พระราชบัญญัติให้ใช้พระธรรมนูญศาลยุตติธรรม พุทธศักราช 2477

จาก วิกิซอร์ซ
ตราพระบรมราชโองการ
ตราพระบรมราชโองการ
พระราชบัญญัติ
ให้ใช้พระธรรมนูญศาลยุตติธรรม
พุทธศักราช ๒๔๗๗
ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
(ตามประกาศประธานสภาผู้แทนราษฎร
ลงวันที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗)
  • อนุวัตน์จาตรนต์
  • อาทิตย์ทิพอาภา
  • เจ้าพระยายมราช
ตราไว้ณวันที่ ๑๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๘
เป็นปีที่ ๒ ในรัชชกาลปัจจุบัน

โดยที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติว่า สมควรยกเลิกบรรดากฎหมายว่าด้วยพระธรรมนูญศาลยุตติธรรมที่ใช้อยู่ณบัดนี้ และใช้พระธรรมนูญศาลยุตติธรรมต่อท้ายพระราชบัญญัตินี้แทน

จึ่งมีพระบรมราชโองการให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร ดั่งต่อไปนี้

มาตรา  พระราชบัญญัตินี้ ให้เรียกว่า "พระราชบัญญัติให้ใช้พระธรรมนูญศาลยุตติธรรม พุทธศักราช ๒๔๗๗"

มาตรา  ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา  ให้ใช้พระธรรมนูญศาลยุตติธรรมตามที่ตราไว้ต่อท้ายพระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๗๘ เป็นต้นไป

บทบัญญัติแห่งพระธรรมนูญศาลยุตติธรรมนี้ ให้ใช้บังคับแก่บรรดาคดีที่ได้ยื่นฟ้องภายหลังวันใช้พระธรรมนูญศาลยุตติธรรมนี้ ไม่ว่ามูลคดีได้เกิดขึ้นก่อนหรือภายหลังวันใช้พระธรรมนูญศาลยุตติธรรมนี้

บรรดาคดีที่ได้ยื่นฟ้องก่อนวันใช้พระธรรมนูญศาลยุตติธรรมนี้ ให้บังคับตามกฎหมายซึ่งใช้อยู่ก่อนวันใช้พระธรรมนูญศาลยุตติธรรมนี้ จนกว่าคดีนั้น ๆ จะถึงที่สุด

มาตรา  ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา ๓ ตั้งแต่วันใช้พระธรรมนูญศาลยุตติธรรมนี้สืบไป ให้ยกเลิกบรรดากฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่น ๆ ในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระธรรนูญศาลยุตติธรรมนี้ หรือซึ่งแย้งกับบทแห่งพระธรรมนูญศาลยุตติธรรมนี้

มาตรา  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุตติธรรมมีหน้าที่รักษาการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ และเพื่อการนั้น ให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงวางระเบียบการงานส่วนธุรการของศาลโดยฉะเพาะเพื่อให้เป็นระเบียบเดียวกันทั่วราชอาณาจักร

กฎกระทรวงนั้น เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา
นายกรัฐมนตรี

บรรณานุกรม[แก้ไข]

งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นงานตามมาตรา 7 (2) แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ของประเทศไทย ซึ่งบัญญัติว่า

"มาตรา 7 สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
(1) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสาร อันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
(2) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
(3) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
(4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
(5) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (1) ถึง (4) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น จัดทำขึ้น"