หน้า:Das Kapital Kritik der politischen Oekonomie Erster Band.djvu/44

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
——4——

คือคุณลักษณะประจักษ์ชัดในความสัมพันธ์ของการแลกเปลี่ยนระหว่างสินค้า ซึ่งจะใช้มูลค่าใช้สอยใดก็ได้ต่อเมื่ออยู่ในอัตราส่วนที่ถูกต้อง หรือตามที่เฒ่าบาร์บอนกล่าว: „สินค้าชนิดหนึ่งดีพอ ๆ กับชนิดอื่น หากมีมูลค่าแลกเปลี่ยนเท่ากัน ไม่มีความแตกต่างหรือการแบ่งแยกระหว่างสิ่งที่มีมูลค่าแลกเปลี่ยนเท่ากัน“[1] ในฐานะมูลค่าใช้สอย เหนือสิ่งอื่นใด สินค้าแตกต่างกันในเชิงคุณภาพ ในฐานะมูลค่าแลกเปลี่ยน มีความแตกต่างกันในเชิงปริมาณเท่านั้น จึงไม่มีมูลค่าใช้สอยอยู่ด้วยแม้อะตอมเดียว

เมื่อเราเพิกเฉยต่อมูลค่าใช้สอยของกายสินค้า ก็เหลือแค่สมบัติเดียวคือการเป็นผลผลิตของแรงงาน อย่างไรก็ดี ผลผลิตแรงงานในมือของเราได้เปลี่ยนสัณฐานไปแล้ว ถ้าเราเพิกจากมูลค่าใช้สอย เราเพิกจากส่วนประกอบและรูปทางกายที่ทำให้มันเป็นมูลค่าใช้สอยเช่นเดียวกัน ไม่ใช่โต๊ะ หรือบ้าน หรือด้าย หรือสิ่งที่มีประโยชน์ใด ๆ อีกต่อไป โลกิยสังขารทั้งสิ้นดับสลาย ไม่ได้เป็นผลผลิตของแรงงานช่างไม้ แรงงานก่อสร้าง แรงงานทอผ้า หรือแรงงานการผลิตชนิดใดชนิดหนึ่งอีกต่อไป คุณลักษณะอันมีประโยชน์ของผลผลิตแรงงานหายไปพร้อม ๆ กับคุณลักษณะอันมีประโยชน์ของแรงงานซึ่งแสดงออกมาในสิ่งเหล่านั้น รูปแบบของแรงงานที่แตกต่างกันในเชิงรูปธรรมเหล่านี้จึงหายไปด้วย ไม่แยกแยะกันอีกต่อไป แต่ทั้งหมดทั้งมวลลดทอนเป็นแรงงานมนุษย์ที่เท่ากัน แรงงานมนุษย์นามธรรม

คราวนี้เราพิจารณาเศษตกค้างของผลผลิตแรงงาน ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่แล้วเสียแต่วัตถุภาวะคล้ายผี เพียงวุ้นของแรงงานมนุษย์ที่ไม่แตกต่างกัน กล่าวคือการใช้จ่ายพลังแรงงานของมนุษย์โดยไม่คำนึงถึงรูปแบบที่ใช้จ่ายไป สิ่งเหล่านี้แสดงถึงการใช้จ่ายของพลังแรงงานมนุษย์หรือการจับตัวกันของแรงงานมนุษย์แค่นั้น ในฐานะผลึกของแก่นสารทางสังคมที่มีร่วมกัน มันคือมูลค่า —— มูลค่าสินค้า

ในความสัมพันธ์แลกเปลี่ยนระหว่างสินค้าเอง มูลค่าแลกเปลี่ยนปรากฏต่อเราเหมือนบางสิ่งซึ่งเป็นอิสระจากมูลค่าใช้สอยเสียทีเดียว 

  1. „สินค้าชนิดหนึ่งดีพอ ๆ กับชนิดอื่น หากมีคุณค่าเท่ากัน ไม่มีความแตกต่างหรือการแบ่งแยกระหว่างสิ่งที่มีคุณค่าเท่ากัน … ดีบุกหรือเหล็กราคาหนึ่งร้อยปอนด์มีคุณค่ามากพอ ๆ กับเงินและทองคำราคาหนึ่งร้อยปอนด์“ (นิโคลัส บาร์บอน เล่มเดิม หน้า 58 และ 7.)