ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:เปิดกรุ (๒) - เหม เวชกร - ๒๕๓๘.pdf/7

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
14
 

ผมมองอาหารอย่างตื่น ๆ ของผมมีสองอย่าง สังเกตว่าเป็นเนื้อชิ้นใหญ่ๆ และผัดกับอะไรหลายอย่างจานหนึ่ง อีกจานหนึ่งนั้นเป็นหมูสับแล้วปั้นก้อนใหญ่ผัดรวมกับอะไรๆ มากอย่างเช่นกัน มีข้าวร้อนๆ มาหนึ่งจาน ส่วนของน้าเกียรตินั้นมีเนื้อก้อนใหญ่สี่เหลี่ยมวางอยู่บนใบผักกาดหอม น้าเกียรติเอามีดหั่นเนื้อนั้นกินกับเหล้า เขาเรียกว่าเหล้าฝรั่ง แล้วผสมน้ำโซดาผมเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกที่ว่ากินอาหารต้องมีมีดมาหั่นเอาเดี๋ยวนั้น เวลาจะกินอยู่บ้านไม่ว่าเนื้อไม่ว่าใครเขาจะหั่นมันแล้วทั้งนั้น อาหารของผมก็ต้องหั่นเหมือนกัน เพราะเนื้อชิ้นมันใหญ่ ส่วนเจ้าหมูสับก้อนใหญ่นั้นไม่ต้องหั่น พอเอาช้อนตักก็ยุ่ย ผมตักใส่ปากเข้าไปคำหนึ่ง รู้สึกว่ามันอร่อยดังอาหารสวรรค์ ชักกระดาก ผมเคยแต่น้ำพริกบ้านนา เนื้อเค็มแห้งผักบุ้ง

ผมตักกับตักข้าวเข้าปาก ตาก็มองลอกกระจกออกไปดูข้างนอกถนนดูคนแต่งตัวสวยๆ เดินบ้างขึ้นรถบ้าง น้าเกียรติยังไม่กินข้าว นั่งกินเหล้ากับแกล้ม เรื่องนี้ผมรู้ คนกินเหล้าเขาไม่ค่อยกินข้าว ทางบ้านผมคนกินเหล้าจะกินแต่กับเช่นยำเนื้อบ้าง แกงต้มยำบ้าง ปลาแห้งยำ กบยำ สุดแต่จะหาได้ถ้ามีอะไรเหมาะ บางทีก็มะขามเปียกจิ้มเกลือ ผมเห็นอาหารที่น้าเกียรติกินเล่นนั้น รู้สึกเสียดายว่าถ้าเป็นบ้านเรา อาหารจานเดียวนั้นก็จูงข้าวสารไปหลายจานทีเดียว แต่น้าเกียรติกินเล่นสบายไม่ห่วงข้าวเลย แกมองดูผมแล้วยิ้มอย่างกรุณาและขบขันที่เห็นผมตื่น ๆ ในอาหารที่ไม่เคยพบเคยเห็น

“กินให้สบาย เดี๋ยวจะสั่งให้อีก อร่อย ๆ ทั้งนั้น” น้าเกียรติพูด แล้วดื่มเหล้าอย่างสบายอารมณ์ ผมบอกกับแกว่าผมอิ่มแล้ว อย่าสั่งอะไรอีกเลยแกเลยสั่งของหวานคือไอศกรีม ซึ่งเป็นชนิดที่ผมไม่เคยกินอีกนั่นแหละเคยแต่ทางบ้านนอกเป็นอย่างเหลว ๆ ยางกรุงเทพฯแข็งข้นอร่อยกว่าหอมดี

กว่าน้าเกียรติจะอิ่มก็ค่ำมาก น้าเกียรติเรียกให้ผมหยิบของตามแกไปนอกร้าน ที่ริมถนนมีรถราวิ่งกันขวักไขว่ น้าเกียรติเรียกรถมาคันหนึ่ง