หน้า:เปิดกรุผีไทย (เหม เวชกร).pdf/94

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๐๔
 

"เอ๊ะ อะไรกันวะ?" แกถามอย่างหน้าตื่น และเสียงแกค่อนข้างดัง จนป้าปานกินหมากอยู่บนเรือนได้ยิน เลยลงมาถามเหตุการณ์ร่วมวงอีกคนหนึ่ง ผมกับบานเย็นได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้แกฟังจนตลอด สีหน้าลุงอ่ำที่ตื่นอยู่แล้วก็กลับตื่นขึ้นอีก ป้าปานถึงกับเคี้ยวหมากค้าง

"ไม่ได้การละโว้ย" ลุงอ่ำว่า "ไปหาพระเถอะเว้ย อาจารย์เป้าที่วัดนี่แหละ ท่านเข้าเรื่องนี้"

"ลุงจ๋า ลุงช่วยเป็นเพื่อนฉันด้วยนะ ฉันอยู่สองคนกับพี่ทิดโอไม่ไหวแล้ว ฉันไม่กล้าเข้าใกล้แม่ เวลานอนกลางคืน ฉันนอนทางหนึ่ง พี่ทิดเขานอนทางหนึ่งไกลกัน ฉันกลัวจ้ะ ลุงจ๋า เมตตาฉันด้วย"

ความจริงก็ถูกอย่างบานเย็นว่า ถ้ามันมีเรื่องอย่างนี้ก็น่ากลัว ครั้นจะนอนรวมกันก็ไม่ได้ ชาวบ้านจะนินทา เรายังไม่ได้ตบได้แต่ง มันก็จำเป็นต้องนอนกันคนละทางนั่นเอง อย่าว่าแต่บานเย็นกลัวเลย ผมเป็นชายอกสามศอกก็ชักขยาด ตอนเจ็บแรก ๆ ก็ไม่คิดกลัว แต่ครั้นมารู้เห็นว่า แกมิใช่คนเจ็บธรรมดา แกมีอะไรแอบแฝงอยู่ผิดไข้ธรรมดา ไม่ไหวเด็ด ถ้ากลางดึกแกลุกขึ้นรำอีก ผมต้องโดดแน่ ช่างน่าเกลียดอะไรอย่างนั้น ร่างที่ผอมแห้งทำท่าทำทางร่ายรำ ซึ่งมันผิดธรรมดาความจริงจะเป็นไป ทั้งกินของดิบ ขโมยกิน ลักกิน

"พ่ออ่ำเป็นเพื่อนมันด้วยซี" ป้าปานว่า "ใครจะไม่กลัวล่ะ ถ้าเป็นอย่างว่า"

"ไปก็ไป" ลุงอ่ำตอบรับช่วย "ว่าแต่ว่า เราจะทำกันอย่างไรน่ะซีหว่า ผีแอบกินอย่างนี้ ถ้าไม่จัดการ ก็บ้าตายเท่านั้น"

"เฮ้ย อีหนู เอ็งกับเจ้าโอไปหาอาจารย์เป้าที่วัด ไปเล่าเรื่องให้ฟัง ข้ากับตาอ่ำจะไปดูแม่เอ็งไว้"

ป้าปานออกคำสั่ง และรีบคว้ากระทายหมากพลู ลุงอ่ำหยิบกล่องยาใบจาก ผมกับบานเย็นนั่งยกมือไหว้โดยขอบพระคุณอย่างสูง

ค่ำนั้น พระอาจารย์เป้าได้มาทำพิธีปัดเป่าของท่าน คนเจ็บนอนแซ่ว