ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 19 (พิมพ์ครั้งที่ 1)/เรื่องที่ 1

จาก วิกิซอร์ซ
ดูฉบับอื่นของงานนี้ที่ จดหมายเหตุหอสาตราคม
จดหมายเหตุหอสาตราคม
ปีวอก พ.ศ. ๒๔๐๓

ณวัน ๑๒ ค่ำ จุลศักราช ๑๒๒๑ ปีมะแม เอก เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระราชพิธีตรุษ กรมหมื่นบวรรังษีทรงจุดเทียนไชย มีพร้อมด้วยเครื่องดนตรีมีแตรสังข์เปนต้น แล้วทรงปฏิบัติพระสงฆ์ เวลาบ่ายโมงเศษ เสด็จขึ้น เวลาบ่าย ๔ โมง เสด็จออกประทับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงฟังสวดพุทมนต์ พอเวลาพลบ เสด็จขึ้นพระที่นั่งสีตลาภิรมย์

วัน ค่ำ ปีวอก ยังเป็นเอกศก เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงปฏิบัติพระสงฆ์ แล้วสดัปกรณ์พระบรมอัฐิ ถวายไตรจีวรแก่พระสงฆ์ ๒๐ รูป เวลาเช้า ๕ โมง เสด็จขึ้น เวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โปรดให้เลี้ยงโต๊ะพวกอังกฤษแลข้าราชการทั้งปวง ให้มีลคร เวลา ๕ ทุ่มแล้ว เสด็จขึ้น

วัน ค่ำ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคมเวลา ๘ ทุ่มเศษ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นถาวรวรยศ กราบบังคมทูลด้วยโรคปัจจุบันมีโดยชุม จึงมีพระบรมราชโองการให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวรจักร จัดแจงกรมหมอมาเตรียมไว้ในพระมหาราชวัง เวลา ๑๐ ทุ่ม เสด็จขึ้น

วัน ค่ำ ปีวอก ยังเปนเอก พระยาศรีเสาราชกราบบังคมทูลด้วยพระยาปลัดราชบุรีถึงแก่กรรม เวลา ๑๐ ทุ่ม เสด็จขึ้น

วัน ค่ำ ปีวอก ยังเปนเอก เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคมเวลาเช้า ๓ โมง เวลาเช้า ๕ โมง เสด็จขึ้น โปรดให้มีลครสมโภชพระเจ้าลูกเธอ พระองค์อุณากรรณ ข้างใน จนเวลาบ่าย ๕ โมง รับสั่งโปรดให้เลิก

วัน ค่ำ ปีวอก ยังเปนเอก เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคมเวลา ๘ ทุ่มเศษ พระพรหมบริรักษ์นำเรื่องความขึ้นกราบบังคมทูลด้วยหม่อมเจ้าวรลักษณตั้งอ้ายนักโทษหนีไปจากเรือนจำในระหว่างโทษ หม่อมเจ้าวรลักษณ์ตั้งให้เปนนายกองเกลี้ยกล่อมคนไว้เปนอันมากที่พระพุทธบาท ให้ทรงทราบแล้ว ไม่ทรงพระกรุณาโปรด จึงส่งให้พระพรหมบริรักษ์จำหม่อมเจ้าวรลักษณ ให้รับพระราชอาญาต้องมาจำไว้ณทิมสนม แต่อ้ายนักโทษที่เปนนายกองนั้น รับสั่งให้สักหน้าส่งไปจำไว้ที่ณคุก บุตรภรรยาอ้ายนักโทษ รับสั่งให้ส่งไปเปนวิเสศโรงสี อ้ายอีผู้มีชื่อที่รู้เห็นเปนใจยินดีด้วยอ้ายนักโทษ รับสั่งให้ลงพระราชอาญาจำไว้ณคุกบ้าง เปนวิเสศโรงสีบ้าง พระพรหมบริรักษ์เปนผู้ต้นรับสั่ง

วัน ค่ำ ปีวอก ยังเปนเอก เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคมเวลาบ่าย ๓ โมงเศษ หม่อมราโชไทยนำหนังสืออังกฤษมเกาถวายฝากทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เวลาบ่าย ๕ โมงเย็น เสด็จขึ้น

วัน ค่ำ ปีวอก ยังเปนเอก เสด็จพระราชดำเนินพระที่นั่งทรงธรรมทุ่งท้องสนามหลวง ทรงปฏิบัติพระสงฆ์ฉันเพน แล้วโปรดให้สดัปกรณ์พระสงฆ์ ๓๐ รูป แล้วทรงถวายผ้านิสีทนสังเค็ต ๓๐ ผืน เวลาบ่ายโมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินกลับพระมหาราชวัง เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินประทับพระที่นั่งพลับพลาน่าพระเมรุ ทรงโปรยทาน แล้วทรงพระกรุณาโปรดให้ผู้หญิงฝรั่งขี่ม้ารำทวนถวายน่าพระที่นั่ง ๒ คู่ ข้าราชการในพระบวรราชวังคู่หนึ่ง เวลายามเศษ ทรงจุดดอกไม้ แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับยังพระมหาราชวัง

วัน ค่ำ ปีวอก ยังเปนเอก เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินพระที่นั่งพลับพลาน่าโรงโขนทุ่งท้องสนามหลวง ทอดพระเนตรผู้หญิงฝรั่งแลข้าราชการในพระบวรราชวังขี่ม้ารำ ทวนถวายน่าพระที่นั่ง พระยาราชวรานุกูลนำเจ้าอุปราชเมืองน่านเฝ้าถวายบังคม ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเสื้อครุย ๓ เสื้อ ผ้าลาย ๓ ผ้า เวลายามเศษ เสด็จพระราชดำเนินกลับพระมหาราชวัง

วัน ค่ำ ปีวอก ยังเปนเอก เวลาบ่ายโมงเศษ อสุนีบาตตกถูกพระเจดีย์วัดบวรนิเวศ

วัน ๑๐ ค่ำ เวลาเช้า ๓ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงปฏิบัติพระสงฆ์ ๓๐ รูป แล้วทรงถวายเครื่องไทยทานต่าง ๆ เวลาบ่ายโมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินมาประทับทอดพระเนตรแรดที่โรงช้างน่าประตูวิเศษไชยศรี แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับพระมหาราชวัง

วัน ค่ำ ปีวอก โท เวลาเช้า ๓ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินประทับพระที่นั่งพลับพลาทุ่งท้องสนามหลวง ทรงปฏิบัติพระสงฆ์ ๑๗ รูป แล้วทรงถวายผ้าสบงแลธูปเทียน แล้วโปรดให้มีลครสมโภชนังคัลพิธีแรกนา ทรงทอดพระเนตรอยู่จนเวลา ๕ โมงเย็น แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับยังพระมหาราชวัง

วัน ค่ำ ปีวอก โท เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ทรงตั้งหมื่นจำเนียรภูษา ข้าหลวงเดิม เปนขุนราชสมบัติ นายเวรกรมพระมาลาภูษา ถือศักดินา ๖๐๐ พระราชทานถมปักล่องจวน ทำราชการฉลองพระเดชพระคุณตามตำแหน่ง

วัน ค่ำ ปีวอก โท เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินตรา ๑๐ ตำลึงเปนรางวัลแก่นายพึ่ง ปลัดกรมช่างสลัก เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จขึ้น

วัน ค่ำ ปีวอก โท เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จออกจากพระมหาราชวัง เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค ทรงเรือพระที่นั่งกลไฟมณีเมขลาใช้จักรไปยังกรุงเก่า พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายน่าแลฝ่ายในตามเสด็จ

วัน ๑๑ ค่ำ ปีวอก โท สวดมนต์ในพระที่นั่งบรมพิมานฉลองพระพุทธรูป ๗ องค์ เวลาเช้า ๘ ค่ำ ฉัน มีดอกไม้พุ่ม ดอกไม้กระถาง

วัน ๑๔ ฯ  ๑๒ ค่ำ ปีวอก โท เวลา ๔ ทุ่มกลางคืน เสด็จออกที่ประทับราชวรดิษฐทอดพระเนตรเรือถวายลำทอดพระกฐิน เรือดั้ง ๓ คู่ เรือชลพิมานไชยใส่ผ้าไตร เรือบุษบกพิศาลเปนเรือพระที่นั่ง เรือวิมานอมรินทร์พระที่นั่งรอง เรือทินกรส่องศรีเปนเรือประเทียบ เรือมณีจักรพรรดิเปนเรือประเทียบ เรือกราบ ๒ ลำใส่อ่างมังกร จุดเทียนใหญ่ทุกลำตลอดศีศะจนท้าย ลอยลงไปสุดทุ่นแล้วกลับขึ้นมาแล้วลงไป เรือผ้าไตรผู้หญิงพายแล้วเห่ แล้วทรงลอยประทีปหลวงจนหมด เสด็จไปทอดพระกฐินวัดชิโนรสาราม แล้วเสด็จกลับขึ้น ๗ ทุ่ม

วัน ๑๕ ฯ  ๑๒ ค่ำ ปีวอก โท ทรงธรรมบนพระที่นั่งอนันตสมาคมกัณฑ์ ๑ แล้วเสด็จออกทางพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงลอยประทีปตามเคย

วัน ค่ำ ปีวอก โท มีลครให้แขกเมืองดู

วัน ค่ำ ไฟไหม้วัดราชบุรณ กุฎิขรัวหมอหลัง ๑ เสด็จทรงม้าพระที่นั่งกับข้าราชการตามเสด็จเปนอันมาก เสด็จกลับมา พระราชทานเงินตราคนละ ๑ บาท สิ้นเงิน ๕๐๐ บาททั่วกันทุกคน

ณวัน ค่ำ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินทรงม้าพระที่นั่งทอดพระเนตรเมรุที่วัดบวรนิเวศ เวลาพลบค่ำ เสด็จกลับมาถึงพระบรมมหาราชวัง แล้วเสด็จขึ้น

ณวัน ๑๐ ฯ  ค่ำ ฝรั่งเมืองเดนมาร์กเข้าเฝ้า ขุนนางข้าราชการใส่เสื้อต่าง ๆ เฝ้า

ณวัน ๑๑ ฯ  ค่ำ เวลาบ่าย ๔ โมง เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ขุนนางข้าราชการเฝ้าตามตำแหน่ง เวลา ๕ โมง เสด็จพระราชดำเนินไปประทับอยู่น่าเกยพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ มีราชการถวายฎีกาเรื่อง ๑ พระราชทานให้เจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์ตัดสิน แล้วเสด็จขึ้น

ณวัน ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมง ออกขุนนางณพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงตั้งขุนนาง นายใบ นายท้าย นายร่องน้ำ ๓ คน พระราชทานเสื้อผ้าเงินเบี้ยหวัด แล้วเสด็จพระราชดำเนินทรงม้าพระที่นั่ง แล้วเสด็จกลับมารับฎีกา เวลาพลบ เสด็จขึ้น

ณวัน ๑๐ ค่ำ เวลาบ่ายโมง ๑ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม เจ้าลาวเข้าเฝ้า แล้วผู้หญิงฝรั่งเข้าเฝ้า แล้วเสด็จกลับพาเข้าไปข้างใน เวลา ๑๐ ทุ่ม ทรงพระราชสาส์นตอบไปเมืองอเมริกายังหาจบไม่

ณวัน ค่ำ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทอดพระเนตรเครื่องราชบรรณาการที่จะส่งไปเมืองฝรั่งเศส แล้วสมเด็จเจ้าฟ้ามหาลากราบบังคมทูลว่า ช้างเผือกล้ม

ณวัน ค่ำ ที่กรุงเทพฯ ในพระมหาราชวัง ปืนใหญ่ลั่น เวลา ๕ โมงเศษ เสด็จขึ้น

ณวัน ๑๔ ค่ำ เวลาเช้าโมง ๑ เสด็จพระราชดำเนินม้าพระที่นั่งไปโสกันต์พระวรวงศ์เธอ ๔ องค์ในพระบวรราชวัง ประทับพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ แล้วเสด็จกลับมาประทับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โสกันต์หม่อมเจ้า ๗ องค์ เสด็จขึ้น

ณวัน ๑๕ ค่ำ เวลาพลบ กงซุลฝรั่งเศสมาเฝ้าที่เก๋งเทพยสถาน

ณวัน ค่ำ ปีระกา ยังเปนโท เวลาเช้า เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ปฏิบัติพระสงฆ์ แล้วถวายไทยทานพระราชาคณะถานารวม ๒๗ รูป แล้วสดัปกรณ์ ๑๐๐ แล้วเสด็จไปประทับที่เก๋งราชานุราชอาศน์ แล้วเสด็จกลับทางประตูสนามราชกิจเข้าข้างใน เวลาค่ำ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระราชทานเครื่องเลี้ยงโต๊ะกงซุลทุกประเทศตามบรรดาเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ มีลครข้างในเรื่องรามเกียรดิ ๒ ยามเศษ เสด็จขึ้นเสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงพระราชนิพนธ์พระราชสาส์น จนเวลา ๙ ทุ่มเศษ เสด็จขึ้น

ณวัน ค่ำ ปีระกา ยังเปนโทอยู่ เลี้ยงทูตฝรั่งเศสเวลาเย็น เวลาทุ่ม เสด็จวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สวดพิธีถือน้ำ เวลา ๑๐ ทุ่ม ไฟไหม้สำเพ็ง ตรอกอำแดงแฟง

ณวัน ค่ำ ปีระกา ยังเปนโท ผู้ว่าการแทนกงซุลชื่อ ไวสเกานลีโดอิกแซกดิลนออิศเกาว์ ได้พากัปตันชื่อ โตยอน เรือรบกลไฟของสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสยิโรนเด กับขุนนางอื่นในเรือรบนั้น ๕ นาย กับบาดหลวงลุยอิศเปนล่าม เข้ามาเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท แล้วจะได้รับทูตานุทูตออกไปจนถึงกรุงปารีส เข้าเฝ้าณพระที่นั่งอนันตสมาคม

ณวัน ค่ำ ปีระกา ยังเปนโท เวลาเช้าโมง ๔ โมง เสด็จออกพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ ปฏิบัติพระสงฆ์พระราชพิธีคเชนทรัศวสนาน พอพระฉันแล้ว พวกทูตานุทูตเข้าเฝ้าทูลลา แล้วพระราชทานเครื่องยศตามถานาศักดิ์ผู้ใหญ่ผู้น้อยเปนอันมาก แล้วเสด็จขึ้นบ่าย ๒ โมง เวลาเย็น แห่ตามเคย แล้วมีพระบรมราชโองการสั่งให้กรมม้าผูกเครื่องม้าอย่างฝรั่งเศส แลเครื่องอื่น ๆ เปนหลายเครื่อง กรมม้าก็ไม่ผูกตามรับสั่ง ให้กรมถาวรวรยศทอดพระเนตร สั่งตำรวจลงพระราชอาญาคนละ ๑๐ ที

รุ่งขึ้นณวัน ค่ำ มีพระบรมราชโองการให้ตั้งกระบวนแห่หมายเวลา ๓ โมง เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงพระราชสาส์นที่จะไปฝรั่งเศส แล้วเสด็จพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ ทอดพระเนตรกระบวนแห่ แล้วโปรยทาน แล้วเอาช้างมาพาน เวลาพลบ เสด็จขึ้น เวลาค่ำ ๕ ทุ่มเศษ เสด็จออกพระที่นั่งเย็น ทรงเครื่องใหญ่ แล้วทรงพระราชนิพนธ์พระราชสาส์นที่จะไปถึงสังโตปาปามิคาบริสุทธ เวลา ๗ ทุ่ม เสด็จขึ้น

วัน ค่ำ ปีกุญ เบญจ เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จออกณพระที่นั่งอนันตสมาคม หลวงศักดิ์เสนีอ่านบอกถวายเรื่องนายสังสมุทมุนี มีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งให้มีท้องตราขึ้นไปถอดหลวงนายสิทธิ จมื่นรัตนโกษา แล้วให้เอาตัวหลวงสิทธิ จมื่นรัตนโกษา กับนายสุดใจมหาดเล็ก ลงมาณกรุงเทพฯ ครั้นเวลา ๒ ทุ่มเศษ เสด็จออกณพระที่นั่งอนันตสมาคม มีพระบรมราชโองการโปรดให้พระยาอภัยรณฤทธิ์ขึ้นไปเปนตระลาการชำระหลวงนายสิทธิ กับจมื่นรัตนโกษา นายสุดใจมหาดเล็ก ที่กรุงเก่า แล้วทรงแต่งหมายประกาศทองเหรียญทองแป ครั้นเวลา ๘ ทุ่มเศษ เสด็จขึ้น

ณวัน ๑๐ ๑๐ ค่ำ ปีกุญ เบญจ เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ เสด็จโดยทางชลมารคไปพระราชทานเพลิงศพพระยามหานุภาพณวัดอรุณฯ เวลาพลบค่ำ ก็เสด็จกลับ

วัน ๑๑ ค่ำ ปีกุญ เบญจ ฉลองเรือพระที่นั่งพระบรมราชวรฤทธิ มีพระสวดพระพุทธมนต์ ๑๐ รูป เวลาทุ่มเศษ สวดพระพุทธมนต์จบแล้ว มีลครชั้นเล็กเรื่องอิเหนาบนพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ท่าราชวรดิษฐ พร้อมด้วยพระราชวงศานุวงศ์ข้าทูลลอองธุลีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยฝ่ายน่าฝ่ายใน มีแขกเมืองลาวเจ้าเมืองน่านเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท พระราชทานเลี้ยงสุราเครื่องบริโภคต่าง ๆ ตลอดไปจนเพน

ครั้นรุ่งขึ้นวัน ๑๒ ค่ำ ทรงประเคนเลี้ยงโต๊ะพระสงฆ์ ๑๐ รูป แล้วทรงถวายไทยทานต่าง ๆ พระฉันแล้วมีลครเล่นเรื่องอิเหนาสมโภชเรือพระที่นั่ง

วัน ๑๐ ค่ำ ปีกุญ เบญจ เวลาบ่าย ๓ โมง เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระยาราชวรนุกูลเอาชามศิลาเล็ก ๆ น้อย ๆ หลายสำรับเข้ามาถวาย เวลาเย็น เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรช้างที่เจ็บ เสด็จประทับที่โรงช้าง แล้วเสด็จกลับออกไปห้างฝรั่ง แล้วเสด็จกลับรับฎีกา แล้วเสด็จขึ้นข้างใน

วัน ๑๐ ค่ำ เวลาเช้า มีพระบรมราชโองการให้เจ้าพนักงานพระคลังมหาสมบัติแจกเบี้ยหวัดแก่ข้าราชการ

วัน ๑๐ ฯ  ๑๐ ค่ำ ปีกุญ เบญจ เวลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จออกณพระที่นั่งอนันตสมาคม พร้อมด้วยข้าราชการเจ้าต่างกรมหากรมมิได้ แล้วมีพระบรมราชโองการให้เจ้าพนักงานแจกเบี้ยหวัด

วัน ๑๐ ค่ำ ปีกุญ เบญจ เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ประโคม ข้าทูลลอองธุลีพระบาทพร้อมจีนเอาผ้าม่วงดอกมาถวาย พระเจ้าลูกเธอชิงกัน กริ้วสั่งให้เขียนประกาศ ฝรั่งห้างเอาสิ่งของที่ทรงสั่ง เปนเงินบ้าง กาไหล่บ้าง มาถวายทอดพระเนตร แล้วรับสั่งให้พนักงานคลังคิดราคาให้ แล้วรับสั่งให้หากรมหมื่นวรจักรด้วยพระบังคน

วัน ๑๐ ค่ำ ปีกุญ เบญจ เวลา ๕ โมงเศษ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ทำขวัญนาคองค์ศรีสวัสดิ์ เจ้าเขมร ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม เวลากลางคืน ปืนใหญ่กระสุน ๓ นิ้วมาถึงด้วย

วัน ๑๐ ค่ำ ปีกุญ เบญจ เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคมเวลาบ่าย ๓ โมงเศษ แล้วเสด็จไปตึกที่ฝรั่งเช่า กลับเย็น กริ้วมาลาภูษา

วัน ๑๐ ๑๐ ค่ำ ปีกุญ เบญจ เวลาบ่าย ๕ โมง เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงที่ศพพระยามหานุภาพ กริ้วพวกทิ้งลูกกัลปพฤกษ์ยังไม่มีพระบรมราชโองการให้ทิ้งไปทิ้งเสียก่อน รับสั่งให้ลงพระราชอาญาคนละ ๒๐ ที เวลาทุ่มเศษ เสด็จกลับพระราชวัง

ครั้นรุ่งขึ้นณวัน๑๑ ๑๐ค่ำ มีพระบรมราชโองการให้เจ้าพนักงานจัดการเปนของหลวงอิกวันหนึ่ง เกณฑ์เจ้าพนักงานให้ครบทุกพนักงานเบนการกวดขันเเขงเเรง เวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคอิกเวลาหนึ่ง มีของเครื่องไทยทานตาง ๆ เปนของหลวง มีลูกกัลปพฤกษ์เปนต้น ครั้นเวลา ๔ โมงเศษ เสด็จกลับประทับสวนนันทอุทยาน แล้วเวลาเย็น เสด็จกลับพระมหาราชวัง

ครั้นรุ่งขึ้นวัน ๑๒ ๑๐ ค่ำ เวลาเช้า ทรงปฏิบัติพระในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ พิธีพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาไลย