หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/24

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
11
๓ สุวรรณสังขชาดก

สนั่นเหมือนดังช้างอันเมามันฉะนั้น บรรดาหมู่สัตวดิรัจฉานทั้งปวงก็เกิดความกรุณาใหญ่ด้วยประการฉะนี้ ฯ

โส อุลุมฺโป ความว่า แพนั้นลอยไปตามกระแสน้ำคงคาช้านาน ด้วยบุรพอกุศลกรรมของพระราชเทวีและพระโพธิสัตว มีลมพายุใหญ่พัด ทำให้แพแตกออกไป พระนางจันทาเทวีได้ไม้ที่แพแตกนั้นท่อนหนึ่งเกาะลอยไป ทอดพระเนตรเห็นไม้ต้นหนึ่งตั้งอยู่ริมฝั่ง มียอดประลงมาใกล้น้ำ นางจึ่งพยายามว่ายไปด้วยกำลังแรง จับยอดไว้นั้นไว้ได้มั่น ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปถึงคบไม้ นั่งนึกถึงโอรส แล้วทางโสกายกใหญ่ นางก็เลยนั่งอยู่ณต้นไม้ที่ฝั่งคงคาใกล้มัททราชบูรี

คราวนั้น เศรษฐีคนหนึ่งนามว่า ธนญชัย มีสมบัติมาก อยู่ในมัททราชบุรี วันนั้น ทาสีของธนญชัยเศรษฐีไปเที่ยวตามฝั่งคงคาด้วยกิจธุระอย่างหนึ่ง ไปพบพระนางจันทาเทวีร้องไห้อยู่บนคบไม้ จึ่งเดินเข้าไปใกล้ ร้องถามว่า แม่ทำไมจึ่งนั่งร้องไห้อยู่ที่นี้ ฯ แน่ะแม่ ดีฉันเป็นมเหษีของพระเจ้าพรหมทัต เจ้าเมืองพรหมบุรี นางเทวีจึ่งเล่าเรื่องราวทั้งปวงให้ทาสีนั้นฟังตามลำดับแต่ต้นมา ทาสีนั้นทราบเรื่องแล้วจึ่งรับพระราชเทวีนำมายังมัททราชบุรี ครั้นถึงจึ่งเล่าเรื่องราวให้ธนญชัยเศรษฐีนายของตนฟัง ธนญชัยเศรษฐีสดับทราบความแล้ว บอกให้ทาสีพาตัวพระราชเทวีมา แล้วทำความต้อนรับด้วยวาจาน่ารักใคร่ ชวนให้พระราชเทวีอยู่ด้วยกันกับตน พระนางจันทาเทวีรับรองว่า สาธุ แล้วก็อยู่ในเรือนเศรษฐีนั้นต่อไป ธนญชัยเศรษฐีจึงตั้งพระราชเทวีให้เป็นแม่ครัวของตน แต่นั้นมา พระนางจันทาเทวีอาศัยเศรษฐีนั้นเลี้ยงชีพอยู่เป็นสุขทุกทิวาราตรี