หน้า:ประชุม กม ประจำศก (๐๔) - ๒๔๗๘.pdf/69

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๕๕

โทษต้องทุกข์เวทนาในพระราชอาชาอะนาจักร์โสตะหนึ่ง เปนทิฐิแต่ในปัจจุบัน ครั้นสิ้นชีวิตร์แล้ว อกุศลที่ตนสูบฝิ่นกินฝิ่นเปนอาจิระกำม์แล้วคบหากันเปนโจรผู้ร้ายซ้ำเข้าเปนสองโทษฉนี้ ผลกำม์ก็จะนำตนไปตกในมหาดาพะนรกอะเวจีนะรก นายนิริบาลลงทัณฑกำม์กระทำโทษต้องทุกข์เวทนาโดยสาหัสหาที่สุดหมิได้ ครั้นพ้นจากมหาดาพะนะรกอะเวจีนรกแล้ว ก็ต้องไปบังเกิดเปนเปรตวิไสยมีควันไฟพลุงออกมาทางจมูก เพราะเสศผลที่ตนสูบฝิ่นกินฝิ่นเปนนิจผิดเปนมิจฉาชีวะไม่เหนทุกข์โทษในอะนาคตปัจจุบัน ครั้นจะละไว้ บุคคลที่เปนพาลสันดานทุจริดก็จะคบคิดกันลักลอบซื้อฝิ่นขายฝิ่นสูบฝิ่นกินฝิ่นและจะทำโจรกำม์กำเริบล่วงเกินพระอาชา แลจะไปทนทุกข์เวทนาในอะบายภูมอีกโสตหนึ่ง แล้วทรงพระราชดำริห์เหนว่า ฝิ่นซึ่งนักเลงมีชื่อสูบกินอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่มีพืชผลต้นลำขึ้นในแผ่นดินกรุงพระมหานครศรีอยุธยา ฝิ่นมีเข้ามาแต่นานาประเทศ ถึงฝารั่งเจ้าของผู้กระทำฝิ่นได้ ก็ยังห้ามปรามเอาโทษกันถึงสิ้นชีวิตร หาให้สูบฝิ่นกินฝิ่นไม่ แม้เจสัวแลลูกค้าซึ่งแต่งเรือไปค้าขายฝ่ายตวันตก ถ้าเกรงพระราชบัญญัติไม่จัดซื้อฝิ่นเข้ามาขายณะกรุงเทพฯ แล้ว ผู้สูบฝิ่นกินฝิ่นไม่มีที่ซื้อ ก็คงจะอดได้ หามีผู้ใดสูบฝิ่นกินฝิ่นไม่ ถ้ามีผู้ขายมีที่ซื้อได้ ถึงจะเอาโทษสักเพียงใด ก็เหนว่า ผู้สูบฝิ่นกินฝิ่นจะอดหมิได้ คงจะลักลอบซื้อสูบกินต่อไป แลผู้ซื้อกับผู้ขายล่วงพระราชอาชาโทษเท่ากัน ครั้นจะห้ามให้เด็ดขายโดยเร็วเล่า ถ้าผู้สูบฝิ่นกินฝิ่นที่ติดมาช้านานหลายปีแล้ว ก็จะหากลับตัวอดได้โดยเร็วไม่ จะเกิดไข้เจ็บแลถึงตายก็จะมีบ้าง พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงพระเมตตาแก่ไพร่ฟ้าข้า