หน้า:พระราชดำรัสฯ แก้ไขการปกครองแผ่นดิน - ๒๔๗๐.pdf/16

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

กองทัพออกไป แม่ทัพจะเปนฝ่ายทหารก็ดีพลเรือนก็ดี ก็ต้องมีใบบอกเข้ามายังกรมที่บังคับเมืองนั้น เพราะฉนั้นราชการในกรมมหาดไทยกรมกระลาโหมจึ่งต้องมีทั้งการทัพศึกทั้งการที่จะรักษาทำนุบำรุงบ้านเมืองแลการเก็บส่วยเก็บบรรณาการ แลการที่จะรงับคดีความต่าง ๆ ปนกันอยู่ในน่าที่นั้น จึ่งเปนการมากเหลือล้น ทําการไปไม่ใคร่ตลอดทุกสิ่งทุกอย่างได้

ยังภายหลัง มาเกิดกรม ๒ กรมนี้ได้บังคับการภาษี ซึ่งเกิดขึ้นใหม่ ๆ ที่มีเงินแผ่นดินมากกว่าภาษีซึ่งอยู่ในกรมพระคลังแต่เดิมขึ้นไปอีกก็มี ต้องทําน่าที่เหมือนเจ้าพนักงานคลังอีกส่วนหนึ่ง

ถ้าจะเทียบตำแหน่งสมุหพระกระลาโหมสมุหนายกในเวลานี้ กับตำแหน่งเสนาบดีที่ในประเทศทั้งปวงมีอยู่ ก็จะตัองนับว่าเปนเสนาบดีว่าการบ้านเมืองด้วย เสนาบดีว่าการยุติธรรมด้วย เสนาบดีว่าการทหารด้วย เสนาบดีว่าการคลังด้วย รวบรวมกันอยู่ในคนเดียว เปนเสนาบดีถึง ๔—๕ ตำแหน่งดังนี้ การจึ่งได้สับสนรุงรังไม่ใคร่จะตลอดไปได้

ส่วนเสนาบดีอีก ๔ ตําแหน่ง ซึ่งเรียกว่าจตุสดมภ์นั้น พระคลังกรมท่า ตำแหน่งเดิมซึ่งเรียกว่าพระคลังนี้ ก็คงจะเปนตําแหน่งที่สำหรับบังคับบัญชาในการเงินซึ่งจะเข้าในพระคลังแลที่จะจ่ายราชการบังคับจัดการภาษีอากรขนอนตลาดทั้งปวงทั่วไป แลบังคับศาลซึ่งชำระความเกี่ยวข้องด้วยพระราชทรัพย์หลวง แต่ในเวลานั้น เงินที่จะเปนพระราชทรัพย์เข้าในทัองพระคลังโดยภาษีอากรมีน้อย ส่วนที่จะจ่ายก็น์อยเหมือนกัน จะใช้การอันใดก็อาไศรยเกณฑ์คนมาใช้เปนพื้น ก็เปน