พระราชพงสาวดารกรุงสรีอยุธยา ฉบับความสมเด็ดกรมพระปรมานุชิตชิโนรส/เล่ม 1/ตอน 4

จาก วิกิซอร์ซ
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
แผ่นดินเจ้าท้องลั่น
และสมเด็ดพระราเมสวร

สักราช 744 ปีจอ จัตวาสก, สมเด็ดพระบรมราชาธิราชเจ้าสเด็ดสวรรคต หยู่ไนราชสมบัติ 13 ปี, จึ่งเจ้าท้องลั่น ราชกุมาร ขึ้นครองราชสมบัติได้เจ็ดวัน สมเด็ดพระราเมสวรสเด็ดลงมาแต่เมืองลพบุรี, เข้าไนพระราชวัง กุมเอาตัวเจ้าท้องลั่นได้ ไห้พิคาตเสียนะวัดโคกพระยา.

สักราช 745 ปีชวด ฉสก, พระราเมสวรไห้เลียบพลไว้ยกขึ้นไปเมืองเชียงไหม่, ตั้งค่ายหลวงไกล้คูเมือง ๑๕๐ เส้น, ไห้นายทัพนายกองตั้งค่ายล้อมและแต่งการปล้นเอาจงได้. ฝ่ายเจ้าหน้าที่ยิงปืนไหย่ออกมาถูกกำแพงเมืองพังประมาณห้าวา, พระเจ้าเชียงไหม่ขึ้นยืนถือพัชนีหยู่บนเชิงเทิน ไห้ทหานเอาหนังสือแขวนลูกธนูยิงลงมา. ไนหนังสือนั้นว่า ขอพระราชทานไห้งดสักเจ็ดวัน, จะนำเครื่องพระราชบรรนาการออกไปจำเรินพระราชไมตรี. พระเจ้าหยู่หัวจึ่งปรึกสาด้วยมุขมนตรีว่า พระเจ้าเชียงไหม่ไห้มีหนังสือออกมาดังนี้ ควนจะให้งดไว้หรือประการได. มุขมนตรีนายทัพนายกองปรึกสาวา เกลือกพระเจ้าเชียงไหม่จะเตรียมการมิทัน จึ่งคิดกลอุบายมา, ขอพระราชทานไห้ปล้นเอาเมืองจงได้. สมเด็ดพระเจ้าหยู่หัวตรัดว่า เปนพระเจ้าแผ่นดินไหย่ เขาไม่รบแล้วเราจะไห้รบนั้นมิควน, ถึงมาทว่าพระเจ้าเชียงไหม่จะมิได้คงหยู่ไนสัจจานุสัจก็ดี, ไช่ว่าจะพ้นมือทหานเรานั้นเมื่อไรมี. หายไนเมืองเชียงไหม่นั้นก็ตีแตะบังที่กำแพงทลายแล้วนั้นไห้ก่อขึ้น ครั้นถ้วนเจ็ดวันแล้ว พระเจ้าเชียงไหม่มิได้แต่งเครื่องจำเรินพระราชไมตรีออกมา, นายทัพนายกองข้าทหานร้องทุขว่า, ข้าวไนกองทัพทนานละสิบสลึงหาที่ซื้อมิได้, จะขอพระราชทานเร่งปล้น. พระเจ้าหยู่หัวบันชาตามนายทัพนายกอง. ซงพระกรุนาสั่งไห้เลิกกองทัพเสียด้านหนึ่ง, ไห้เร่งปล้นวันนะวันจันท เดือนสี่ ขึ้นสี่ค่ำ. เพลาสามทุ่ม สองบาท เดือนตก, เจ้าพนักงานยิงปืนไหย่น้อยระดมทั้งสามด้าน, เอาบันไดหกพาดปีนกำแพงขึ้นไป. พระเจ้าเชียงไหมต้านทานมิได้, ก็พาครัวหนีอพยพหนีออกเพลา 11 ทุ่ม ทหานเข้าเมืองได้, ได้แต่นักส้าง บุตรพระเจ้าเชียงไหม่องค์หนึ่ง มาถวาย. พระเจ้าหยู่หัวตรัดต่อนักส้างว่า, พระเจ้าเชียงไหม่ บิดาท่าน หาสัจจานุสัจมิได้, เราคิดว่า จะออกมาหาเราโดยสัจ เราจะไห้ครองราชสมบัติ. ตรัดดั่งนั้นแล้ว ก็ไห้นักส้างถวายสัจจานุสัจ. พระเจ้าหยู่หัวก็ไห้แบ่งไพร่พลเมืองไว้พอสมควน, เหลือนั้นไห้กวาดครัวอพยพหยิงชายลงมา. ไห้นักล้างลงมาส่งสเด็ดถึงเมืองสว่างคบุรี. ซงพระกรุนาไห้นักส้างกลับขึ้นไปครองราชสมบัตินะเมืองเชียงไหม่ พระเจ้าหยู่หัวสเด็ดยังไนมืองพระพิสนุโลก, นมัสการพระชินราชชินสีห เปลื้องเครื่องต้นถวายซงสักการะบูชาสมโภชเจ็ดวัน, แล้วสเด็ดลงมาพระนคร และลาวซึ่งต้อนลงมานั้นไห้ส่งไปไว้เมืองพัทลุง, เมืองสงขลา, เมืองนครสรีธัมราช, เมืองจันทบุรี, แล้วสเด็ดออกซงสีลยังพระที่นั่งมังคลาภิเสก, เพลา 10 ทุ่ม ทอดพระเนตรไปโดยฝ่ายทิสบูรพ, เห็นพระสาริริกบรมธาตุปาติหารย์, เรียกปลัดวังไห้เอาพระราชยานซงสเด็ดออกไป, ไห้กรุยปักขึ้นไว้ สถาปนาพระมหาธาตุนั้นสูง 19 วา ยอดนพสูนย์สูงสามวา, แล้วขนานนามไห้ชื่อ วัดมหาธาตุ, และไห้ทำพระราชพิธีประเวสพระนครและเฉลิมพระราชมนเทียร. ขนะนั้น พระยากัมพูชายกเข้ามาถึงเมืองชลบุรี, กวาดครัวอพยพหญิงชายไนเมืองชลบุรีและเมืองจันทุบรี, คนประมานหกพันเจ็ดพัน กลับไปเมืองกัมพูชาธิบดี. สมเด็ดพระพุทธเจ้าหยู่หัวไห้พระยาไชยนรงค์เปนทัพหน้า, ยกไปถึงสพานแยก. ชาวกัมพูชาออกมาตีทัพพระยาไชยนรงค์, ได้รบพุ่งกันเปนสามาถ, พระยากัมพูชาก็แตกฉาน. พระเจ้าหยู่หัวไห้ตั้งค่ายประจำทัพหยู่สามวัน, แล้วยกเข้าตีแตกฉาน เข้าเมืองได้ พระยากัมพูชาลงเรือหนี. พระเจ้าหยู่หัวลงจากช้าง ไห้ยิงปืนนกสับลงไปต้องหม้อดินเปนเพลิงลุกขึ้น. พระยากัมพูชาหนีไปรอด. จับได้แต่พระยาอุปราช บุตรพระยากัมพูชา. ไห้พระยาไชยนรงค์หยู่เมืองกัมพูชา ไว้คนห้าพัน, พระเจ้าหยู่หัวสเด็ดคืนพระนครสรีอยุธยา. ครั้นหยู่มา ยวนยกมารบ, ถ้ามาน้อย ชาวกัมพูชาเปนไจรบ, ถ้ามามาก ก็เรรวนไป. พระยาไชยนรงค์บอกหนังสือมากราบทูน. สมเด็ดพระเจ้าหยู่หัวไห้มีหนังสือตอบไป, ไห้กวาดครัวอพยพยกมาถึงพระนครแล้ว, ไห้ทำพระราชพิธีประเวสพระนคร, แล้วปูนบำเหน็ดรางวันนายทัพนายกอง.