ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๓).djvu/58

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๓

พอนกับคนมีชื่อทั้งนั้นกลับนำเอาเครื่องเสวยออกมาถวาย แล้วให้พระสงฆ์สี่รูปซึ่งนำเสด็จมานั้นออกมาถวายพระพรว่า พระยาจันทบูรให้เชิญเสด็จเข้าไปในเมือง จึงตรัศว่า ในเมืองจันทบูรไม่มีคฤหัสถ์ใช้แล้วฤๅ จึงใช้แต่สมณดังนี้ แล้วตรัศแก่พระสงฆ์ว่า ความเรื่องนี้โยมก็ได้สั่งไปแก่ขุนพรหมธิบาลแล้ว นิมนต์ผู้เปนเจ้าจงไปบอกแก่พระยาจันทบูรว่า อ้ายขุนราม หมื่นซ่อง มันยุยงพระยาจันทบูร ๆ หนุ่มแก่ความ จะฟังถ้อยคำอ้ายเหล่านี้ ก็จะเสียทีที่รักเอนดูกัน ถ้าพระยาจันทบูรตั้งอยู่ในสัตย์ จะเปนมิตรไมตรีกัน ก็จงส่งขุนราม หมื่นซ่อง ออกมาทำสัตย์ต่อโยมเถิด พระสงฆ์ก็ถวายพระพรลากลับเข้าไปแจ้งข้อรับสั่งแก่พระยาจันทบูร พระยาจันทบูรจึงใช้หลวงปลัดออกมากราบทูลว่า ซึ่งพระยาจันทบูรจะไม่ตั้งอยู่ในสัตย์สวามิภักดินั้นหามิได้ จะใคร่ส่งตัวขุนราม หมื่นซ่อง ออกมาถวายอยู่ แต่คนทั้งสองนั้นกลัวพระราชอาชญาด้วยตัวเปนคนผิด จะออกมาเฝ้ามิได้ จึงตรัศว่า พระยาจันทบูรมิได้ตั้งอยู่ในสัตย์ ไม่ยอมเปนไมตรีด้วยเราแล้ว เห็นว่า ขุนราม หมื่นซ่อง จะป้องกันเมืองไว้ได้ ก็ให้ตกแต่งบ้านเมืองให้มั่นคงเถิด เราคงจะตีเอาให้จงได้ แล้วตรัศสั่งนายทัพนายกองทแกล้วทหารทั้งปวงให้หุงอาหารกินพร้อมแล้ว เหลือนั้นให้สาดเสียเทเสียจงสิ้น ในเพลากลางคืนวันนี้เร่งเข้าตีเอาเมืองจันทบูรให้จงได้ เข้าไปกินเข้าเข้าเอาในเมือง แม้นมิได้เมือง ก็จงตายเสียให้พร้อมกันทีเดียวเถิด ครั้นค่ำลงเพลาประมาณสามยาม จึงตรัศสั่งให้ยกทัพบ่ายหน้าต่อทิศอิสาณเข้าตีเมืองจันทบูร จัดพลทหารไทยจีนลอบเข้าไปประจำด้านอยู่ทุกด้าน กำหนดเวลาเมื่อจะเข้าอย่าให้โห่ร้องขึ้นก่อน ต่อเข้าเมืองได้แล้วจึงให้โห่ขึ้นพร้อมกัน จึงเสด็จ