หน้า:รายงานการประชุม สร (๒๕๐๓-๐๘-๒๕).pdf/14

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๐๖๔

มาตรา ๑๔ ผู้รับการสงเคราะห์ผู้ใดหลบหนีไปจากสถานสงเคราะห์หรือสถานที่ซึ่งอธิบดีกำหนดให้ไปทำงานหรือประกอบอาชีพตามมาตรา ๑๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๕ อธิบดีมีอำนาจสั่งปล่อยตัวผู้รับการสงเคราะห์จากสถานสงเคราะห์หรือสถานที่ซึ่งอธิบดีกำหนดให้ไปทำงานหรือประกอบอาชีพก่อนเวลากำหนดตามมาตรา ๑๐ ได้ เมื่อปรากฏว่า ผู้รับการสงเคราะห์คนใดมีความประพฤติดี เป็นที่เชื่อได้ว่า จะกลับตัวไม่ทำการค้าประเวณี และมีผู้รับอุปการะหรือผู้มีหลักฐานควรเชื่อถือได้รับรองจะให้อาชีพที่มีรายได้พอสมควรแก่การเลี้ยงชีพ

มาตรา ๑๖ อำนาจและหน้าที่ซึ่งอธิบดีมีอยู่ตามพระราชบัญญัตินี้ อธิบดีอาจมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใดเป็นผู้ใช้อำนาจและปฏิบัติหน้าที่ในเขตจังหวัดนั้นได้

การมอบหมาย ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๑๗ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

พลเอก ประภาส จารุเสถียร (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย): รัฐบาลขอเสนอร่างพระราชบัญญัติปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. .... โดยหลักการที่จะยกเลิกกฎหมายว่าด้วยการป้องกันสัญจรโรค และให้มีกฎหมายว่าด้วยการค้าประเวณีขึ้นแทน ในเหตุผลโดยที่กฎหมายว่าด้วยการป้องกันสัญจรโรคเป็นกฎหมายที่ได้ประกาศใช้มาแต่ พ.ศ. ๒๔๕๑ มีบทบัญญัติไม่รัดกุม และไม่มีบทบัญญัติที่จะควบคุมมิให้มีการค้าประเวณีที่เป็นไปในลักษณะเป็นการเปิดเผย และน่าอับอาย ไม่สมควร หรือกระทำให้เป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชน กับทั้งไม่มีบทบัญญัติปรามการค้าประเวณีที่กระทำโดยบุคคลที่เป็นชาย ซึ่งเป็นที่น่ารังเกียจ จึงเป็นการสมควรที่จะได้ยกเลิกกฎหมายว่าด้วยการป้องกันสัญจรโรคนั้นเสีย และให้มีกฎหมายว่าด้วยการปรามการค้าประเวณีขึ้นใหม่ เพื่อควบคุมมิให้มีการกระทำอันไม่สมควรดังที่ได้กล่าวมานั้นให้หมดสิ้นไป

หลวงประกอบนิติสาร: เดิมทีข้าพเจ้าก็ไม่นึกอยากจะพูดหรอก ข้าพเจ้ามองอยู่ก็ไม่เห็นมีใครพูด ข้าพเจ้าก็มีเรื่องจะขอพูดสักเล็กน้อย ในการพูดนี้ ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือมีความรู้พิเศษเกี่ยว