หน้า:พรก หมิ่นประมาท รศ ๑๑๘.pdf/4

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
เล่ม ๑๖ น่า ๒๑
วันที่ ๙ เมษายน ๑๑๘
ราชกิจจานุเบกษา

สำหรับปกครองบ้านเมืองอันได้ตั้งขึ้นไว้แล้วตามกฎหมายซึ่งยังคงมีอยู่ในสมัยนั้น

ข้อกล่าวคือ ผู้นั้นมีความประสงค์แต่ที่จะแนะนำให้อาณาประชาราษฎรทั้งหลายคิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไขพระราชประเพณีราชการสำหรับปกครองสยามรัฐมณฑลอันได้ตั้งขึ้นไว้แล้วตามกฎหมายในทางใดทางหนึ่งซึ่งไม่เปนที่ห้ามตามกฎหมาย และ

ข้อผู้นั้นมีความประสงค์แต่จะชี้แจงให้เห็นว่า ขนบธรรมเนียมราชการอันใดอันหนึ่งซึ่งตนเชื่อว่า นำให้เกิดผลอันไม่ดี ยังให้อาณาประชาราษฎรทั้งหลายมีน้ำใจกระด้างกระเดื่องเกลียดชังซึ่งกันแลกันจนจะเกิดอันตรายขึ้น เพื่อจะจะให้เลิกถอนฤๅแก้ไขขนบธรรมเนียมราชการอันนั้นเสีย

เมื่อผู้นั้นมีความประสงค์แต่จะชี้แจงข้อความซึ่งได้ยกเว้นไว้ ๓ ข้อเหมือนดังว่ามานี้แล้ว ท่านว่า ผู้นั้นไม่มีผิด หาโทษมิได้

มาตราผู้ใดโฆษนาประกาศเอง ฤๅยังให้ผู้อื่นโฆษนาประกาศแทนตัว เพื่อให้คนทั้งหลาย (จะเปนคนผู้ถูกหมิ่นประมาทเองก็ดี ฤๅคนอื่นก็ดี) ได้อ่านได้เห็นฤๅได้รับข้อความอันใดอันหนึ่ง ฤๅสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เปนถ้อยคำวาจา ฤๅเครื่องหมาย ที่ได้เขียน ฤๅตีพิมพ์ ฤๅทำอย่างอื่นให้แลเห็นเปนที่เข้าใจได้ จะเปนความจริงก็ดี ฤๅมิเปนความจริงก็ดี ซึ่งตนมุ่งหมายจะหมิ่นประมาทผู้อื่นฤๅจะยั่วเย้าให้ผู้อื่นโกรธแค้นด้วยข้อความฤๅสิ่งที่กล่าวมาแล้วที่เปนเหตุประจานผู้อื่น

ให้ได้รับความเกลียดชัง ความเย้ยเยาะ ฤๅความสบประมาทดูถูกของมหาชนทั้งหลาย จนเขาต้องเสียชื่อเสียงกิตติคุณความดีไป ท่านว่า ผู้นั้นกระทำผิด

เมื่อพิจารณาเปนสัตย์ว่า ผู้นั้นกระทำผิดต่อข้อห้ามดังเช่นกล่าวมาแล้ว ก็ให้จำคุกไว้มีกำหนดไม่เกินกว่า ๒ ปี ฤๅให้ปรับเปนเงินไม่เกินกว่า ๑๐๐๐ บาท ฤๅทั้งจำคุกและปรับด้วย

เว้นไว้แต่ผู้นั้นโฆษนาประกาศเอง ฤๅยังให้ผู้อื่นโฆษนาประกาศแทนตัว ด้วยข้อความฤๅสิ่งซึ่งจะกล่าวต่อไปนี้ คือ

ข้อข้อความฤๅสิ่งใดซึ่งตนเอามาสำแดงฤๅอ่านในเวลาพิจารณาคดีในศาลใดศาลหนึ่ง ฤๅในเวลาใต่สวนเหตุการอันใดอันหนึ่ง ตามพระบรมราชโองการ ฤๅตามคำสั่งของรัฐมนตรีสภา ฤๅตามคำสั่งของเสนาบดีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง ฤๅตามอำนาจของพระราชกำหนดกฎหมายบทใดบทหนึ่งซึ่งยังคงใช้อยู่ฤๅซึ่งจะได้ตั้งขึ้นไว้ต่อไปภายน่า อันเปนข้อความฤๅสิ่งที่เกี่ยวกับการพิจารณาฤๅการไต่สวนนั้น ด้วยเหตุที่ตนเชื่อโดยใจอันสุจริตว่า ควรเอามาสำแดงฤๅอ่านในการพิจารณาฤๅการไต่สวนนั้นได้

ข้อข้อความฤๅสิ่งใดซึ่งตนใส่ลงในฎีกาทูลเกล้าฯ ถวาย ฤๅในเรื่องราวซึ่งตนมุ่งหมายโดยใจอันสุจริตว่า จะยื่นต่อเสนาบดีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง และต้องเปนเรื่องราวที่เสนาบดีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งมีน่าที่รับไว้วินิจฉัยได้ตามพระราชกำหนดกฎหมาย

ข้อข้อความฤๅสิ่งใดซึ่งมีอยู่ในรายงานการปฤกษาตั้งกฎหมายในรัฐมนตรีสภาก็ดี