ข้ามไปเนื้อหา

ประชุมจดหมายเหตุสมัยอยุธยา/เรื่องที่ 11

จาก วิกิซอร์ซ
ดูฉบับอื่นของงานนี้ที่ จารึกวัดจุฬามณี
ทรงพระกรุณาให้สร้างพระพุทธบาทจำลอง
ประดิษฐานไว้ ณ วัดจุลามณี พิษณุโลก เมื่อปีวอก
พ.ศ. ๒๒๒๓ ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์

"ลุศักราช ๘๒๖[1] ปีวอกนักษัตร อันดับน้นน สมเดจพระรามาธิบดีศรีบรมไตรโลกนารถบพิตรเปนเจ้าให้สร้างอารามจุฬามณีที่จะเสดจออกทรงมหาภิเนษกรม ขณะน้นน เอกราชทั้งสามเมือง คือ พญาล้านช้าง แลมหาราชพญาเชียงใหม่ แลพญาหงษาวดี ชมพระราชศรัทธา ก็แต่งเครื่องอัฐบริขารให้มาถวาย ลุศักราช ๘๒๗ ปีรกานักษัตร เดือนแปด ขึ้นสิบสี่ค่ำ ครุเทพวาร สมเดจพระรามาธิบดีศรีบรมไตรโลกนารถบพิตรเป็นเจ้าเสดจทรงพระผนวช แลสมเด็จพระราชเอารสท่านกราบลงกับพระบาท แล้วก็สู่พระราเชนทรยาน แลท่านก็ให้บวชพระสงฆ์ปริวัตรก่อนห้าพระองค์ แล้วท่านจึงทรงเครื่องบรรพชิต แลพระสงฆ์บวชโดยเสดจทั้งสี่คณะ ๒๓๔๘ พระองค์ แต่สมเดจพระรามาธิบดีศรีบรมไตรโลกนารถบพิตรเป็นเจ้าทรงพระผนวชอยู่ได้แปดเดือน สิบห้าวัน ครั้นเถิงเดือนห้า สมเดจพระเอารสท่านแลพฤฒามาตย์ทั้งหลายถวายบังคมขออัญเชิญพระองค์เสดจลาผนวชช่วยครองราษฎรกรรมทั้งปวง ท่านก็เสดจปริวัตร แล้วก็ล่องลงมายังกรุงมหานครศรีอยุธยา พุทธศักราชได้ ๒๒๒๒ ปีปลาย ๑๐ เดือนห้าวันวอกโทศก รุ่งแล้วห้าโมง หลวงสิทธิมหาดเล็กรับพระราชโองการ แลหมื่นราชสังฆการีรับหมายรับผ้าพระราชทาน ให้พระครูธรรมไตรโลกยนารถราชมุนีสีลวิสุทธาจารย์อธิการณอารามจุลามณีทาบรอยพระพุทธบาทด้วยพระเดชสมเดจบรมบพิตรพระราชสมภารธรรมิกราชาธิราชเจ้าผู้ประเสริฐในภพ มีพระโองการตรัสให้อณุญาตให้ไปประดิษฐานไว้ณอารามวัดจุฬามณีเปนที่นมัสการแด่สมณะพราหมณาจารยแลประชาราษฎรอันมิได้มานมัสการพระพุทธบาท แลจึงพระราชทานแผ่นศิลาควร(ถุทุณา)พระพุทธบาทแลแผ่นศิลาแผ่นหนึ่งให้ลงจาฤกพระราชวงษาวดารแลพระราชตำราแลกัลปนาข้าพระจุลามณีอันประจุพระเกษาแลเปนข้าพระพุทธบาท ลุศักราช ๑๐๔๓ ปีรกา ตรีณิศก วันสุกร ขึ้นค่ำหนึ่ง ยามศุกร ๑๐ ชั้น[2] ฤกษ ๒๑[3] รับพระพุทธบาทประดิษฐานไว้ในมณฑป ตำรานี้พิจารณาแล้วแลปิดตรามนุษย์ถือสมุดพระศรีสุเรนทราธิบดีอภัยพิริยาพรหมเทพราชมาตยาธิบดีศรีกลาสมุดสมุหพระสุรัสวดีประจำอักษรไว้กลางขหนบ วันศุกร์ เดือนอ้าย ขึ้นสิบเบจค่ำ รกานักษัตร ตรีนิศก จึงพระศรีสรรเพ็ชสมเดจพระรามาธิบดีศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิศวรราชาธิราชเมศวรธรรมิกราชเดโชชัยบรมเทพาดิเทพตรีภูวนาธิเบศรโลกเชษฐวิสุทธิมกุฏพุทธางกูรบรมจักรพรรดิศวรธรรมิกราชาธิราชอันประเสริฐ เสดจอยู่ในพระที่นั่งศรีสุริยาศอมรินทราชมหาสถานโดยอุตราภิมุข จึงพระพิมลธรรมอนันตญาณสุทธอุดมราชกระวีศรีสงฆบรินายกติปิฎกธรวรญาณคำภีร์ธรรมราชมุนีบพิตรถวายพระพรทูลพระกรุณาว่า เมืองพิศณุโลกแต่ก่อนน้นน มีข้าพระเปนกัลปนาพระราชทานอุทิศไว้สำหรับพระอาราม แลบัดนี้ ข้าพระทั้งปวงแตกฉานซ่านเซนอยู่ แลคนเปนเดิมข้าพระไปอยู่อื่นนั้นควรภิกษุ…ทังสิบแปดคนนี้เปนข้าพระณอารามจุลามณี…สิบแปดคนนี้แลถวายไว้ให้คงเปนข้าพระณอารามจุลามณีตามเดิมมาแต่ก่อนแล้ว ถ้าบุคคลผู้ใดแลเอาคนข้าพระสิบแปดคนอันพระกัลปนาพ…ท่านไว้เปนข้าพระอารามพระจุลามณีไปใช้สอยกิจราชการ…ไปทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง…บุท…จงไปตกนรกหมกไหม้ใต้บาดาลได้ทุกข์นิรันดร แล้วอย่าได้พบพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์จงทุกชาติเลย[4]


  1. ตรงกับพุทธศักราช ๒๐๐๗
  2. ๑๐ ชั้นฉาย ประมาณ ๑๐.๕๐ น.
  3. ฤกษ์ ๒๑ คือ ฤกษ์อุตรอาษาฒฤกษ์
  4. สำเนาศิลาจารึกวัดจุฬามณี พิษณุโลก