ข้ามไปเนื้อหา

หน้า:Phlae Kao 2479.djvu/42

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

เธอมองดูหน้าขวัญอย่างสุดสงสารในความโง่เขลา บาปกรรมสิ่งไรหรือจึงทำให้ขวัญจมอยู่ในเวิ้งนาหมู่ไม้และลำน้ำจนยากที่จะช่วยให้เขาฉลาดไปกว่านี้ได้

"คงไม่เปนผลหรอกจ้ะ นายขวัญ ไม่เปนผลหรอก เพราะพ่อได้ขายฉันขาดให้แก่เขาแล้ว และฉันก็สุขสบายดี"

เจ้าขวัญจ้องตลึงพรึงเพริด ปากอ้าตาเบิ่งด้วยคำบอกเล่าของเรียมว่าเจ้าอยู่เปนสุขสบายดี

มันเรียกชื่อเธอดัง น้ำเสียงสั่น ๆ

"เรียมอะไรกันนี่ เจ้าบอกพี่ว่าบางกอกที่เจ้าอยู่เปนสุขสบายดีงั้นหรือ พี่ไม่รู้เลยว่าบางกอกเปลี่ยนเจ้าให้เปนอื่นไป" มันลดตาลงจับแหวนเพ็ชร์ที่นิ้วของเจ้าเรียม สร้อยคอซึ่งวาววามไปเพราะจี้เพ็ชร์ ข้อมือซ้ายซึ่งมันเคยจูงมีนาฬิกาเรือนเล็ก ๆ เปนทอง แล้วเจ้าขวัญก็สำนึกตัวหน้าสลด ความเข้าใจอีกอย่างหนึ่งก็เกิดขึ้นมาให้มันตั้งปัญหาถามเจ้าเรียม

"ผู้ชายบางกอกที่มาด้วยเจ้าในเรือไฟนั่นเขาเปนญาติกะเจ้าข้างไหน พ่อเรืองก็มีลูกผู้ชายแต่อ้ายเริญกับเจ้ารอดสองคนเท่านั้นที่พี่รู้จัก"

"เพื่อนฉันเอง แต่คนถือท้ายนั่นเปนหลานของแม่นาย และเปนลูกพระยา" เธอตอบเพื่อให้นายขวัญเห็นว่าเธอมีหน้ามีตายิ่งขึ้นกว่าเก่าก่อนมาก

"เพื่อน เจ้าคบเพื่อนผู้ชายด้วยหรือเรียม"

เรียมออกนึกเคืองในความโง่ของเจ้าลูกทุ่ง เปนครั้งแรกที่เรียมนึกเคืองเจ้าขวัญเสียจริง ๆ

"นายขวัญไม่เข้าใจสมัยเขาหรอก ในพระนครน่ะ ของเหล่านี้เปนธรรมดาไม่แปลกเหมือนบ้านเรา"

แม้ธรรมชาติของบางกะปิจะสร้างขวัญมาให้เปนคนโง่ แต่ธรรมชาติไหวพริบในตัวผู้ชายของเจ้าขวัญก็มีอยู่ มันจับตาดูเรียมแล้วก็ก้มดูตัวมันเอง มันรู้แล้วว่าเจ้าเรียมกำลังแปรไปเปนอื่นเพราะบางกอกเมืองใกล้นี่เอง มันคิดว่ามันมีกรรมหนาเสียแล้วที่เกิดในบางกะปิ เออแต่ก่อนบางกะ

๓๙