(๒๔)ผู้ใดรู้ว่า มีผู้คิดจะกระทำการประทุษฐร้ายอันสามารถอาจจะให้บุคคลผู้หนึ่งผู้ใดถึงแก่ความตายก็ดี จะกระทำผิดฐานข่มขืนทำชำเราก็ดี จะกระทำผิดฐานเปนโจรชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือเปนโจรสลัดก็ดี ถ้าแลมันรู้เช่นนั้นแล้ว มันแกล้งเพิกเฉยเสียไม่เอาความไปร้องเรียนต่อเจ้าพนักงานในหน้าที่ก็ดี หรือมันไม่แจ้งแก่ผู้ที่จะพึงถูกประทุษฐร้ายนั้นในเวลาอันพอที่เขาจะป้องกันภยันตรายนั้น ๆ ได้ก็ดี ท่านว่า มันผู้จงใจละเลยเช่นว่ามานี้มีความผิด ต้องรวางโทษชั้น ๔ แต่ถ้าหากว่าผู้ที่กระทำผิดคิดประทุษฐร้ายนั้นเปนสามี, ภรรยา, พี่, น้อง, หรือเปนญาติที่สืบสายโลหิตโดยตรงขึ้นไปหรือโดยตรงลงมาของมันเอง ท่านว่า อย่าให้เอาโทษแก่มันผู้ละเลยนั้นเลย
ความผิดลหุโทษ
ในฐานประทุษฐร้ายต่อทางไปมา
แลทางส่งข่าวแลของ ๆ สาธารณชน
(๑)ผู้ใดกีดกั้นทางหลวงโดยใช่เหตุ เช่น มันเอารถ หรือยานอย่างอื่น หรือสิ่งใดใด ไปทอดทิ้งไว้ให้สามารถจะเกิดอันตรายหรือขัดข้องแก่ความสดวกในการไปมาของสาธารณชน ท่านว่า มันมีความผิด ต้องรวางโทษชั้น ๑
(๒)ผู้ใดมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมาย แลมันบังอาจปลูกเรือน, ปักรั้ว, หรือปลูกสร้างสิ่งใดใดให้ล้ำเข้าไปในทางหลวง ท่านว่า มันมีความผิด ต้องรวางโทษชั้น ๑
(๓)ผู้ใดไม่กระทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจแลหน้าที่สั่งให้รักษาถนนหลวงให้สอาด ท่านว่า มันมีความผิด ต้องรวางโทษชั้น ๑
(๔)ผู้ใดปลูกร้าน หรือวางแผงลอย หรือตั้งที่สำหรับขายของ ลงในถนนหลวงโดยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วยกฎหมาย ท่านว่า มันมีความผิด ต้องรวางโทษชั้น ๑
(๕)ผู้ใดปล่อยปสุสัตว์หรือสัตว์พาหนะของมันให้เที่ยวไปตามถนนหลวง ท่านว่า มันมีความผิด ต้องรวางโทษชั้น ๑
(๖)ผู้ใดดับโคมไฟที่ให้แสงสว่างสำหรับสาธารณชนไปมาตามถนนหลวง ท่านว่า มันมีความผิด ต้องรวางโทษชั้น ๑
(๗)ผู้ใดใช้รถตามถนนหลวงในเวลากลางคืน ไม่จุดโคมไฟให้แสงสว่างที่รถนั้น