หน้า:คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๒-๑๔.pdf/15

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว


ตราครุฑ
ตราครุฑ
– ๑๕ –

๙. นายทวี จรุงสถิตพงศ์ เบิกความว่า พยานเป็นหลานที่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้การสนับสนุนช่วยเหลือมาโดยตลอด โดยทำงานกับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มาตั้งแต่เรียนจบจากต่างประเทศ ในบางบริษัท นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ให้พยานเป็นผู้ถือหุ้น โดยพยานลงทุนด้วยแรงงาน ส่วนนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้ลงทุนด้วยเงิน พยานจบการศึกษาด้านนิเทศศาสตร์ ปรากฏตามปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยกรุงเทพและสำเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา (เอกสารหมาย ถ ๗๑) ในวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๒ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ให้แก่พยาน และพี่ชาย คือ นายปิติ จรุงสถิตพงศ์ เพื่อให้หาแนวทางฟื้นฟูธุรกิจ เมื่อพยานรับโอนหุ้นมาแล้ว ได้จัดทำการวิเคราะห์การนำบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด กลับมาเริ่มธุรกิจใหม่ตามบทวิเคราะห์โดยนายทวี จรุงสถิตพงศ์ (เอกสารหมาย ถ ๖๖/๑ ถึง ๖๖/๖) แล้วถือโอกาสที่มีการประชุมผู้ถือหุ้นนำเสนอแผนการฟื้นฟูธุรกิจให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ทราบ แต่เนื่องจากต้องมีการลงทุนเพิ่มตามเอกสารประมาณการรายรับ–รายจ่ายสำหรับโครงการวี-ลัค มีเดีย (เอกสารหมาย ถ ๖๗/๑ ถึง ถ ๖๗/๖๐) นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ตกลงและให้โอนหุ้นคืนเพื่อดำเนินการเลิกบริษัท พยานจึงได้โอนหุ้นคืนเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๒ ในวันนั้น พยานได้เดินทางไปถึงบ้านนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมกับนายปิติ จรุงสถิตพงศ์ ในเวลาประมาณ ๑๙.๐๐ นาฬิกา เมื่อไปถึง ได้พบกับทนายความ ทีมเจ้าหน้าที่บัญชี และนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อพูดคุยกันสักครู่แล้ว พยานลงนามในเอกสาร แล้วพยานก็เดินทางกลับ โดยไม่ได้มีการชำระราคาหุ้นกันแต่อย่างใด

๑๐. นายพิพัฒน์พงษ์ รุจิตานนท์ เบิกความว่า พยานเป็นทนายความโนตารีในสำนักงานกฎหมายพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้จัดทำเอกสารการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้แก่นายทวี จรุงสถิตพงศ์ และนายปิติ จรุงสถิตพงศ์ ในวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๒ และเอกสารการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนายทวี จรุงสถิตพงศ์ และนายปิติ จรุงสถิตพงศ์ ให้แก่นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๒ การโอนหุ้นทั้งหมดทำขึ้นที่บ้านนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยไม่มีการชำระราคาหุ้น มีนางสาวลาวัลย์ จันทร์เกษม และนางสาวกานต์ฐิตา อ่วมงามขำ ลงนามเป็นพยานในตราสารโอนหุ้น สำหรับการโอนหุ้นในวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๒ นั้น เมื่อนายทวี จรุงสถิตพงศ์ และนายปิติ จรุงสถิตพงศ์ ลงนามในตราสาร