หน้า:ปัญญาส (๑๖) - ๒๔๗๑.pdf/7

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
4
ปัญญาสชาดก

นางตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ จึงคิดรำพึงว่า สุบินนิมิตของเราจะดีร้ายอย่างไรหนอ คิดดังนี้แล้ว ก็ไปสู่สำนักพราหมณ์ผู้ทำนายสุบิน จึงเล่าความตามนิมิตฝันนั้นให้ฟัง แล้วถามว่า สุบินนิมิตของข้าพเจ้านี้จะร้ายดีประการใด ขอท่านได้เมตตาพิจารณาดูให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด

พราหมณ์ผู้ทำนายสุบินนั้นก็พิจารณาใคร่ครวญดูตามสุบินนิมิตแล้วทำนายว่า ดูกรนางผู้เจริญ ท่านจักได้บุตรผู้หนึ่งซึ่งมีบุญญาธิการมาก แต่ทว่า เมื่อบุตรนั้นมีอายุได้ ๑๐ ปี ตัวท่านผู้เปนมารดาก็จักถึงซึ่งตวามตาย ครั้นต่อมาเมื่อบุตรนั้นมีอายุได้ ๑๕ ปี ท่านที่เปนบิดาก็จักจะทำกาลกิริยาตาย ต่อไปเบื้องหน้าบุตรของท่านนั้นจักได้ครองราชสมบัติเปนอิศรภาพในเมืองพาราณสีนี้

ภรรยาของโภควุฒิเศรษฐีได้ฟังคำทำนายดังนั้น ก็มีความโสมนัสยินดีเปนอันมาก จึงอำลาพราหมณ์ผู้ทายนิมิตกลับมาเรือนตน แล้วเล่าความที่ได้นิมิตฝัน แลเล่าความตามที่พราหมณ์ผู้ทายสุบินได้ทำนายนั้น ให้สามีฟังถี่ถ้วนทุกประการ แต่นั้นมา นางก็กระทำคัพภปริหาร คือ ระวังพิทักษ์รักษาครรภ์ ไม่บริโภคของที่เผ็ดร้อนนัก เปนต้น จนครรภ์นั้นถ้วนทศมาส ลมกัมมัชวาตก็บังเกิดจลนาการป่วนปั่น นางก็คลอดบุตรเปนชายมีผิวพรรณดุจทองคำธรรมชาติ มารดาบิดาก็มีจิตต์พิศวาสยิ่งนัก จึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า พากุลกุมาร ดังนี้ เพราะถือเอาเหตุที่พราหมณ์ผู้ทายสุบินได้ทำนายไว้ว่า กุมารนี้จะได้เปนอิศรภาพในตระกูลทั้งสองนั้น เปนเนมิตกนาม แลมารดาบิดานั้นก็มิได้มีความประมาท เพราะเหตุที่รู้ว่า ตัวนั้นจักตายเปนแน่ จึงตั้งหน้าบำเพญทาน