ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 61/ผู้วายชนม์

จาก วิกิซอร์ซ
นางชื่นราชพินิจจัย
ชาตะ พ.ศ. ๒๔๑๕
มรณะ พ.ศ. ๒๔๗๘

ขออุททิศส่วนกุศลสนองคุณแด่
นางชื่น ราชพินิจจัย
มารดาบังเกิดเกล้าผู้ซึ่งได้ล่วงลับไปแล้ว

คุณแม่เป็นภรรยาพระราชพินิจจัย (โสฬส โสฬสจินดา) เกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน ๘ ปีวอก จัตวาศก พุทธศักราช ๒๔๑๕ ณบ้านเดิมตำบลหน้าวัดตึก พระเสนาพิพิธ (เสม สุเรนทรานนท์) บุตรพระยาสุเรนทรราชเสนา (มา สุเรนทรานนท์) เป็นบิดา ท่านพ่วงเสนาพิพิธ ธิดาพระยาราชสุภาวดี (ปาล สุรคุปต์) ราชินิกุลในรัชกาลที่ ๕ เป็นพระมารดา.

บุตรและธิดาของคุณแม่ที่มีอยู่ในเวลานี้คือ:–

คุณหญิงอารีดรุณพรรค (พิศ อิศรางกูร ณอยุธยา)

นายชะลอ โสฬสจินดา

คุณแม่ได้ป่วยถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๗๘ คำนวณอายุได้ ๖๓ ปี

ท่านเป็นสตรีที่มีชีวิตแห่งความเป็นอยู่อย่างเรียบ ๆ ฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงเว้นที่จะเสียที่จะเขียนประวัติของท่านโดยพิศดาร

ท่านได้มาสู่โลกนี้ในลักษณะของแม่ และท่านได้จากพวกลูกไปสู่สุคติภพแล้วอย่างไม่มีวันกลับ แต่สิ่งที่พิมพ์ใจลูกเตือนให้ระลึกถึงพระคุณอันหนักมิมีวันลืมได้ ก็คือ ท่านได้จากโลกนี้ไปในลักษณะของแม่ที่ดีอันควรแก่การเคารพสักการอย่างยิ่ง

ท่านได้อบรมทนุถนอมบำรุงเลี้ยงข้าพเจ้าและน้องมาจนเติบใหญ่ ล่วงพ้นภยันตรายต่าง ๆ อันจะมีขึ้นตามวัยและเวลา

ความดีหรือความเจริญทั้งหลาย ถ้าหากข้าพเจ้าและน้องจะมี ก็ขอยกให้เป็นส่วนที่ได้รับถ่ายทอดมาจากท่านเป็นปฐม ท่านได้กระทำแล้วซึ่งหน้าที่ของมารดาเป็นอย่างดีที่สุดที่ท่านจะทำได้ ข้าพเจ้าไม่สามารถจะหาถ้อยคำอันใดมากกล่าวสดุดีคุณของท่านได้เป็นไปได้ดีเท่ากับความรู้สึกอันเกิดจากความสุจริตใจของข้าพเจ้า

เมื่อท่านได้ล่วงลับไปแล้ว ข้าพเจ้าไม่มีหนทางอะไรที่จะทดแทนพระคุณให้สมกับที่ท่านได้ฟักฟูมมา ทั้งอีกประการหนึ่งที่เป็นที่รับรองกันอยู่แล้วอย่างแน่นอนโดยไม่มีปัญหาว่า จะโดยประการใด ๆ ก็ดี การที่จะคิดใช้หนี้บุญคุณของบุพการีเพื่อให้ลบล้างไปนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ เมื่อเช่นนี้แล้ว ตามคตินิยมที่เหลืออยู่ อันข้าพเจ้าจะพึงทำสนองคุณได้ ก็คือ บำเพ็ญกุศลอุททิศไปยังท่าน ถ้าและท่านจะสถิตอยู่ในสุคติภพใดก็ดี แม้มีญาณวิถีใด ๆ ที่สามารถจะหยั่งทราบได้ ขอได้โปรดอนุโมทนากัลปนาผลซึ่งบรรดาญาติมิตรและท่านผู้เคารพนับถือทั้งหลายได้พร้อมกันมาร่วมบำเพ็ญกุศลในวาระนี้ด้วย

ขอคุณแม่จงได้รับกุศลทักษิณานุปทานทั้งมวลอันลูกได้ตั้งใจอุททิศให้ด้วยความรักความอาลัยอย่างสุดซึ้ง

ขอกุศลนี้จงบันดาลดลให้เป็นเครื่องนำสนองแด่พระคุณแม่ จงประสพแต่อิฎฐารมณ์ในสัมปรายิกภพทุกเมื่อเทอญ.

พิศ อารีดรุณพรรค
๑๙ เมษายน ๒๔๗๙