หน้า:ปัญญาส (๑๖) - ๒๔๗๑.pdf/5

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
2
ปัญญาสชาดก

ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายนั่งสนทนาถึงเรื่องอะไรกัน ครั้นภิกษุทั้งหลายทูลความตามที่ได้สนทนานั้นให้ทรงทราบ จึงมีพระพุทธดำรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระเทวทัตจะได้คิดประทุษร้ายตถาคตแล้วแลถึงความฉิบหายแต่ในชาตินี้เท่านั้นหามิได้ แม้ถึงในชาติปางก่อน พระเทวทัตก็ได้คิดประทุษร้ายตถาคตแล้วแลถึงความฉิบหายดุจชาตินี้ มีพระพุทธดำรัสดังนี้แล้วก็ทรงดุษณีภาพ พระภิกษุเหล่านั้นจะใคร่ทราบอดีตนิทานจึงทูลอาราธนา พระพุทธองค์ก็ทรงนำเรื่องในอดีตกาลมาตรัสเทศนาดังต่อไปนี้ว่า

อตีเต ภิกฺขเว พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิฯ ลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในกาลเปนอดีตล่วงแล้ว พระราชาทรงพระนามว่า พรหมทัต ทรงครองราชสมบัติอยู่ในเมืองพาราณสี ในกาลนั้น มีเศรษฐีผู้มีทรัพย์คนหนึ่งชื่อว่า โภควุฒิ ตั้งบ้านเรือนอยู่ในทิศบูรพาแห่งเมืองพาราณสี เศรษฐีนั้นเปนผู้บริบูรณด้วยโภคทรัพย์สมบัติ แลมีทรัพย์นับประมาณได้ ๗ โกฏิ ทั้งเปนผู้มีบริวารมากมาย แต่ไร้บุตร คือ ยังหามีบุตรไม่ ครั้นอยู่นานมา โภคทรัพย์ที่มีอยู่นั้นก็ร่อยหรอไป ยังเหลืออยู่ประมาณสักเล่มเกวียนหนึ่งหย่อน ๆ เศรษฐีนั้นจึงประกอบการทำมาหากินด้วยตนสองคนกับภรรยา

ฝ่ายบิดาของเศรษฐีนั้นตายไปเกิดเปนพระอินทร์อยู่ในพิภพดาวดึงส์ ในกาลนั้น พระโพธิสัตว์ของเราทั้งหลายก็ขึ้นไปอุบัติอยู่ในชั้นดาวดึงส์เหมือนกัน แต่ถึงคราวที่จะสิ้นอายุจุติแล้ว ขณะนั้น โภควุฒิเศรษฐี