หน้า:ปัญญาส (๑๖) - ๒๔๗๑.pdf/42

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
39
๕๐ พากุลชาดก

ขอพระองค์ทรงรีบไปจับพากุลกุมารฆ่าเสีย เอาเมียมาตั้งให้เปนนางอัคมเหษี เมื่อทำได้ดังนี้ พลนิกายของพระราชานั้นก็จักไม่มาถึงเมืองนี้

พระเจ้าพาราณสีได้ทรงฟังก็ทรงเชื่อถือ จึงมีพระราชโองการให้ประชุมโยธาหาญอันประกอบด้วยองค์ ๔ ครั้นเหล่าจตุรงคเสนีโยธาหาญผูกสอดอาวุธยุทธภัณฑ์ประชุมกันพร้อมแล้ว พระเจ้าพาราณสีก็ทรงเครื่องอลังการวิภูสิตเสร็จสรรพ เสด็จขึ้นประทับณคอคชสารพระที่นั่งต้นแวดล้อมไปด้วยหมู่พหลพลนิกร ยาตราทัพออกจากพระนครพาราณสี ส่วนคามโภชกก็ขึ้นขี่คอช้างตัวหนึ่งนำเสด็จไปในเบื้องหน้า ครั้นถึงที่นาของพากุลกุมาร พระเจ้าพาราณสีทอดทัศนาการเห็นพระโพธิสัตว์อันยืนม้าอยู่ณที่นานั้น จึงชี้พระหัตถ์ ตรัสว่า ดูกรอ้ายพากุลกุมาร มึงได้เครื่องอลังการมาแต่กษัตริย์องค์ใด แล้วพากษัตริย์องค์นั้นมาล้อมเมืองกูหรือ กูจะไม่ไว้ชีวิตมึงละ จะจับมึงฆ่าเสียในวันนี้ แล้วจะริบเอาภรรยาของมึงเสียด้วย

พากุลกุมารโพธิสัตว์ได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวตอบว่า ดูกรพระยาอันธพาล ท่านได้คามโชกเปนที่ปรึกษา ปราถนาจะใคร่ได้ภรรยาเรา แล้วกระทำความข่มเหงข่มขี่เราด้วยอุบายต่าง ๆ บัดนี้ ท่านปราถนาจะมาฆ่าเราอีก เพราะเหตุนี้และ เราจะไม่ไว้ชีวิตท่านละ เราจะปลงชีวิตท่านเสียด้วยธนูนี้ พูดดังนี้แล้วก็ยกสหัสสถามธนูขึ้นเหนี่ยวสายดีดไป เสียงสายธนูที่พระโพธิสัตว์ดีดนั้นก็ดังประดุจดังว่าเสียงอัสนีอันลั่นไปร้อยครั้ง