หน้า:นิทานโบราณคดี - ดำรงราชานุภาพ - ๒๔๘๗.pdf/311

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
296

แก่งไนแม่น้ำโขงก็ผิดกับแก่งไนแม่น้ำอื่นไนเมืองไทย เช่นแม่น้ำไทรโยคก็มีแก่งแต่ตรงที่พูเขาหยู่ไกล้ชิดลำน้ำ แม่น้ำปิงก็มีแก่งเชียงไหม่แต่ตรงลำน้ำผ่านพูเขาเขื่อนแผ่นดินสูงเทือกเดียว 49 แก่ง พ้นที่เช่นนั้นแล้วก็ไม่มีแก่ง แต่แม่น้ำโขง ตลอดทางที่ฉันไปไม่เห็นมีพูเขาหยู่ริมน้ำ หรือลำน้ำผ่านไปไนเทือกพูเขา แต่มีแก่งเปนระยะไปตลอดทาง วันแรกออกจากเมืองหนองคายต้องลงแก่งถึง 7 แห่ง วันหลัง ๆ ก็ต้องลงแก่งทุกวัน ล้วนเปนแก่งไหญ่โตตามส่วนแม่น้ำ เรือขึ้นล่องยากกว่าแม่น้ำอื่น จะเปรียบกับแก่งไนแม่น้ำไทรโยคหรือแก่งไนแม่น้ำสักไม่ได้ พอเปรียบได้แต่กับแก่งเชียงไหม่ เพราะแก่งไทรโยคกับแก่งแม่น้ำสักไคร ๆ ก็เอาเรือขึ้นล่องได้ แต่เเก่งเชียงไหม่กับแก่งแม่น้ำโขง ต้องมีผู้เชี่ยวชาญสำหรับเอาเรือแพผ่านแก่งจึงไปได้

จะเลยเล่าถึงแก่งเชียงไหม่ไห้พิสดารสักหน่อย เพราะเดี๋ยวนี้คนไปมาและการส่งสินค้ากับเมืองเชียงไหม่ ไช้รถไฟกันเสียเปนพื้น ที่ไช้ทางเรือมิไคร่มี เรือที่เคยไช้ทางแม่น้ำปิงเช่นเรือแม่ปะก็สูญเกือบหมดแล้ว การขึ้นล่องทางแก่งเชียงไหม่ดูไกล้จะเปนโบรานคดีเข้าทุกที ฉันเคยล่องเรือทางแก่งเชียงไหม่ 2 ครั้ง จึงจะเล่าเรื่องแก่งเชียงไหม่ฝากไว้ไนนิทานนี้ด้วย ได้กล่าวมาแล้วว่าการผ่านแก่งเชียงไหม่ต้องอาสัยผู้เชี่ยวชาญจึงจะเอาเรือขึ้นล่องได้ แต่ก่อนมาทางแขวงเมืองเชียงไหม่มีผู้เชี่ยวชาญหยู่ที่บ้านมืดกาข้างเหนือแก่งแห่งหนึ่ง ทางแขวงเมืองตากก็มีผู้เชี่ยวชาญหยู่ที่บ้านนาข้างไต้แก่งแห่งหนึ่ง ชาวบ้านทั้ง