หน้า:พระราชดำรัสฯ แก้ไขการปกครองแผ่นดิน - ๒๔๗๐.pdf/40

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๙

ยังมีอีกศาลหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นใหม่ เพราะเจ้านายแลเชื้อสายในราชตระกูลมีมากขึ้น จึ่งได้ตั้งขึ้นอีกกระทรวงหนึ่ง สำหรับชำระความในราชตระกูล ไม่ว่าเปนโจทเปนจำเลยไม่ว่าความอย่างใดยกเสียแต่ความที่ถึงตาย ศาลซึ่งได้ออกชื่อมาแล้วเหล่านี้ เปนศาลซึ่งมีน่าที่แต่จะชำระความนั้น แล้วฟังคำตัดสินของลูกขุนทั้งสิน เว้นแต่ศาลต่างประเทศที่ว่ามาแล้ว กับที่เปนความเรื่องราวซึ่งอธิบดีมีอำนาจจะรับขึ้นใหม่ อธิบดีตัดสินเอาเองบ้าง ให้ลูกขุนตัดสินบ้าง

การซึ่งจัดศาลแยกกระทรวงไปตามกรมต่างๆแต่คงให้ลูกขุนเปนผู้พิพากษาตัดสินเช่นนี้ ก็เปนความประสงค์ชั้นต้นที่จะแก้ไขการขัดข้อง ที่ศาลจะไม่มีอำนาจเรียกหาคู่ความมาว่าฤาจะให้คู่ความกลัวเกรงอำนาจศาลด้วยมีอธิบดีเปนใหญ่ได้บังคับบัญชา แลมิให้ขุนศาลตระลาการบิดพลิ้วเชือนแชเสียไม่ว่าความ การที่แก้ไขนั้นก็จะดีไปได้คราวหนึ่ง แต่ครั้นภายหลังมาท่านอธิบดีที่เจ้ากระทรวงได้บังคับศาลนั้นๆถือเสียว่าแล้วแต่ตระลาการแลลูกขุนจะว่ากล่าวไป ไม่เอาธุระรักษาการตามน่าที่ซึ่งปันออกไปใหม่ แลประกอบด้วยการที่ลูกขุนจะพิพากษาตัดสินความให้แล้วไปโดยเร็วไม่ได้ด้วย ถ้อยความก็เกิดรุงรังมากขึ้น จึ่งต้องมีอุบายแก้ไขยอมให้อธิบดีนั้นๆรับเรื่องราวกล่าวโทษอุทธรณ์ตระลาการในศาลนั้นๆ ฝ่ายที่ลูกขุนบังคับบัญชาไปไม่ถูกประการใดซึ่งเคยมาร้องฎีกาทีเดียวนั้น ก็ให้มีแม่กองสำหรับรับเรื่องราวตรวจคำปฤกษาลูกขุนอีกชั้นหนึ่ง เมื่อจัดการดังนี้ ข้อความอุทธรณ์หัวเมือง ซึ่งแต่ก่อนต้องฟ้องณศาลหลวงแห่งเดียวก็กลายไป