หน้า:พิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีแดง 1606 2559.pdf/15

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕

ในกรณีที่นักเรียนหรือนักศึกษากระทำความผิด กล่าวคือได้ประพฤติฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับของสถานศึกษา หรือของกระทรวงศึกษาธิการ หรือกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษามีอำนาจที่จะลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาได้เพียง ๔ สถานเท่านั้น คือ ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติและทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยโทษทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นโทษขั้นสูงสุด ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษาไม่มีอำนาจที่จะลงโทษสูงกว่าโทษให้ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สำหรับคดีนี้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ได้ลงโทษให้ผู้ฟ้องคดีพันสถานภาพการเป็นนักเรียนหอพัก (นักเรียนประจำ) ของโรงเรียน โดยอ้างว่า ผู้ฟ้องคดีได้กระทำผิดกฎระเบียบว่าด้วยการอยู่ประจำของนักเรียน โดยร่วมกระทำผิดกับพวกด้วยการนำสุราขึ้นไปดื่มบนหอพัก ซึ่งหากผู้ฟ้องคดีได้กระทำผิดกฎระเบียบว่าด้วยการอยู่ประจำของนักเรียนตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ กล่าวอ้างจริงก็หมายถึงผู้ฟ้องคดีได้ประพฤติฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษานั้นเอง เพราะว่าระเบียบว่าด้วยการอยู่ประจำของนักเรียนก็คือส่วนหนึ่งของระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษา แม้ว่าโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรังจะออกระเบียบว่าด้วยการอยู่ประจำของนักเรียน (นักเรียนหอพัก) เป็นระเบียบภายในของโรงเรียนในการควบคุมดูแลพฤติกรรมของนักเรียนประจำแยกต่างหากกับระเบียบโรงเรียนไว้ก็ตาม แต่ระเบียบว่าด้วยการอยู่ประจำของนักเรียนดังกล่าวก็ถือเป็นระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษา การออกระเบียบภายในแยกต่างหากจากระเบียบโรงเรียน มิได้มีผลให้ระเบียบภายในดังกล่าวพันสภาพจากการเป็นระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษาแต่ประการใด ดังนั้น ในการลงโทษนักเรียนที่กระทำผิดกฎระเบียบภายในดังกล่าวก็ยังต้องลงโทษตามโทษที่กำหนดไว้ในระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๔ เช่นกัน กล่าวคือ ต้องลงโทษด้วยการว่ากล่าวตักเตือน หรือทำทัณฑ์บน หรือตัดคะแนนความประพฤติ หรือให้ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งเป็นโทษสูงสุดจะลงโทษที่สูงกว่าการให้ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมิได้ ซึ่งการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ลงโทษให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากสถานภาพการเป็นนักเรียนหอพัก (นักเรียนประจำ) ของโรงเรียน

ถือเป็นการลงโทษที่สูงกว่าโทษให้ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะหากผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ลงโทษให้ผู้ฟ้องคดีทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเมื่อลงโทษแล้วผู้ฟ้องคดียังคงมีสิทธิที่จะอยู่หอพักได้ต่อไป แต่การลงโทษให้ผู้ฟ้องคดีพันจากสถานภาพ

/การเป็น...