หน้า:Das Kapital Kritik der politischen Oekonomie Erster Band.djvu/42

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
——2——

เป็นกิจของประวัติศาสตร์[1] การค้นพบวิธีการชั่งตวงวัดทางสังคมสำหรับปริมาณของสิ่งที่มีประโยชน์เช่นเดียวกัน ความหลากหลายในวิธีการชั่งตวงวัดสินค้าส่วนหนึ่งเกิดจากความหลากหลายในธรรมชาติของวัตถุที่ต้องวัด ส่วนหนึ่งมาจากธรรมเนียม

ความมีประโยชน์ของสิ่งหนึ่งคือมูลค่าใช้สอยของสิ่งนั้น[2] ทว่าความมีประโยชน์นี้ไม่ได้ลอยอยู่กลางอากาศ แต่ขึ้นอยู่กับสมบัติทางกายของสินค้าและจะหมดไปหากไม่มี กายของสินค้าเองเช่นเหล็ก ข้าวสาลี เพชร ฯลฯ จึงเป็นมูลค่าใช้สอย คุณลักษณะนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแรงงานที่มนุษย์ต้องใช้ให้ได้สมบัติใช้สอยมาว่ามากน้อยเพียงใด ครั้นเราพิจารณาถึงมูลค่าใช้สอยให้สมมุติว่ามีปริมาณที่แน่นอนเท่าหนึ่งเสมอ เช่นนาฬิกาเป็นโหล ผ้าลินินเป็นหลา เหล็กเป็นตัน ฯลฯ มูลค่าใช้สอยของสินค้าเป็นเนื้อหาในสาขาวิชาของตัวเอง คือวิทยาการสินค้า[3][a] มูลค่าใช้สอยกลายเป็นจริงผ่านการใช้สอยหรืออุปโภคบริโภคเท่านั้น มูลค่าใช้สอยเป็นวัตถุที่ประกอบขึ้นเป็นความมั่งคั่ง ไม่ว่าจะมีรูปทางสังคมแบบใด ในรูปแบบของสังคมที่เรากำลังจะพิจารณา ยังเป็นวัตถุที่เป็นพาหะให้กับ —— มูลค่าแลกเปลี่ยน

ประการแรก มูลค่าแลกเปลี่ยนปรากฏเป็นความสัมพันธ์เชิงปริมาณ หรืออัตราส่วน ของการแลกเปลี่ยนมูลค่าใช้สอยชนิดหนึ่งกับมูลค่าใช้สอยอีกชนิดหนึ่ง[4] อัตราส่วนซึ่งแปรเปลี่ยนตามกาลเทศะอย่างสม่ำเสมอ มูลค่าแลกเปลี่ยนจึงดูเหมือนเป็นสิ่งบังเอิญและสัมพัทธ์โดยสิ้นเชิง มูลค่าแลกเปลี่ยนซึ่งอยู่

  1. „สิ่งต่าง ๆ มีเวอร์ชูภายใน (นี่เป็นคำเฉพาะของบาร์บอนที่หมายถึงมูลค่าใช้สอย) ไม่ว่าอยู่แห่งใดก็มีเวอร์ชูเหมือนเดิม เช่นแม่เหล็กดึงดูดเหล็ก“ (เล่มเดิม หน้า 6) กว่าสมบัติดูดเหล็กของแม่เหล็กจะมีประโยชน์ก็เพียงเมื่อมีการค้นพบขั้วแม่เหล็กผ่านสมบัตินั้นเอง
  2. „เวิร์ธตามธรรมชาติของสิ่งใดนั้นกอปรด้วยสมรรถภาพของมันในการสนองความจำเป็นหรืออำนวยความสะดวกให้ชีวิตมนุษย์“ (จอห์น ล็อก: „Some Considerations on the Consequences of the Lowering of Interest, 1691“ ใน „Works edit. Lond. 1777“ V. II. หน้า 28.) เรามักจะยังพบคำว่า „เวิร์ธ“ สำหรับมูลค่าใช้สอยและ „แวลู“ สำหรับมูลค่าแลกเปลี่ยนในงานเขียนอังกฤษจากศตวรรษที่ 17 ตรงตามเจตนารมณ์ของภาษาที่ชอบแสดงออกถึงสิ่งที่อยู่ต่อหน้าด้วยคำเจอร์แมนิกและสิ่งที่ถูกสะท้อนด้วยคำโรมานซ์ทีเดียว
  3. ในสังคมกระฎุมพี มีนิติสมมติอยู่ว่าผู้ซื้อสินค้าทุกคนมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าเยี่ยงสารานุกรม
  4. „มูลค่าดำรงอยู่ในอัตราแลกเปลี่ยนที่พบระหว่างสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหนึ่ง ระหว่างผลผลิตอย่างหนึ่งปริมาณเท่าหนึ่งกับอีกอย่างหนึ่งอีกเท่าหนึ่ง“ (เลอ โทรน: „De l'Intérêt Social“. Physiocrates, บ.ก. แดร์. ปารีส 1846. หน้า 889.)

  1. Warenkunde หรือ commodity science ในภาษาอังกฤษ แปลตามคำว่าวิทยาการข้อมูล วิทยาการจัดการ ฯลฯ (เชิงอรรถของวิกิซอร์ซ)