วิหารอุโบสถขึ้นบนเขาพระโคะ เรียกว่า “วัดพระโคะ” แลอาณาเขตรเหล่านั้นเรียกว่า “ที่พระโคะ” แต่นั้นมา
แลครั้งนั้นโปรดเกล้าฯ ให้ออกเมืองราชแสนมาเปนเจ้าเมืองพัทลุง โปรดให้บรรทุกอิฐมาช่วยทำพระศรีรัตนมหาธาตุเจดีย์นี้ด้วย พระราชมุนีก็ได้เปนเจ้าอธิการวัดพระโคะต่อมา (มีคำเล่าลือว่า ท่านพระโคะผู้นี้มีบุญแลมีอภินิหารต่าง ๆ ชาวเมืองแถวนั้นเรียกว่า “ท่านเจ้าพระโคะผู้มีบุญ” นับถือกันว่าเปนเทพารักษ์ศักดิ์สิทธิ์มาจนทุกวันนี้ แลที่เรียกว่ารอยพระบาทนั้นก็กลายเปนรอยเท้าท่านพระโคะไป) ต่อมาพระราชมุนี พระครูสัทธรรมรังษี พระมหาเถรพุทธรักขิต พระครูบุตรเทพ แลหมื่นเทพบาล สร้างวัดในถ้ำคูหาสวรรค์ในที่ราบของพ่อขุนศรีชนาพยาบ้านปลัดเมืองพัทลุง ทำพระพุทธรูป ๒๐ องค์ แลก่อมาลิกเจดีย์ ๗ องค์ แล้วถวายพระราชกุศลเข้าไปกรุง โปรดให้มีพระตำราตราโกษาธิบดียกญาติโยมแลภูมิสัตวไร่นาอันมีในที่นั้น ๑๒ หัวงานขาดออกจากส่วยหลวงเปนศิลบานทานพระกัลปนาสำหรับวัดคูหาสวรรค์สืบไป
ต่อมาออกพระสุรัสราชาออกมาเปนเจ้าเมืองพัทลุง นิมนต์พระมหาเถรผู้มีอายุ (ไม่ปรากฎนาม) ให้ก่อพระมหาธาตุเจดีย์สูงเส้น ๑ วา แลพระวิหารพระธรรมศาลา พระพุทธรูปพระโมคคัลลาน์พระสาริบุตรฝ่ายซ้ายฝ่ายขวาไว้ในกลางเมืองพัทลุง (จะ