ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:Karl Marx - Wage Labor and Capital - tr. Harriet E. Lothrop (1902).djvu/75

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
9
บทนำ

ประมาณสิบห้าปีที่แล้ว ผมนั่งรถไฟพร้อมกับพ่อค้าชาวเมืองกลาสโกว์ผู้หลักแหลมท่านหนึ่ง เขาน่าจะสนใจเรื่องการค้าเหล็ก พอคุยถึงเรื่องอเมริกา เขาเริ่มชโลมผมด้วยภาษิตการค้าเสรีที่ชินหู: “ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมประเทศที่เต็มไปด้วยนักธุรกิจหัวไวอย่างอเมริกาจะต้องส่งบรรณาการให้โรงหลอมโรงตีเหล็กในประเทศด้วย ในเมื่อของแบบเดียวกัน หรือดีกว่าด้วยซ้ำ ถ้าซื้อจากประเทศเราจะถูกกว่าอีก?” แล้วเขายกตัวอย่างมาว่าชาวอเมริกันเก็บภาษีตัวเองตั้งเท่าไหร่เพื่อให้เจ้าของโรงหลอมโลภมากไม่กี่คนร่ำรวย “ก็นะ” ผมตอบไป “ผมคิดว่าคำถามนี้มีอีกด้าน ท่านรู้หรือเปล่าว่าจะเป็นถ่านหิน พลังน้ำ เหล็ก สินแร่ อาหารไม่แพง ฝ้ายพันธุ์พื้นถิ่น หรือวัตถุดิบใด ๆ อเมริกามีทั้งทรัพยากรและข้อได้เปรียบที่ประเทศยุโรปไหนก็เทียบไม่ติด ทรัพยากรพวกนี้พัฒนาได้ไม่สุดหรอกครับ ถ้าอเมริกาไม่กลายเป็นประเทศอุตสาหกรรม ท่านต้องยอมรับ ทุกวันนี้ ประเทศใหญ่อย่างอเมริกาอยู่ไม่ได้ด้วยการเกษตรอย่างเดียว อย่างนั้นไม่ต่างจากต้องคำสาปให้ป่าเถื่อนและด้อยพัฒนาตลอดไป ยุคนี้ไม่มีประเทศไหนอยู่ได้หรอกครับ ถ้าไม่มีอุตสาหกรรมของตัวเอง แล้วถ้าอเมริกาต้องเป็นประเทศอุตสาหกรรม และถ้าจะมีโอกาสทัดเทียมหรือแม้แต่แซงหน้าคู่แข่ง ก็มีทางเลือกอยู่สองทาง: จะทำการค้าเสรีต่อไปอีก สมมุติว่าห้าสิบปี แล้วทำสงครามแข่งขันกับอุตสาหกรรมอังกฤษที่เกิดมาก่อนเกือบร้อยปี ซึ่งจะสิ้นเปลืองมาก หรือว่าจะปิดกั้นอุตสาหกรรมอังกฤษด้วยกำแพงภาษี สมมุติว่ายี่สิบห้าปี แล้วพอถึงตอนจบ ซึ่งแน่นอนแทบถึงที่สุด จะสามารถรักษาที่ทางของตนในตลาดเปิดโลกได้ ทางไหนถูกและสั้นที่สุดล่ะครับ? นั่นคือคำถาม