ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:อนุสัญญาเจนีวา (อทร.).pdf/45

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

วิทยุ และการสื่อสารอื่น ๆ ของเรือเหล่านี้ และรวมทั้งอาจจะกักเรือเหล่านี้ไว้ในระยะเวลาไม่เกินเจ็ดวัน นับแต่วันที่จับยึดเรือได้ก็ได้ ถ้าความร้ายแรงของพฤติการณ์บังคับให้ต้องกระทำเช่นนั้น

ภาคีคู่พิพาทอาจจะส่งเจ้าหน้าที่ไปอยู่ในเรือนั้นชั่วคราว โดยให้มีหน้าที่แต่เพียงที่จะดูแลให้ปฏิบัติตามคําสังซึ่งออกโดยอาศัยอํานาจตามความในวรรคก่อนนั้นก็ได้

ภาคีคู่พิพาทจะต้องจดบันทึกคําสังที่สั่งการแก่นายเรือไว้ในปูมของเรือพยาบาลในภาษาหนึ่งภาษาใดที่นายเรือจะเข้าใจได้เท่าที่จะกระทําได้

ไม่ว่าจะเป็นการกระทําฝ่ายเดียว หรือโดยมีข้อตกลงกันไว้เป็นพิเศษก็ตาม ภาคีคู่พิพาทอาจจะให้มีผู้สังเกตการณ์ที่เป็นกลางขึ้นมาประจำอยู่บนเรือของตนเพื่อตรรจสอบการปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งอนุสัญญานี้อย่างเคร่งครัดก็ได้

ข้อ ๓๒

เรือดังกล่าวไว้ในข้อ ๒๒, ๒๔, ๒๕ และ ๒๗ นั้น มิให้ถือว่าเป็นเรือรบในกรณีที่จอดอยู่ในท่าที่เป็นกลาง

ข้อ ๓๓

เรือพาณิชย์ซึ่งได้ทําการดัดแปลงเป็นเรือพยาบาลนั้น จะใช้เพื่อการอื่นไม่ได้ตลอดเวลาแห่งการสู้รบ

ข้อ ๓๔

ความคุ้มครองซึ่งเรือพยาบาลและห้องพยาบาลในเรือรบนั้นจะไม่ระงับไป เว้นแต่จะนำไปใช้นอกหน้าที่ทางมนุษยธรรม เพื่อกระทําการอันเป็นภยันตรายแก่ฝ่ายศัตรูซึ่งเป็นเหตุให้ความคุ้มครองระงับไปได้

อย่างไรก็ดีความคุ้มครองจะระงับได้ก็แต่เมื่อได้ให้คําเตือนตามสมควรแล้ว โดยในคำเตือนจะกำหนดให้แก้ไขการดําเนินการทั้งปวงเสียใหม่ให้ถูกต้องภายในระยะเวลาอันจํากัดตามสมควรและคำเตือนเช่นว่านั้นได้ถูกทอดทิ้งละเลยเสีย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือพยาบาลจะต้องไม่มีหรือใช้รหัสลับในการรับ-ส่งวิทยุหรือในการสื่อสารอื่น ๆ

ข้อ ๓๕

พฤติการณ์ต่อไปนี้จะไม่ถือเป็นเหตุให้เรือพยาบาลหรือห้องพยาบาลในเรือรบต้องเสียสิทธิแห่งความคุ้มครอง ซึ่งควรจะได้รับ คือ

ก. การที่ลูกเรือของเรือพยาบาลหรือห้องพยาบาลในเรือรบมีอาวุธเพื่อรักษาความเรียบร้อย เพื่อป้องกันตนเองหรือผู้ปวยไข้ และบาดเจ็บ

ข. การที่มีเครื่องมือสําหรับใช้โดยเฉพาะในการเดินเรือหรือการสื่อสารอยู่บนเรือ

ค. การที่พบอาวุธประจํากายและกระสุนวัตถุระเบิดบนเรือหรือห้องพยาบาลในเรือรบอันเป็นของที่ยืดมาจากผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ และเรือต้องอับปาง และยังมิได้ส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่

ง. การที่กิจการในด้านมนุษยธรรมของเรือพยาบาล และห้องพยาบาลในเรือรบ หรือของลูกเรือได้ขยายไปถึงการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บ ป่วยไข้ หรือเรือต้องอับปาง ที่เป็นพลเรือน

จ. การขนส่งบริภัณฑ์และพนักงานแพทย์ที่มีปริมาณบริภัณฑ์และจำนวนพนักงานมากเกินกว่าความต้องการตามปกติ