บ้วนฮ่วยเหลา/เล่ม ๑/ตอน ๗
หน้า ๕๒–๕๗ สารบัญ
ฝ่ายฮูลุนเห็นเตียตง หลีหงี ตีบ่าวไพร่ของตน ก็โกรธนัก จึงขึ้นไปบนเก๋ง ตวาดด้วยเสียงอันดังว่า เจ้าคนขึ้นมาเสพสุราบนเก๋งของเรา แล้วบังอาจมีบ่าวเราอีกเล่า ถ้าตัวเจ้ารู้ผิดแล้ว จงมาคำนับเราเสียโดยดีเถิด ฝ่ายเต็กเซงเห็นฮูลุนขึ้นมาเอง ก็โกรธว่า ฮูลุนข่มเหงราษฎร มิได้โต้ตอบประการใด ก็เอามือผลักอกฮูลุน ฮูลุนทานกำลังเต็กเซงไม่ได้ ก็พลัดตกจากเก๋ง พวกบ่าวฮูลุนเห็นดังนั้นก็พากันเข้าพยุงไว้ ฮูลุนมีความแค้นยิ่งนัก ร้องเรียกบ่าวไพร่ให้ขึ้นไปบนเก๋งอีก เต็กเซงก็เอามือผลักฮูลุน พวกบ่าวรับมิทัน ฮูลุนก็พลัดตกเก๋งลงมา ศีรษะฟาดเข้ากับขั้นบันไดแตกตายในที่นั้น พวกบ่าวฮูลุนครั้นจะเข้าสู้รบแทนนายก็สู้ฝีมือเต็กเซงมิได้ จึงรีบเอาความไปแจ้งกับฮูคุน ผู้บิดาฮูลุน
ฝ่ายฮูคุนแจ้งว่า ฮูลูนตาย ก็โกรธนัก จึงเรียกบ่าวของตัวประมาณร้อยเศษให้รีบไปจังเต็กเซง เตียตง หลีหงี ให้จงได้ บ่าวฮูคุนก็คำนับลาพากันไปที่เก๋งล้อมเก๋งไว้แน่นหนา แล้วก็พากันขึ้นไปบนเก๋งสามสิบคนจะเข้าจับเต็กเซง เตียตง หลีหงี เต็กเซง เตียตง หลีหงี เห็นบ่าวฮูคุนขึ้นมาก็ต้านทานไว้ สามสิบคนสู้ฝีมือสามคนมิได้ก็พากันหนีลงไปจากเก๋ง
ฝ่ายผู้ขายสุราเห็นเกิดความขึ้นใหญ่โต จึงคิดว่า ถ้าคนทั้งสามหนีไปได้ โทษก็คงจะตกอยู่กับเรา จึงขึ้นไปบนเก๋ง คุกเข่าลงคำนับสามนาย แล้วว่า บัดนี้ ท่านตีฮูลุนตาย ฮูคุนให้คนมาล้อมเก๋งไว้เป็นอันมาก ท่านจงได้เมตตาแก่ข้าพเจ้า อย่าได้หลบหลีกไป ถ้าท่านไม่เมตตาแก่ข้าพเจ้าแล้ว ชีวิตข้าพเจ้าก็จะตายด้วยมือฮูคุนเป็นแท้ เต็กเซงจึงว่า เราสามคนเป็นชายชาติทหาร ตีฮูลุนตาย เหตุใดจะเอาภัยทิ้งให้ผู้อื่นนั้นไม่ควร เตียตงจึงว่า เราทั้งสามไม่หลบหลีกดอก เจ้าจงไปจัดโต๊ะมาให้เรากินให้สบายอีกเถิด ผู้ขายสุราจึงว่า ท่านทั้งสามเป็นชาติทหารไม่กลัวภัยนี้สมควรแล้ว พูดแล้วก็คำนับลามาจัดโต๊ะขึ้นไปอีก สามนายก็ชวนกันกินโต๊ะเสพสุราเล่นตามสบายอยู่บนเก๋งนั้น
ฝ่ายฮูคุนจึงคิดว่า เราให้คนไปจับชายสามคนนั้นน้อยนัก ไหนจะจับตัวได้ ฮูคุนจึงไปบอกเจ้าเมืองฮังคิวให้ไปช่วยจับ เจ้าเมืองฮังคิวก็คุมทหารประมาณห้าสิบเศษไปถึงตึกผู้ขายสุรา จึงให้ขุนนางกรมการชันสูตรบาดแผลฮูลุน แล้วก็จะเอาโทษผู้ขายสุราว่า ปล่อยให้คนขึ้นไปเสพสุราบนเก๋งสูง ผู้ขายสุราจึงว่า ข้าพเจ้าก็ได้ห้ามชายสามคนหนักหนาแล้ว ชายสามคนหาฟังไม่ กลับทุบตีข้าพเจ้า แล้วก็ขึ้นไปบนเก๋งจนได้ ข้าพเจ้าหารู้ที่จะทำประการใดไม่ เจ้าเมืองฮังคิวก็หัวเราะ จึงใช้ทหารขึ้นไปเรียกชายสามคนลงมา
ฝ่ายเต็กเซง เตียตง หลีหงี แจ้งว่า เจ้าเมืองให้หา ก็ลงมาคำนับ เจ้าเมืองฮังคิวจึงถามว่า เจ้าชาวเมืองไหน แซ่ไร ชื่อไร เหตุใดจึงขึ้นไปเสพสุราบนเก๋งสูงแล้วตีฮูลุน เจ้าของเก๋ง ตาย จงรับสารภาพเสียโดยดีเถิด เตียตงบอกว่า ข้าพเจ้าชาวเมืองยูซือกุ้ย แซ่ เตีย ชื่อ ตง ขึ้นไปกินโต๊ะเสพสุราบนเก๋งสูงด้วยเห็นว่า เก๋งทำไว้งดงาม ปรารถนาจะชมเล่น พอบ่าวฮูลุนแปดคนขึ้นไปบนเก๋งแล้วก็ขับไล่ให้พวกข้าพเจ้าลงไป พวกข้าพเจ้าหาทันจะไถ่ถามไม่ พวกบ่าวฮูลุนต่างคนกลุ้มรุมตีพวกข้าพเจ้า ฮูลุนนั้นมีความโกรธเป็นกำลัง วิ่งขึ้นไปบนเก๋ง เหยียบขั้นบันไดพลาด จึงพลัดตกลงมาศีรษะกระทบชั้นบันไดแตกตาย พวกข้าพเจ้าจะได้ตีฮูลุนก็หามิได้ เจ้าเมืองฮังคิวจึงว่า เก๋งบ้วนฮ่วยเหลานี้ฮูลุนเป็นเจ้าของ พวกเจ้าขึ้นไปเสพสุราบนเก๋ง ควรที่จะอ่อนน้อมต่อเจ้าของ เหตุใดจึงได้สู้รบตีเจ้าของตาย แล้วยังหารับไม่ ต้องเฆี่ยนถาม ว่าแล้วก็สั่งทหารให้จับเตียตงมัดไว้ พวกทหารก็กลุ้มรุมกันจับตัวเตียตงมัดเข้าไว้
ฝ่ายเปาบุ้นจิ้นซึ่งเป็นผู้ถือรับสั่งพระเจ้าซ่องยินจงฮ่องเต้เที่ยวตรวจตราในเมืองเปียนเหลียงดูเหตุการณ์สุขและทุกข์ของราษฎร ในขณะนั้น พอเปาบุ้นจิ้นคุมทหารเดินมาถึงหน้าโรงขายสุรา เห็นผู้คนอื้ออึงอยู่เป็นอันมาก จึงให้เตียเหลง เตียเฮา ไปถามดูว่า มีข้อความสิ่งใด เตียเหลง เตียเฮา ไปถามได้ความแล้วก็มาแล้งแก่เปาบุ้นจิ้นว่า มีชายสามคนมิใช่ชาวเมืองเปียนเหลียง คนหนึ่งหน้าแดงชื่อ เตียตง คนหนึ่งหน้าดำชื่อ หลีหงี คนหนึ่งชื่อ เต็กเซง ขึ้นไปเสพสุราบนเก๋งบ้วนฮ่วยเหลา วิวาทกับฮูลุน เจ้าของเก๋ง ตีฮูลุนตาย เจ้าเมืองฮังคิวชำระชายสามคน บัดนี้ เอาเตียตงเข้าผูก จะเฆี่ยนถาม เปาบุ้นจิ้นได้ฟังจึงคิดว่า ฮูลุนเป็นคนพาล ถืออำนาจของบิดาทำการข่มเหงราษฎรมาช้านานแล้ว ฮูคุนผู้บิดาก็ไม่ปราบปราม ตามใจบุตร เราคิดว่า จะหาข้อผิดฮูลุนอยู่ บัดนี้ ฮูลุนก็ตายเสียแล้ว เห็นราษฎรจะค่อยมีความสุข เราก็พลอยยินดีด้วย ฝ่ายเจ้าเมืองฮังคิวแจ้งว่า เปาบุ้นจิ้นมา ก็งดชำระความไว้ รีบไปคำนับเปาบุ้นจิ้น เปาบุ้นจิ้นจึงถามว่า ท่านประชุมคนหนักหนา มีข้อความสิ่งใด เจ้าเมืองฮังคิวก็แจ้งความให้เปาบุ้นจิ้นฟังตามซึ่งได้ชำระชายสามคนนั้นแจ้งทุกประการ เปาบุ้นจิ้นามว่า ท่านชำระ ชายสามคนนั้นรับเป็นสัตย์แล้วหรือยัง เจ้าเมืองฮังคิวจึงแจ้งว่า ข้าพเจ้าถามชายสามคน ชายสามคนไม่รับ บัดนี้ ข้าพเจ้าให้เอาชายคนหนึ่งชื่อ เตียตง เข้าผูก จะเฆี่ยนถาม เปาบุ้นจิ้นจึงว่า ความเรื่องนี้เป็นความใหญ่อยู่ ท่านจงเอาตัวชายสามคนมาส่งให้เรา เราจะชำระเอง เจ้าเมืองฮังคิวจึงว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้ชำระความของราษฎร ซึ่งท่านจะให้ข้าพเจ้าเอาชายสามคนให้ท่านไปชำระนั้น เห็นจะไม่ควร เปาบุ้นจิ้นก็หัวเราะว่า ท่านไม่รู้หรือ พระเจ้าแผ่นดินโปรดให้เราตรวจราษฎรในเมืองหลวง มีข้อความสิ่งไรเราชำระได้ทั้งสิ้น ความเรื่องนี้สำคัญอยู่ เราจะชำระเอง ครั้นพูดดังนั้นแล้วก็ให้ทหารชันสูตรบาดแผลฮูลุน แล้วให้ทหารพาเอาตัวเต็งเซง เตียตง หลีหงี ไปบ้าน เจ้าเมืองฮังคิวกลัวอำนาจไม่อาจขัดได้ จึงให้ทหารรีบเอาความไปบอกฮูคุน ทหารก็คำนับลาเอาความไปแจ้งแก่ฮูคุนตามเจ้าเมืองฮังคิวสั่งทุกประการ ฮูคุนจึงว่า เปาบุ้นจิ้นนี้ทำตามอำนาจของตัว หาเกรงกลัวผู้ใดไม่ บัดนี้ เอาคนทั้งสามไปชำระ ก็จะเอาแต่ความจริง หาแก้แค้นเราได้ไม่ แล้วก็สั่งคนใช้ให้ฝังศพฮูลุนพอสมควร