หน้า:อธิบายเบ็ดเตล็ดฯ พงศาวดารฯ - ดำรง - ๒๔๖๙.pdf/56

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๖

เปนที่ชุมนุมการค้าขายกับประเทศทางตวันออกขึ้นใหญ่โต จนเมืองฝรั่งแถวทเลเมดิเตอเรเนียนซึ่งเคยร่ำรวยด้วยการค้าขายกับประเทศทางตวันออกตามเส้นทางเปอเซียแลอียิปต์ถึงความอัตคัดขัดสนไปหลายเมือง เมื่อการค้าขายกับประเทศทางตวันออกเปลี่ยนไปเฟื่องฟูเปนตลาดใหญ่อยู่ที่เมืองโปจุเกตดังกล่าวมานี้ จึงมีชาวโปจุเกตเปนอันมากทเยอทยานอยากออกมาหาทรัพย์สมบัติทางตวันอออก พวกผู้ดีมีสกุลก็เข้าไปรับอาสาเปนนายทหารบ้าง ออกมาเปนผู้สอนสาสนาบ้าง ที่เปนฝรั่งเลวก็ไปอาสาเปนลูกเรือแลพลทหาร ด้วยความเข้าใจทั่วกันว่าเปนช่องทางที่จะปราบปรามพวกอิสลาม เอาทรัพย์สมบัติของพวกมิจฉาทิษฐิไปเปนอาณาประโยชน์ อย่างพวกอิสลามได้เคยทำแก่ปู่ย่าตายายของตนมาแต่ก่อน ไม่ถือว่าเปนบาปกรรมอันใด

เมื่อโปจุเกตไปมาหาที่มั่นได้ที่ชายทเลอินเดียแล้ว ได้ข่าวว่า ทางตวันออกต่อมามีเมืองมละกาเปนเมืองท่าสำคัญในทางรับส่งสินค้าระหว่างเมืองจีนกับอินเดีย แลมีสินค้าตามเมืองที่ใกล้เคียงซึ่งมาขายที่เมืองมละกามาก เมื่อปีมะโรง จุลศักราช ๘๗๐ พ.ศ. ๒๐๕๑ ตรงในแผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ พระเจ้ากรุงโปจุเกตจึงแต่งให้โลเปสเดอสิไคราคุมเรือกำปั่นรบ ๔ ลำเปนราชทูตมาเจริญทางพระราชไมตรีกับเจ้าเมืองมละกาซึ่งเปนแขกมลายูนับถือสาสนาอิสลามแล้วในเวลานั้น เจ้าเมืองมละกาก็รับรองสิไคราอย่างราชทูต แลยอมให้ที่ตั้งห้างตามประสงค์ แต่เมื่อพวกโปจุเกตขึ้นไปซื้อขายสินค้าที่ห้างตั้งใหม่ ไปเกิดวิวาทขึ้น