หน้า:อธิบายเบ็ดเตล็ดฯ พงศาวดารฯ - ดำรง - ๒๔๖๙.pdf/49

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๙

ในเวลานั้นผู้คนพลเมืองก็เข้ารีตนับถือสาสนาอิสลามเสียแล้ว ข้างตอนกลางบางเมืองถือสาสนาอิสลาม แต่ที่ยังถือสาสนาพราหมณ์ก็ยังมีอยู่มาก แต่ตอนข้างใต้ยังถือสาสนาพราหมณ์ เมืองกาฬีกูฎที่วัสโคดาคามาแล่นเรือมาถึงเปนทีแรกตั้งอยู่ชายทเลข้างตวันตกในแหลมมละบาด เปนราชธานีของพระเจ้าแผ่นดินซึ่งถือสาสนาพราหมณ์ เรียกพระนามว่า พระเจ้าสมุทรินทร ส่วนการค้าขายตามหัวเมืองชายทเลในอินเดีย ไม่ว่าในเมืองที่ถือสาสนาอิสลามหรือถือสาสนาพราหมณ์ มีพวกพ่อค้าแขกอิสลามไปตั้งทำการค้าขายอยู่ช้านานแล้วทุกแห่ง วิธีค้าขายของพวกเหล่านี้ ไปทูลขออนุญาตต่อพระเจ้าแผ่นดินตั้งห้างตามเมืองท่ารับซื้อสินค้าในพื้นเมืองบันทุกเรือไปเที่ยวจำหน่ายตามนานาประเทศตลอดจนยุโรป แลรับสินค้าต่างประเทศมาจำหน่ายในพื้นเมือง ส่วนพระเจ้าแผ่นดินที่ปกครองบ้านเมืองตั้งแต่มีพวกอิสลามมาตั้งทำการค้าขายก็เกิดผลประโยชน์ทั้งในทางเก็บภาษีอากร แลตั้งคลังสินค้าซื้อขายสิ่งของบางอย่างเปนของหลวงได้กำไรอีกชั้น ๑ เมื่อว่าโดยย่อ ในเวลานั้นการค้าขายในระหว่างยุโรปกับประเทศทางตวันออก คืออินเดียเปนต้น อยู่ในมือของพวกพ่อค้าแขกอิสลามทุกอย่าง ไม่มีผู้ใดสามารถจะแย่งชิง เมื่อวัสโคดาคามาแล่นเรือมาถึงเมืองกาฬีกูฎ ให้ขึ้นไปทูลพระเจ้าสมุทรินทรว่าเปนราชทูตเชิญพระราชสาสนแลเครื่องราชบรรณาการมาจากพระเจ้ากรุงโปจุเกตให้มาเจริญทางพระราชไมตรี ขอไปค้าขายกับเมืองกาฬีกูฎ ฝ่ายพระเจ้าสมุทรินทรเคยได้ผลประโยชน์อยู่ใน