึดใจภาวนา เป็นมหาจังงัง มันหยุดยั้งไม่เข้าใกล้ ศัตรูร้ายนั้นแคล้วคลาด อย่าประมาทจงภาวนา ทุกเวลาค่ำและเช้า จงบ่นเล่าพระคาถา เป็นมหามงคล จงหันหน้าไปทิศประจิม

บทที่นารายณ์เกลื่อนจักร ฤทธิ์นักครูท่านบอก ลูกไม่ออกเสกน้ำมนต์ ๑๐๘ หนกินเข้าไป ประพรมบนศีรษะ ดุจสวะจากคลองน้อย จงคอยดูคล้อยโดยคล่อง ๆ สะเดาะของอื่นเสกวารี ถ้าไม่มีเสกน้ำลาย เป่ากระจายหลุดด้วยฤทธิ์ ครูอยู่ทิศพายัก

บทที่นารายณ์ถอดรูป เลิศฤทธิ์สุดศักดิ์ดา ภาวนาสูบลมเข้าไป ยึดมั่นนับภาวนา จะเพ่งตาดูเงาไซร้ ถ้าเงาหายเป็นกำบัง คนสะพรั่งไม่เห็นเรา อาจารย์อยู่ทิศอุดร จงหันหน้าทางทิศนั้น

บทที่นารายณ์แปลงรูป อย่าระคายเร่งภาวนา ศัครูแปลกตัวเรา เสกเป่าสะเดาะ ๑๐๘ คาบ เป่ากระหน่ำมันลงไป ทนไม่ไหวหลุดหมดสิ้น อย่าถวิลเห็นประจักษ์ ถ้าหากรักทางเมตตา แป้ง น้ำมันหอม มาเสก ๑๐๘ ที เก็บเอาไว้เวลาใช้ เสก ๗ หนใส่ผมทาหน้าคน เป็นเสน่ห์แก่หญิงชาย เขารักใคร่ดังลูกหลาน ครูท่านอยู่ทิศอิสานเร่งบูชา ภาวนาก่อนจะนอน สถาพรนักแล ฯ

พระคาถาบท อะวิสสุคนุสานุสติฯ นี้ จงนั่งภาวนาลูบพาขึ้นตั้งแต่ปลายเท้าถึงหน้าครั้งละ ๓ ทีเช้าค่ำเป็นประจำทุกวัน ตาจะแดงดังครุฑเป็นมหาอำนาจยิ่งนัก ศัตรูย่อมกลัวเกรง ถ้าศัตรูล้อมไว้ จะหนีออกทางทิศใด ให้เอาพระคาถาทิศนั้นภาวนา ถ้าพักแรมคืนในที่ระแวงภัย ให้เอาดินหรือหินมา ๘ ก้อน ภาวนาพระคาถาประจำทิศไหน ก็ให้ขว้างหินหรือก้อนดินไปทางทิศนั้นจงครบทั้งแปดทิศ ศัตรูเข้ามาไม่ถึงเรา นอกจากนี้ หาวิธีใช้เอาตามปัญญาเถิด ฯ

โสทายะนะโมสุคโต ยะวะโร นะโมกุกกุสนโธ นะโมโคตะโม โลกะหิโต นะโมอะริยะเมตไตรย โยจะยะ บุคสุปาคะโต เวสันติลาโภ ภวันตุเม ฯ

พระคาถานี้เสกน้ำ ๓ หรือ ๕ คาบล้างหน้าทุก ๆ เช้า เกิดมหาอำนาจยิ่งนัก ภาวนาเวลาค่ำตืนก่อนจะนอนเป็นประจำ เป็นสวัสดิมงคลแก่ตัว และเป็นที่รักใคร่แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย คุ้มกันภัยนานาประการ เสกน้ำ ๓ คาบกินประจำ เกิดมีสติปัญญา ถ้าให้ผู้หญิงมีท้องกินประจำ คลอดลูกง่าย ลูกนั้นจะมีสติปัญญาดี เสกขี้ผึ้งสีปาก ๓ คาบ เป็นเสน่ห์แก่คนทั่วไป เสกน้ำสะบ้าสระหัว เป็นมงคลและแก้อวมงคลต่าง ๆ เสกน้ำ ๙ คาบรดต้นข้าวกล้าต้นผลไม้ ปลูกงอกงามดี ปัดเป่าแก้พิษไข้ร้อนคลุ้มคลั่งพิษสัตว์ต่อยและกัด ๑๐๘ คาบ เสกข้าวกินประจำทุกมื้อ ๆ ละเสก ๓ คาบ คงกะพัน

สัมพุทเธ เธวตา สัมพุทเธ เธวมนุษย์สา อุตตะมังวะรัง สัมพุทเธ เธวพรหมมา สัมพุทเธอินทรา ตุษิตายามา ปิตาสังฆา เทวปุตโต อะวิสุรัง ปาอะอิ สัมพุทเธทุติยัม ตะติยัง สุริยา นิสุมะยัง อุนะระนาสัง อะนายัง อะเสสะโต ฯ

พระคาถาบทนี้มีคุณวิเศษนัก ใช้สรรพเสกของกินคงทนแก่อาวุธนานาประการ เสกข้าวกินทุกมื้อ ๆ ละ ๓ คำ ๆ ละ ๑ คาบ คงกะพันแก่อาวุธทั้งปวง เสกหมากพลูและขมิ้นบอระเพ็ดยอดขี้เหล็กกินก็ได้ ฯ

อัตถิอัตเถนะ สะาสะเรนะ มังสังมังเสนะ จำมังจำเมนะ ตะปิตัง คะปิตัง พุทธะ ธัมมะ สังฆานุภาเว ฯ

หาวันดี คืนดี ยามดี จัดดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระและคุณครูบาอาจารย์ นั่งสมาธิบริกรรมพระคาถาเสกน้ำมันงา ๑๐๘ คาบแล้วเก็บรักษาไว้ เมื่อจะกินน้ำมันงา ให้เสก ๗ คาบแล้วกินตามสมควร จะให้ผู้อื่นกินด้วยก็ได้ จะคงกะพันแก่อาวุธยิ่งนัก กินประจำวันละ ๑ ครั้ง กินถึง ๓ เดือน คงถึงกระดูก เมื่อกินอยู่ตัวแล้ว จะกินเดือนละ ๒–๓ ครั้งก็ได้ ศัตรูก็จับไม่อยู่ ฯ

นะอะเต็กเต็ก ตับกูเป็นเหล็ก ไส้ปอดกูเป็นทองแดง กระดูกกูเป็นกำแพง เนื้อหนังกูแข็งครือศิลา นะคงข้างซ้าย โมคงข้างขวา พุทคงข้างหน้า ทาคงข้างหลัง อึคงเมื่อนอน อะคงเมื่อนั่ง เดชะพระพุทธัง ช่วยคุ้มรักษา นะอุดโมอัด ทาปิด นึมึพึทึ อึอัดอึอุด ฯ ภาวนาลูพาขึ้นจากปลายเท้าถึงศีรษะ ๓ ที ทีละ ๑ คาบ ทำเช้าค่ำเป็นประจำทุกวัน คงกะพันแก่อาวุธทั้งปวงและกำลังมาก หากจะต่อสู้กับศัตรู ก็ควรภาวนาพาขึ้นเพื่อปลุกความขลังอีก ๓ ที ก็ยิ่งดี ฯ

จงนั่งชักปลายเท้าทั้งสองข้างเข้ามาหาตัว แล้วเอาฝ่าเท้าพนมกันไว้ เข่าสองข้างต้องกางแบะออก แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า เพื่อเอาฝ่ามือทั้งสองแตะที่ข้างฝ่าเท้า แล้วภาวนา มือนั้นสีลูบไปมา ๓ ที แล้วลูบขึ้นทางข้างแข้งทั้งสองข้าง (ห้ามถูกหน้าแข้ง) ลูบผ่านข้างขาทั้งสองถึงตะโพก แล้วชักขึ้นสะเอวขึ้นตามสีข้างทั้งสอง แล้วผ่านใต้รักแร้ขึ้นเหนือต้นนม มือทั้งสองจะประสานกันเหนือหน้าอก มือขวาอยู่บนมือข้างซ้าย แล้วลูบขึ้นตามข้อมือไปตามลำแขนถึงหัวบ่า แล้วลูบผ่านข้างคอใต้หูขึ้นตามขากันไกรถึงหน้า ฝ่ามือสองข้างกลับเป็นแบบปกติ ลูบขึ้นถึงศีรษะ นี่เป็นวิธีพาขึ้นของท่านขุนจำเริญภักดี หากคาถาบทใดบอกว่า พาขึ้นเพียงไหน ก็ให้ลูบขึ้นหยุดเพียงนั้น เช่น ถึงหน้าอก ถึงบ่า และถึงศีรษะ เป็นต้น ต้องหัดให้ชำนาญคล่องแคล่วเสียก่อนจึงใช้ คาถาพาขึ้นนี้มีข้อห้ามอยู่ว่า ข้ามขึ้นถูกหน้าแข้ง อาคมจะเสื่อม ขึ้นผ่ายอดอกตรงที่ลุ่ม (หัวใจ) จะเป็นบ้าอาคม ลูบสีไปมาข้างฝ่าเท้าเริ่มแรกนั้น เรียกว่า ลับอาคมให้ขลังด้วยหินเนียน (หินหยาบ คือ ฝ่าเท้า) อาคมที่ใช้พาขึ้นในตำราเล่มนี้เป็นวิชาร้อนและแรง จึงควรระวังต้องปฏิบัติให้ตรงตามที่กล่าวไว้ว่า พาขึ้นถึงหน้าอก ก็จะต้องเป็นหน้าอก ถึงบ่า ก็ต้องเพียงบ่าหรือหน้า เป็นบท ๆ ไป หากลูบพาขึ้นเกินสูงขึ้นกว่าที่บอกกำกับไว้ ก็เกรงจะร้อนแรงเป็นบ้าอาคมไป จงพึงระวัง

คาถาทุกบทในตำราเล่มนี้ ที่แจ้งว่า ให้ภาวนาลูบพาขึ้นนั้น ก็ให้พาขึ้นตามวิธีนี้ได้ทุก ๆ บท ตามกำหนดที่หยุดไว้ให้แล้ว ฯ

อิติคกคก คกคกอิติ อิติคกคก นะมะพะหะ ดะฮึม ดะฮัม ดะฮัม ดะฮึม นะอะฮึม ฯ

ภาวนาทำเสียงหนัก ๆ ในลำคอ ลูบพาขึ้นจากปลายเท้าถึงศีรษะ ๓ ที ๆ ละ ๑ คาบ เวลาเช้าและค่ำเป็นประจำทุกวัน จะเสกข้าวกินมื้อละ ๓ คำ ๆ ละ ๑ คาบ ก็ยิ่งดีที่จะใช้คู่กันไป คงทนแก่อาวุธทุกชนิดและมีกำลังมาก ในเมื่อกำลังต่อสู้กับศัครู ถูกทุบตี ก็ไม่แตกไม่เจ็บ เสกของใด ๆ กินก็ได้ คาถาพาขึ้นทุกบน ถ้ามีเวลาเตรียมตัวจะสู้ศัตรู ให้พาขึ้นอีก ก็จะเพิ่มความขลัง แล้วแต่ถือบทหนึ่งบทใด ฯ

มะกุมอะ อะกุมมะ มะหึมขึมขัม ติอะมะ นะลุ่ย โมหลุด พุทไหล ออกจากร่างพระพุทธัง พระธัมมัง พระสังฆัง น้ำมันไหลออกจากร่าง พระธรรมสะระนัง คัตฉามิ จักขุตัง มานิตัง อึอะ ฯ

ให้บีบเอาน้ำมันที่ปลายจมูกใส่ในฝ่ามือ ๆ ประกบกัน แล้วภาวนาผัดมือไปมาเสกน้ำมัน แล้วภาวนาลูบพาขึ้นจากปลายเท้าถึงศีรษะ ๓ ที ๆ ละ ๑ คาบ ทำเช้าและค่ำเป็นประจำทุกวัน คงทนแก่อาวุธยิ่งนัก ตัวก็จะลื่นเพราะน้ำมันซึมออกมา ศัตรูจับไม่อยู่ ฯ

อึนะเต็กเต็ก ตับกูเป็นเหล็ก ไส้ปอดกูเป็นทองแดง น้ำเลือดกูเป็นน้ำกรด น้ำชำเมลือกกูเป็นเผือกมัน น้ำลายกูเป็นศีรษะ เนื้อหนังกูเป็นงั้ง นะอิติคกคก คกคกอิติ อิติคกคก นะมะพะทะ ดะฮึม ดะฮัม โอมเพ็ชชะตึงเพ็ชชตัง เพ็ชหน้าทั่ง หนังแห้งแข็งเหล็ก ฯ

ภาวนาลูบพาขึ้น ๓ ที ๆ ละ ๑ คาบ เช้าและค่ำเป็นประจำทุกวัน ลูบถึงศีรษะ คงกะพันแก่อาวุธยิ่งนัก และเกิดกำลังมาก ในเมื่อกำลังต่อสู้ศัตรู เสกข้าวกินก็ได้ มื้อละ ๓ คำ คำละ ๑ คาบ ฯ

นะโมนะมัสการ เชิญท่านมาสู่ พระครูทั้งหลาย ท่านได้เอ็นดู เชิญท่านมาสู่ ตัวข้ามีการ ขอให้มีชัยชนะแก่มาร วันนี้เชิญท่านมาเอาใจลง หมากพลูธูปเทียน ข้าแต่งไหว้ครู ถวายท่านทุกองค์ กระแจะน้ำมัน ครบครันบรรจง พระครูทุกองค์ จงให้ประสิทธี ฯ บทนี้ภาวนาลูบพาขึ้นถึงบ่า ๓ ที ๆ ละ ๑ คาบ แล้วภาวนาลูบพาขึ้นบทนี้ต่อไป

ข้าขอปลุกยันต์มณฑล ปลุกเครื่องทั้งนี้ ปลุกพระอักขระ อักษรให้ดี ในร่างกายี ทุกสิ่งนานา ปลุกเนื้อปลุกหนัง ปลุกทั้งมังสัง กระดูกรูปา ปลุกน้ำปลุกเลือด แล่นเลื่อนขึ้นมา ปลุกทั้งอักขระ อึอะพระธรรม น่ก่น่กะ นะมะพะทะ มีอยู่ประจำ คงพันรูปา ประเจียกประจำ ฤฤาฦฦา รักษาเช้าค่ำ ตะกรุดทิสมอน ทั้งคงกะพัน เพ็ชย่ท่ทั้ง ล่องหนกำบัง ทั้งนั้นขึ้นมา นะนำเดินหน้า อย่าได้ไปอื่น เชิญขึ้นมาทำ นะโสโมโส พุทโธขึ้นมา นะทำธะทา ย่สิท สิทธี ฯ

ปลุกคาถาอาคมที่เล่าเรียนถืออยู่ให้เกิดประสิทธิ์ขลัง ปลุกเครื่องรางใด ๆ ก็ได้ ใช้ภาวนาลูบขึ้นเป็นประจำทุกวัน คงทนแก่อาวุธ ฯ

นะอะเย็น โมอะเย็น พุทธังอะเย็น ธัมมังอะเย็น สังฆังอะเย็น เย็น ๆ เสมือนน้ำในคณโฑทอง อึมิ อะมิ อุมิ ฯ

บริกรรมภาวนาลูบพาขึ้นจากปลายเท้าถึงศีรษะ ๓ ที ทีละ ๑ คาบ หรือจะเสกน้ำมนต์ดื่มกินพรหมศีรษะล้างหน้าหรืออาบก็ดี แก้และระงับร้อนอาคมซึ่งอาจจะทำให้จิตฟุ้งเฟ้อนานาประการ หาความสุขใจไม่ได้ จึงต้องมีคาถานี้ไว้เป็นคู่กันกับคาถาพาขึ้นทุกบท หากผู้ใดเรียนวิชาพาขึ้น รู้สึกจิตใจไม่ปกติแล้ว จงใช้คาถามหาเย็นนี้ระงับจะเสกหมากพลูกินก็ได้ ทำให้ผู้อื่นก็ได้ ปัดเป่าคนไข้ร้อนเพ้อคลั่งก็ได้ ฯ

นะมะพะทะอึ นึมึพึทึอะ โสปัตตังสะระ ปัตนัง โสภควา ฯ ให้เลือกเมล็ดข้าวเปลือกที่กำลังจะกินข้าวนั้นสัก ๑ เมล็ด แล้วเอาข้าวสุกห่อปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ พอขนาดกลืนกินได้ กำลังปั้นก้อนข้าวอยู่นั้น จงอธิษฐานว่า เมล็ดข้าวนี้จะทิ่มจะตำจะหุงจะต้มก็ไม่แตกและไม่สุก ขอให้ได้แก่ตัวเราเถิด แล้วเสกก้อนข้าวนั้น ๓ คาบ จึงกลืนกิน อย่าให้ก้อนข้าวนั้นแตก ทำกินประจำทุกมื้อ ทำให้ผู้อื่นกินก็ได้ คงกะพันแก่อาวุธทุกชนิดยิ่งนัก ให้สุนัขกินคู่กัดไม่เข้า ฯ

เมื่อจะนุ่งผ้าหรือกางเกง ให้ปฏิบัติดังนี้ เพื่อเป็นสิริมงคล ฯ

นุ่งผ้าหรือกางเกง ให้ว่า เอารกหนาแม่มารองนั่ง ฯ

สวมเสื้อ ให้ว่า เอารกบางแม่มาหุ้มตัว ฯ

รัดเข็มขัดหรือผ้าคาดเอว ให้ว่า เอาสายสะดือพันรอบเอว กายะพันธะนัง ฯ

สวมหมวกหรือผ้าโพกศีรษะ ให้ว่า เอาน้ำทังแม่มาทูลหัว มาเป็นกรงจักรแก้วครอบตัวขอลูกไว้แล้ว นิตติ จิตติ จับปัตติสนธิ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา อิติปิโสภะคะวา อรหังสัมมาสัมพุทโธ ฯ

ให้ปฏิบัติเป็นประจำตลอดไป เป็นมงคลแก่ตัว ย่อมแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งมวล เป็นสง่าราศีและอำนาจเหนือศัตรู อาวุธนานาไม่เข้าใกล้ตัวเราเลย ฯ

อึอิอะนาอะระหัง ฯ

นั่งบ่ายหน้าสู่ทิศบูรพาหรือทักษิณ วางอารมณ์ให้สงบ เอาแม่มือข้างขวาตั้งทับเข้าที่สะดือ (เรียกว่า หลัก) แล้วกลั้นใจภาวนาบิดหมุนแม่มือไปทางซ้ายเต็มอึดใจ ๑ ทีหรือ ๑ รอบ แล้วตั้งแม่มือใหม่แต่ภาวนาบิดหมุนกลับมาทางขวา ๑ ทีหรือ ๑ รอบ ทำวันละ ๒ เวลาเช้าค่ำเป็นประจำทุกวัน เป็นมหาประเจียด อาวุธนานาไม่ต้องเลย ปืนยิงมาเป็นห่าฝนก็บ่มิต้องกายเรา วิเศษนัก หากจะภาวนาบิดหมุนไปแต่ข้างเดียว ก็จะประเสริฐยิ่งนัก แม้จะกุมชายพกไว้ ก็แทงไม่ถูก แต่การปฏิบัติอย่างนี้ องคะชาติจะหดสั้นไม่มีเหลือเลย บทนี้วิเศษยิ่ง ฯ

อึฝนตกก็ไม่ต้อง อะฟ้าร้องก็บ่มิถึง แม่จูบลูกก็บ่มิถูก เปียกก็บ่ห่อนเปียก แห้งก็บ่ห่อนแห้ง ฯ

เมื่ออาบน้ำแล้ว ให้ภาวนาพาขึ้นลูบจากข้างสะเอวถึงศีรษะเต็มอึดใจ ๑ ที ทำทุกครั้งที่อาบน้ำแล้วเป็นประจำทุกวัน ต่อนั้นก็ให้หลังมือข้างขวาเช็ดที่ใต้รักแร้ข้างซ้ายว่า “สะเล๊าะ” เอาหลังมือซ้ายเช็ดใต้รักแร้ขวาว่า “สะแล๊ะ” ใช้คู่กันเมื่ออาบน้ำแล้วเป็นประจำ เป็นประเจียด แคล้วคลาดอาวุธนานาประการ ฯ

นั่งวางอารมณ์ให้สงบ เอาแม่มือทั้งสองทับแตะเข้าที่ริมข้างปากทั้งสองข้างว่า “คาบ” แม่มือจับอยู่ที่เดิม เอานิ้วชี้ทับอุดเข้าที่รูหูว่า “พระธรรม” แล้วเลื่อนนิ้วชี้ไปทับไว้ที่ตาทั้งสองข้างว่า “ดวงแก้ว” ทำครั้งละ ๑ นาทีเป็นประจำเช้าค่ำทุกวัน เป็นมหาประเจียด แคล้วคลาดอาวุธนานาประการดีนัก ฯ

อิติปิตุ อุทังทวารัง อุอะ ฯ ภาวนาก่อนจะนอนทุกคืน เพิ่มความขลัง ภาวนาในใจเมื่อเข้าผจญภัย กันปืนยิงไม่ออก ฯ

พุทธังอุด ธัมมังอุด สังฆังอุด ฯ

เมื่อถ่ายท่าหนัก ได้ชำระแล้ว เอานิ้วมือปิดทับรูทวาร ภาวนา ๑ ที อึดใจ ถ่ายท่าเบาแล้ว เอานิ้วมือทับที่รูองคชาตว่า “อำมะ อำมะ อึมอึ” ภาวนา ๑ ที อึดใจ ใช้ค่กันทั้งสองบทนี้เป็นประจำ กันปืนยิงไม่ออก ฯ

สุคคะตุด สุคคะโต สุคคะตัตถานัง อะปิ๋ป ฯ

ภาวนาลูบพาขึ้นตั้งแต่ปลายเท้าถึงหน้าอก (อย่าให้พ้นหน้าอก) ๓ ที ทำเช้าค่ำเป็นประจำทุกวัน เข้าผจญตวาดศัตรูเห็นเป็นไฟ มันทนไม่ได้ ล้มลงแล เคยตวาดช้างพลาย ๓ เชือก วิ่งขี้แตกเข้าป่ามาแล้ว เป็นที่ประจักษ์ หากชาวไร่ชาวนาถือคาถานี้ ข้าวจะแดงไม่งอกงามเลย ห้ามตวาดญาติมิตร เพราะจะเป็นโรคประสาททำให้เสียคน ฯ

มิฯ นี้ ยอดศีล มีอานุภาพในทางคุ้มกันให้ปลอดภัย ภาวนาเวลาจะนอนทุกคืน ศัตรูลอบทำร้าย ยกมือไม่ขึ้น อาวุธจะตกจากมือ เดินทางในที่ระแวงภัย ภาวนาในใจ ศัตรูจะปองร้ายไม่ได้เลย มันผู้คิดร้ายจะมีอันเป็นไปต่าง ๆ เป็นที่ประจักษ์มามากแล้ว หากเข้าที่คับขัน ตวาดก็เป็นตะบะยิ่งนัก ศัตรูและสัตว์ดุร้ายจะทนอยู่ไม่ได้ ล้มลงแล ฯ

นะพุทโธ โมพุทธัง มะโมจังงัง สังฆังพุทโธ อึ ฯ

ถ้าพบศัตรู หรือสงสัยว่าจะเป็นศัตรู ให้ภาวนาเต็มอึดใจ แล้วหายใจไปสู่ศัตรูนั้น ๆ ศัตรูนั้นจะกลัวเกรงเรา ไม่กล้าทำร้าย ฯ

อะอิอุธะ ฯ ภาวนาทุกคืนเพิ่มความขลัง ถ้าศัตรูจะทำร้าย อึดใจภาวนาตวาดไป ศัตรูตกใจ หยุดอยู่กับที่ เดินไปมาไม่ได้ ฯ

อึนะปลุก ๆ โมขึ้น ๆ ยิ่ง ๆ พุทธังประสิทธิ์ ธัมมังประสิทธิ์ สังฆังประสิทธิ์ พุทธังปลุก ๆ ธัมมังปลุก ๆ สังฆังปลุก ๆ คาถาอาคมข้าพเจ้าขึ้น ๆ ยิ่ง ๆ อึโมนะ ฯ ภาวนาลูบพาขึ้นจากปลายเท้าถึงศีรษะ ๓ หรือ ๗ ที ปลุกคาถาอาคมในตัวให้ประสิทธิ์ขลัง ปลุกของขลังก็ได้ ฯ

คาถาปลุกอีกบทว่า โอมปลุกมหาปลุก ปลุกรูปมะขันธ์โท ปลุกนามมะขันธ์โท เวทนาขันธ์โท ธาตุพุทโธ อิทติริทธิ ทายะพุทโท มะอะอุ อิทติริทธิ ฯ วิธีใช้เหมือนบทข้างต้น ฯ

อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนะเมอิ ตินะเม พุทธะเสตังอิ อิเสตัง พุทธะปิติอิ ฯ บางตำราเรียกพระอิติโสเรือนเตี้ย

ภาวนาค่ำคืนก่อนจะนอน คุ้มกันภัยอันตรายทั้งมวล และมีสง่าราศีเป็นที่เมตตาแก่ปวงชน ผู้ใดคิดร้าย มันแพ้ภัยตัวเอง ภาวนา ๘ คาบ เป่าไปหาศัตรู เป็นมหาจังงัง เสกแป้งผัดหน้าเป็นเสน่ห์ ภาวนาเดินทางที่ระแวงภัยไม่พบศัตรู ภาวนาเข้าสนามรบ แคล้วคลาดอาวุธ เสกผ้าโพกศีรษะ ศัตรูเห็นเราเตี้ย จำไม่ได้ นั่งวางอารมณ์ให้สงบ ภาวนาเอามือวนเวียนบนศีรษะ ๓ จบ ระลึกว่า ได้เอาพระมงกุฎพระพุทธเจ้าสวมศีรษะเราไว้แล้ว ทำเช้าค่ำเป็นประจำ หรือมีที่ไประแวงภัย เป็นมงคลแก่ตัว และแคล้วคลาดสรรพอันตรายทั้งมวล เสกน้ำมนตร์รดศีรษะและดื่มกิน สะเดาะลูกในท้อง สะเดาะก้างปลาติดคอ นอกจากนี้ ตามปรารถนาหาเล่ห์ให้เอาเถิด อีกตำราหนึ่งว่าดังนี้

อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนะเมอิ อิเมนะ พุทธโสตังอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ ตะโจพระพุทธเจ้า จงมาเป็นหนัง มังสังพระธัมเจ้า จงมาเป็นเนื้อ สังฆัง อัตถิพระสังฆเจ้า จงมาเป็นกระดูก ตรีเพ็ชชตง ๆ อิสะวาสุ สุสะวาอิ พุทธปิติอิ ฯ

พระคาถา ๒ บทนี้ เลือกใช้ได้บทหนึ่งบทใด ใช้ได้เหมือนกัน ฯ

อิติบารมีตาดึงษา อิติสะปัดอุมาคะตา อิติโพธิ มนุษย์ปัตโต อิติปิโส เจ็ดเตนะโม ฯ

ได้เมื่อพระพุทธผจญกับพระยามาร มารพ่ายแพ้ถอยหนี หาเล่ห์ใช้ได้มากมาย เสกข้าวกินได้ทุกมื้อเป็นประจำคงกะพันชาตรี ภาวนามั่นไว้ สรรพศัตรูทำร้ายมิได้เลย แม้จะเข้าสนามรบก็ดี ย่อมแคล้วคลาดภัยนานาประการ จะไปแห่งใด จงบ่ายหน้าสู่ทิศที่จะไป ยืนอึดใจภาวนา ๓ ที จึงไปเถิด คุ้มกันภัยอันตรายได้ทุกประการ ศัตรูทำร้ายไม่ได้ เสกน้ำล้างหน้าทุกเช้า ราศีดี เป็นที่เมตตาแก่ฝูงชน ภาวนาต่อสู้กับศัตรู แคล้วคลาดอาวุธทั้งปวง เข้าที่อับจน มั่นภาวนาไว้จะปลอดภัย นอกจากนี้ หาเล่ห์เอาตามปัญญา ฯ

สะอะระนะ สะวะระอะ มาเรโส ฯ กลั้นใจภาวนาเต็มอึดใจ สูบลมเข้าท้อง ทำ ๓ ที เรียกคาถาอาคมเข้าตัว เพราะเวทย์มนต์ใด ๆ ย่อมเข้าออกไม่ประจำที่ ฯ

นะปิดอักขระ นะปิดสะทะ ฯ เมื่อทำวิชาอาคมแล้ว ให้เอามือปิดกระหม่อม ภาวนาเต็มอึดใจ ๑ ที ปิดอาคม ฯ

พุทธังผูก ธัมมังผูก สังฆังผูก พุทธังรัตตนัง ธัมมังรัตตนัง สังฆังรัตตนัง กลั้นใจภาวนาเอานิ้วมือเวียนรอบสะดือเต็มอึดใจ ๑ ที ผูกอาคม ฯ

โอมไชย ๆ สรรพไชย สุทธิเมโมสุโข อิติสัมมาสัมพุทโธ นะเทสิตัง นะยาโร กุตสัมปัตติ สิทธี อุกาสะ อะระคะนังกาโรมิ ฯ

ภาวนาลูบพาขึ้นตั้งแต่ปลายเท้าถึงกระหม่อม ๓ ทีเช้าค่ำเป็นประจำ คงทนแก่อาวุธทั้งปวงนัก มีดอกไม้ธูปเทียนบูชาครู เสกน้ำมนต์ ๑๐๘ คาบ หรือตามกำลังวัน ใช้ดื่มและรดศีรษะหรืออาบน้ำและล้างหน้า ๓ วัน แก้อัปมงคลต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้อาคมเสื่อม ทำให้ผู้อื่นก็ได้ ฯ

อะทง ฯ เอามือขวาปิดกระหม่อมในเมื่อจะลอดเข้าใต้สิ่งที่เสื่อม เช่น ใต้ราวตากผ้า ใต้สะพาน ใต้ไม้ค้ำเรือน ใต้เครือฟักเขียวฟักทอง เป็นต้น คุมกันอาคมไม่ให้เสื่อม ฯ

อิตินิด ฯ ได้เมื่อพระพุทธเจ้าเล่นซ่อนหากับพระอิศวร ๆ หาไม่พบ ถ้าเข้าที่อับจน หนีศัตรูไม่ทัน ก็ให้วิ่งหาต้นไม้ และเอามือกุมต้นไม้นั้น ภาวนาเรื่อยไป ศัตรูไม่เห็นตัวเรา เป็นกำบัง ฯ

อึนะพุทธังกัน ธัมมัง สังฆังกัน กำแพงเพชร และเกราะเพชรทั้งเจ็ดชั้น มากันตัวกู เป็นเสภามหาเสภา พระครูให้กูกัน เสร็จทั้งจะกละและทะมบ สรรพการทั้งปวงมาทำแก่กูก็บ่มิต้อง ครั้นคนมาลองแก่กูก็บ่มิเข้า พุทธังสะสะ ธัมมังสะสะ สังฆังสะสะ ฯ

นั่งเอามือขวาปิดกระหม่อม เอามือซ้ายปิดสะดือ ภาวนา ๓ ที อึดใจ กันตัว กันได้ทุกสิ่งสารพัด ฯ

โลนพิทักษ์ ยี่ยักษ์กุมาร มารพิชัย ภัยยะสังหาญ ฯ นี่เป็นชื่อของพี่เลี้ยงทั้ง ๔ คนที่รักษากายเรา แต่ถือว่า ไม่เรียก ท่านก็ไม่ขาน ไม่วาน ท่านก็ไม่ทำ ถึงมีอยู่ก็เฉย ๆ จึงให้ถือปฏิบัติดังนี้

เมื่อเราจะกินข้าวหรือกินอาหารคาวหวานหรือผลไม้เครื่องดื่มใด ๆ และทุก ๆ มื้อทุก ๆ ครั้งที่เราดื่มหรือกิน ให้ระลึกถึงชื่อพี่เลี้ยงทั้งสี่คนมาร่วมกินด้วยจงทุก ๆ ครั้ง จะเว้นเสียมิได้ เมื่อระลึกชื่อชวนมากินแล้ว เรายกอาหารใด ๆ คำแรกจะกิน ต้องระลึกว่า โลนพิทักษ์ คำที่ ๒ พี่ยักษ์กุมาร คำที่ ๓ มารพิชัย คำที่ ๔ ว่า ภัยยะสังหาญ เมื่อกินครบสี่คำแรกแล้ว ต่อไปก็กินตามปกติ ถ้ามียาพิษในของกิน อาจจะกินไม่ได้ ค่ำคืนเวลาจะนอน ก็ชวนพี่ทั้ง ๔ นอนด้วย และให้ช่วยพิทักษ์รักษากันภัย จะออกจากบ้านไปทางไกล ขึ้นรถลงเรือ ก็ชวนพี่ไปให้ช่วยคุ้มครองป้องกันภัยให้ ออกณรงค์สงคราม ก็ให้ชวนพี่ไปเป็นเพื่อนช่วยคุ้มครองให้ความปลอดภัย เข้าที่คับขัน ก็จะระลึกพี่ช่วยป้องกันรักษาให้ปลอดภัยและแคล้วคลาดจากอาวุธนานาประการ จะทำอะไรจงระลึกถึงพี่ช่วยเหลือเถิด พี่ทั้ง ๔ คนนี้เป็นยักษ์ แต่เคยแสดงให้ผู้อื่นเห็นเป็นคนธรรมดามาแล้ว หากพระสงฆ์ถือประจำ จำเป็นศักดิ์สิทธิ์ แต่อาจารย์บอกว่า จะเป็นบาป ข้าพเจ้าถือว่า นี่คือหัวใจของตำราเล่มนี้ ผู้ใดถือประจำ จะแคล้วคลาดสรรพภัยทั้งปวง ฯ

พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สัตตะระตะนะปะการัง อัมมะหากัง สะระนังคัจฉามิ สุสุ ละละ โสโส นะโมพุทธายะ พุทโธพระบัง ธัมโมพระบัง สังโฆพระบัง ฯ

ภาวนาก่อนจะนอนทุกคืนเป็นประจำ คุ้มกันภัยอันตราย อาวุธนานาไม่เข้าใกล้กายเลย มีที่ไประแวงภัยหรือจะไปผจญด้วยศัตรู ให้ลูบพาขึ้นจากปลายเท้าถึงกระหม่อม ๓ ที หรือจะพาขึ้นเป็นประจำทุกวันเวลาเช้าค่ำ ย่อมแคล้วคลาดจากสรรพอาวุธทุกประการ คุ้มกันได้ถึงคุณผีใช้คุณทะมบทั้งปวงได้แล ฯ

นะอัม ฯ อึดใจภาวนาแล้วหายใจไป ศัตรูไม่กล้าสู้กับเรา ฯ

อึอำ ฯ อึดใจภาวนาเมื่อเขาโกรธ ผู้นั้นยกมือทำร้ายเราไม่ขึ้น ฯ

อะอา ฯ อึดใจภาวนาเมื่อลอดประตูบ้านศัตรู ๆ ผู้นั้นลุกไม่ขึ้น ฯ

ชยาสนากตา พุทธา เชตวา มารัง สวาหนัง จตุสัจจาสภัง รสัง เยปีวีสุ นราสภา ตัณหังกราทโน พุทธา อัฏฐวีสติ นายะตา สัพเพ ปติฏฐิตา มัยหัง มัทลเก เต มุนิส สราสีเส ปติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทวิโรจเน สังโฆ ปติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพคุณากโรหทเย อนุรุทโธ จ สาริปุตโต จ ทักขิเณโกณฑัณโญ ปิฏิฐิภาคัสสมิง โมคคัลนาโน จ วามเก ทักขิเณ สวเณ มัยหัง อาสุง อานันทราหุโล กัสสโป จ มหานาโม อุภาสุ จ วาสโสตเก เกเสนเต ปิฏฐิภาคัสสมิง สุริโย ว ปภังกโร นิศีลโน ศิริสัมปันโน โสภีโต มุนิปุงคโว กุมารกัสสโป เถโร มเหษีจิตวาทโก โส มัยหัง วทเน นิจจัง ปติฏฐาสิ คุณากโร อังคุลิมาโล จ อุปาลินันทสีวลี เถราปัญ จ อิเม ชาตานลาเต ติลกา มม เส สาลิติ มหาเถรา ชิตา จ ชินสาวกา เอเตสีติ มหาเถรา ชิตวันโต ชิโนรสา ชลันตา ศีลเตเชน อังคมังเคสุ สัณฐิตารตนัง ปรุโต อาสิ ทักขิเณ เมตตสุตตกัง ธชัคคัง ปัจฉโต อาสิวาเม อังคุลิมาลกัง ขันธโม รปริตตัญ จ อาฏานาฏายะ สุตตะกัง อากาเส ฉทนังอาสิ เสสา ปาการสัณฐิตา วาตะ ปิตตาทิสัญชาตา ทาหิ รัชฌัตตุปัทวา อเสสา วินยังยันตุ อนันตชินเตชสาวสโต เม สกิจเจน สทา สัมพุทธปัญชเร ชิณปัญชรมัชฌัมหิ วิหรันตัง มหีตเล สทาปาเลนตุ มังสัพเพเต มหาปุริสา สภาอิจเจวมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวน ชิตุปัทโว ธัมมานุภาเวน ชิตาริ สังโฆ สังฆานุภาเวน ชิตันตราโย จรามิ สัทธัมมานุภาวปาลิโตติ ชินปัญชรปริตตัง ฯ

พระคาถามหาวิเศษบทนี้เป็นของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) วัดระฆัง ธนบุรี พระราชาคณะในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จฯ องค์นี้ทรงมีอภินิหารมากมาย ท่านเป็นผู้สร้างพระผง (พระพิมพ์พระสมเด็จ) แจกแก่ประชาชนในสมัยนั้นให้เป็นทาน ปรากฏว่า ผู้ได้รับพระสมเด็จท่านไว้บูชา มีคุณอภินิหารมากมาย ความเรื่องนี้ทรงทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงรับสั่งถามว่า พระผงนั้นทำอย่างไรจึงได้ปรากฏอภินิหารมากถึงเพียงนี้ สมเด็จพุฒาจารย์จึงถวายพระพรให้ทรงทราบ พร้อมกับถวายพระคาถาชินบัญชรว่า ได้กระทำขึ้นสำเร็จด้วยพระคาถามหาวิเศษบทนี้

พระคาถาบทนี้มีคุณานุภาพมากมาย ผู้ใดภาวนาไว้ก่อนจะนอนทุกคืนเสมอไป จะเจริญยิ่งด้วยลาภยศเจริญชนมายุยืนยาวปราศจากภัยอันตรายที่จะมาเบียดเบียน เสกน้ำมนต์กินรดศีรษะ แก้สรรพโรคภัยไข้เจ็บ แก้คุณทะมบทุกจำพวกได้สิ้น ทำน้ำมนต์สะเดาะพระเคราะห์ แก้อวมงคลต่าง ๆ น้ำมนต์รดและอาบคนวิกลจริตก็ดี ปลุกพระเครื่องรางและของขลัง จะประสิทธิ์ขลังยิ่ง ๆ ขึ้น เสกน้ำไว้ล้างหน้าทุก ๆ เช้า เป็นมงคล มีสง่าราศี แคล้วคลาดจากสรรพภัยนานา ปรารถนาสิ่งใด มั่นใจภาวนา จะเกิดผลสำเร็จความปรารถนา ข้าพเจ้าพิมพ์ครั้งที่ ๑ ได้มีผู้เลื่อมใส ใช้เสกน้ำมนต์กินประจำ ปรากฏว่า โรคเบาหวานที่เขาเป็นอยู่และเคยรักษามามากแล้วก็ไม่หาย แต่เมื่อใช้น้ำมนต์นี้ ๒ เดือนกว่า โรคนั้นหายเป็นปกติ และเคยทำน้ำมนต์ให้คนที่เป็นโรคประสาทกินเพียง ๑ ขวด ก็หายเป็นปกติ เป็นที่ประจักษ์แก่ข้าพเจ้ามาแล้ว พระคาถาบทนี้ได้รับความกรุณาจากท่านเจ้าคุณพระธรรมกิตติ วัดระฆัง พิมพ์แจกและส่งไปให้ข้าพเจ้า ฯ

นะโมนะมัสการ ข้าไหว้คุณพระพุทธัง พระธัมมัง สังฆังนา ตกแต่งร่างกายาครบด้วยดวงแก้วสามประการ ข้าไหว้อีกคุณมัคคุณผลคุณศีลทานคุณทั้ง ๑๐ ประการ อีกดินน้ำและลมไฟ ข้าไหว้คุณพระพุทธเจ้าท่านนั้นเล่าได้เป็นใหญ่ แผ่นดินแผ่นฟ้าในท่านส่งให้ได้มา ปัถวีและอาโปวาโยธาตุอยู่รักษา อาทิตย์พระจันทรา อังคารพุธพระหัสไซร้ ศุกร์เสาร์ราหูเกตุ อักขระเมธเอคราศี ข้าไหว้คุณพระอักขระอักษรมาสามคาบมี พระอภิธรรมทั้งเจ็ดคำภีร์ อักขระสี่อยู่รักษา อักษรทั้ง ๑๖ ข้ายอยกไหว้วันทา เบ็ญจขันธ์นั้นทั้งห้าซ้ายและขวามาคุ้มกันปากประตูทั้งเก้าแห่ง แต่งกำแพงทั้งเก้าชั้น ป้อมหอค่ายคูกั้นทุก ๆ ชั้นท่านรักษา ข้าไหว้คุณพระสูตรพระวินัยพระธรรมา เชิญท่านเข้ามารักษา ขออย่าให้มีมารมาเบียดเบียน ข้าไหว้คุณพระพุทธเจ้า เชิญท่านเล่ารักษาเกล้าเหนือเศียร ซ้ายและขวากันมารเบียน อีกหน้าหลังทั้งตีนมือ คุณท่านมารักษาร่างกายาทั้งนั้นหรือ หูตาและตีนมือประตูน้อยประตูใหญ่ ข้าไหว้คุณพระอักขระ เมื่อเข้ามาตั้งอยู่ในท้องพระบิดาไซร้ ครบเจ็ดวันผันผ่อนมาอยู่ในครรภ์พระมารดา คุณอักษร คุณอักขระ คุณนะมะพะทะ มะอะอุ อยู่ในครรภ์ครบถ้วนสิบเดือนกว่า พระมารดาให้ป่วนปั่น เมื่อข้าออกจากครรภ์ ตัวข้าไหว้ข้าวันทา ไหว้คุณอัสวาสปัสวาสเข้ามารักษา นิสวาสแนะนำมา เมื่อกายาจากนาภีร์ ตกใจขวัญหายบิน ลืมฟ้าดินรูปร่างดี ตัมแยยกล้างสี ตัวข้านี้รู้สึกมา ข้าไหว้คุณพระอักขระ พระสัสดีเข้ามารักษา แนะนำนึกคุณมา คุ้มใหญ่แล้วได้เล่าเรียน ข้าไหว้คุณพระอาจารย์เจ้า สอนให้เล่าสอนให้เขียน แนะนำทำความเพียร สอนให้เรียนพระธรรมา ไชยไชยประสิทธีคุณทั้งนี้มาป้องกัน เป็นกำแพงเพชรทั้งเจ็ดชั้น พุทธังกันทังอุบาทว์เสนียดและจัญไร ธัมมังมีมงคลใน กันทั้งเสนียดและจัญไร กำจัดไปได้ร้อยโยชน์ ไชยไชยประสิทธีสวัสดีมงคลโสต สังฆังคุ้มกันโทษโภยภัย อันตรายอย่ามามี ไชยไชยประสิทธีคุณบารมี มากันฝูงมาร กันสิ้นทุกสถาน คุณศีลทานคุ้มรักษา คุณครูทั้งห้าแห่ง เป็นกำแพงแข็งตรึงตรา คุณท่านมารักษา คุณบิดามาคุ้มอยู่ คุณท่านพระมารดามารักษาช่วยค้ำชู เป็นกำแพงแห่งคุณครู ปกเกล้าอยู่คุ้มรักษาศัตรูก็ขามเข็ด เป็นเกราะเพชรกั้นตรึงตรา บรรดาเครื่องเหล่าสาตราเห็นตัวกูหลบหนีไกล พันละเครื่องหอกแหลนหลาวดาบของ้าวปืนน้อยใหญ่กฤชสั้นกฤชดีในไหลเป็นน้ำตามคมมีด ไชยไชยเพ็ชชองกัน กันทั้งขวากหนามก็อยู่ไม่ติด หลบหลีกทั่วอกขนิษด้วยเดชะคุณรักษา ไชยไชยเพ็ชชองกัน กันทั้งผีศาจราชมายา ขอเชิญท่านเข้ามารักษา แห่งตัวข้าประสิทธิไชย ฯ

นมัสการคุณบทนี้ ภาวนาไว้ทุกค่ำคืนก่อนจะนอนเป็นประจำ เกิดสิริมงคลและอำนาจมาก เป็นที่ย่ำเกรงแก่ศัตรูและปวงชน ภูติผีปีศาจร้ายก็ไม่กล้าอยู่ใกล้ แคล้วคลาดจากอาวุธนานาประการ และคุ้มกันภัยอันตรายทั้งปวงได้ดียิ่ง

มังสังมังเส โลตังโลเต พุทธาจัตตาโร เอโก ปัตโต ข้อหักกูจะต่อ กระดูกหักกูให้ติด นะมิตชิดติดติอิ ฯ

เสกน้ำมันงาตามกำลังวัน ทาแผลที่กระดูกแตกหรือหักพร้อมด้วยปัดเป่าแล้วเข้าเฝือกไว้ และปัดเป่าทุกวันกว่าจะหายสนิท ฯ

พุทโธโมเมเพวายัง สรรพเคราะห์ชะเตสูนยัง จันทรทังสะสิระ วิเสาร์โร ครูราหู เกตุ จะมหาลาภัง สรรพเคราะห์ทุกขังภะวันตุเม ฯ

ภาวนาเวลาจะนอนทุกค่ำคืน ไหว้พระเคราะห์ที่ร้ายให้กลับเป็นดี เสกน้ำประพรมรดศีรษะให้ผู้อื่นก็ได้สะเดาะพระเคราะห์ ฯ

อิตินะขัดขันธ์แก้ว ขัดขันธ์ไว้แล้ว แผ้วไสยะ ไสยัง นะอิติ

อิติโมขัดขันธ์แก้ว ขัดขันธ์ไว้แล้ว แผ้วไสยะ ไสยัง โมอิติ

อิติพุทขัดขันธ์แก้ว ขัดขันธ์ไว้แล้ว แผ้วไสยะ ไสยัง พุทธอิติ

อิติทาขัดขันธ์แก้ว ขัดขันธ์ไว้แล้ว แผ้วไสยะ ไสยัง ทาอิติ

อิติยะขัดขันธ์แก้ว ขัดขันธ์ไว้แล้ว แผ้วไสยะ ไสยัง ยะอิติ ฯ

เสกน้ำล้างหน้าทุก ๆ เช้าเป็นประจำ มีสง่าราศีสุกใสรุ่งเรือง เป็นที่เมตตาแก่ปวงชนชายหญิง หน้าตาราศีไมแก่เร็วไปตามวัย ถ้ารู้สึกขุ่นมัวจิตใจเนื่องจากขลังอาคมหรือไม่สบายใด ๆ ให้เสกน้ำล้างหน้ารดศีรษะและดื่มกิน เสกหมากพลูกินก็ได้ ฯ

ไชยยะพุทธัง ไชยยะธัมมัง ไชยยะสังฆัง ฯ เสกน้ำล้างหน้าทุกเช้า เจริญตัวและเจริญอาคม ฯ

อึกุมมะ มะถืออะ อะถือมะ ฯ

ภาวนาลูบพาขึ้นจากปลายเท้าถึงศีรษะ จะทำให้ผู้อื่นก็ได้ เสกพริกไทย ๗ เมล็ดให้กินก็ได้ คุ้มกันจิตใจมิให้ตื่นตกใจ ฯ

จบตำราไสยศาสตร์เล่มนี้เพียงเท่านี้

อนึ่ง ข้าพเจ้าขออภัยต่อท่านผู้เชี่ยวชาญและท่านผู้รู้ในวิชานี้ด้วย หากท่านได้พบสิ่งขาดตกบกพร่องอย่างใดแล้ว โปรดแก้ไขต่อเติมให้ถูกต้องได้ และขอได้โปรดนึกเสียว่า เป็นกุศลวิทยาทานแก่อนุชนรุ่นหลังต่อไป.

เรือเอก ฉวาง สารประดิษฐ์