พระธรรมเลวีนิติ/4

จาก วิกิซอร์ซ
แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)
แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)
บทที่: 1· 2· 3· 4· 5· 6· 7· 8· 9· 10·
11· 12· 13· 14· 15· 16· 17· 18· 19· 20·
21· 22· 23· 24· 25· 26· 27·

21[แก้ไข]

การประพฤติและคุณสมบัติของปุโรหิต
  • 21:1 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงพูดกับพวกปุโรหิต คือบุตรชายทั้งหลายของอาโรน และกล่าวแก่พวกเขาว่า อย่าให้ผู้ใดกระทำตัวให้เป็นมลทินด้วยเรื่องศพในท่ามกลางประชากรของเขา
  • 21:2 เว้นแต่สำหรับญาติของเขาที่สนิทกันกับเขาคือ บิดา มารดา บุตรชายกับบุตรสาว และพี่ชายหรือน้องชายของเขา
  • 21:3 และสำหรับพี่สาวหรือน้องสาวของเขาที่เป็นพรหมจารี ผู้ที่ยังสนิทกับเขา ซึ่งยังไม่มีสามี เขากระทำตัวให้เป็นมลทินสำหรับนางได้
  • 21:4 แต่อย่าให้เขากระทำตัวให้เป็นมลทิน คือกระทำให้ตนเองเป็นมลทิน เพราะเหตุเขาเป็นผู้ใหญ่ในท่ามกลางชนชาติของเขา
  • 21:5 จงห้ามไม่ให้เขาทั้งหลายโกนศีรษะของพวกเขา ทั้งอย่าให้เขาทั้งหลายโกนมุมเคราของพวกเขา หรือกรีดเนื้อของพวกเขาเอง
  • 21:6 เขาทั้งหลายจะต้องเป็นคนบริสุทธิ์แด่พระเจ้าของตน และไม่กระทำให้พระนามของพระเจ้าของพวกเขาเป็นที่เหยียดหยาม เพราะเขาทั้งหลายถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระเยโฮวาห์ และมังสาหารของพระเจ้าของเขาทั้งหลาย เพราะฉะนั้นเขาทั้งหลายจะต้องบริสุทธิ์
  • 21:7 อย่าให้เขาทั้งหลายแต่งงานกับหญิงโสเภณีหรือหญิงที่เป็นมลทิน ทั้งอย่าแต่งงานกับหญิงที่หย่าจากสามีของนาง เพราะเขาจะต้องบริสุทธิ์แด่พระเจ้าของเขา
  • 21:8 ฉะนั้นเจ้าจงชำระเขาให้บริสุทธิ์ เพราะเขาถวายมังสาหารของพระเจ้าของเจ้า เขาจะต้องบริสุทธิ์สำหรับเจ้า เพราะเราคือพระเยโฮวาห์ผู้ชำระเจ้าทั้งหลายให้บริสุทธิ์ เป็นผู้บริสุทธิ์
  • 21:9 และบุตรสาวของปุโรหิตคนหนึ่งคนใด ถ้านางกระทำตัวให้เป็นมลทินโดยไปเป็นหญิงโสเภณี นางก็กระทำให้บิดาของนางเป็นมลทิน จะต้องเผานางเสียด้วยไฟ
  • 21:10 และผู้ที่เป็นมหาปุโรหิตในท่ามกลางพวกพี่น้องของเขา ผู้ถูกเจิมศีรษะด้วยน้ำมัน และผู้ที่ได้รับการถวายตัวไว้ที่จะสวมเครื่องยศต่าง ๆ อย่าปล่อยผมบนศีรษะของเขา หรือฉีกเสื้อผ้าของเขา
  • 21:11 แล้วอย่าให้เขาเข้าไปถูกต้องศพใด ๆ หรือกระทำตัวให้เป็นมลทิน แม้ว่าเป็นบิดาหรือมารดาของเขา
  • 21:12 แล้วอย่าให้เขาออกไปจากสถานบริสุทธิ์ หรือกระทำสถานบริสุทธิ์ของพระเจ้าของเขาให้เป็นมลทิน เพราะว่ามงกุฎแห่งน้ำมันเจิมของพระเจ้าของเขาอยู่บนตัวเขา เราคือพระเยโฮวาห์
  • 21:13 และเขาจะต้องมีภรรยาที่เป็นหญิงพรหมจารี
  • 21:14 อย่าให้เขาแต่งงานกับหญิงม่าย หญิงที่หย่าร้าง หญิงที่เป็นมลทิน หรือหญิงโสเภณี แต่เขาจะต้องรับเอาหญิงพรหมจารีในชนชาติของเขามาเป็นภรรยา
  • 21:15 ทั้งอย่าให้เขากระทำให้เชื้อสายของเขาในท่ามกลางชนชาติของเขาเป็นมลทิน เพราะเราคือพระเยโฮวาห์ผู้ชำระเขาให้บริสุทธิ์”
  • 21:16 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 21:17 “จงพูดกับอาโรนว่า ผู้ใดก็ตามในเชื้อสายของเจ้าตลอดชั่วอายุของพวกเขาที่มีตำหนิใด ๆ อย่าให้ผู้นั้นเข้าไปถวายมังสาหารของพระเจ้าของเขา
  • 21:18 เพราะว่าชายคนใดก็ตามที่มีตำหนิ เขาจะเข้าใกล้ไม่ได้ คือคนตาบอดหรือเป็นคนพิการ หรือคนที่มีจมูกบี้แบน หรือมีอวัยวะใด ๆ ที่เกินออกไป
  • 21:19 หรือคนที่มีเท้าพิการหรือมือพิการ
  • 21:20 หรือคนหลังค่อม คนแคระ คนที่ดวงตามีตำหนิ คนที่เป็นกลากเกลื้อนหรือหิด หรือคนมีลูกอัณฑะฝ่อ
  • 21:21 ชายคนใดในเชื้อสายของอาโรนผู้เป็นปุโรหิตที่มีตำหนิ อย่าให้เข้ามาถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระเยโฮวาห์ เขาเป็นคนมีตำหนิ อย่าให้เขาเข้ามาใกล้ถวายมังสาหารของพระเจ้าของเขา
  • 21:22 เขาจะรับประทานมังสาหารของพระเจ้าของเขา ทั้งของที่บริสุทธิ์ที่สุด และของบริสุทธิ์
  • 21:23 อย่าให้เขาเข้ามาภายในม่านหรือเข้าใกล้แท่นบูชาเท่านั้น เพราะเขาเป็นคนมีตำหนิ เพื่อเขาจะไม่กระทำให้สถานบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทิน เพราะเราคือพระเยโฮวาห์ผู้ชำระสิ่งเหล่านั้นให้บริสุทธิ์”
  • 21:24 และโมเสสได้บอกอาโรนและบุตรชายทั้งหลายของเขาและบรรดาชนชาติอิสราเอลดังนั้น

22[แก้ไข]

กฎเกณฑ์สำหรับปุโรหิตและครอบครัว
  • 22:1 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 22:2 “จงพูดกับอาโรนและบุตรชายทั้งหลายของเขา ให้พวกเขาแยกออกจากของบริสุทธิ์ทั้งปวงของชนชาติอิสราเอล และอย่าให้เขาทั้งหลายลบหลู่นามบริสุทธิ์ของเราด้วยสิ่งทั้งหลายที่พวกเขาถวายแก่เรา เราคือพระเยโฮวาห์
  • 22:3 จงพูดกับเขาทั้งหลายว่า ‘คนใดก็ตามในบรรดาเชื้อสายของเจ้าทั้งหลายตลอดชั่วอายุของพวกเจ้า ที่เข้าใกล้ของบริสุทธิ์ทั้งปวง ซึ่งชนชาติอิสราเอลถวายแด่พระเยโฮวาห์ ขณะที่เขาเป็นมลทินอยู่ คนนั้นจะต้องถูกตัดขาดให้พ้นหน้าเรา เราคือพระเยโฮวาห์
  • 22:4 ชายคนใดก็ตามในเชื้อสายของอาโรนที่เป็นโรคเรื้อนหรือมีสิ่งไหลออกมา อย่าให้เขารับประทานของบริสุทธิ์ทั้งปวง จนกว่าเขาสะอาดแล้ว และผู้ใดก็ตามแตะต้องสิ่งใด ๆ ที่เป็นมลทินโดยแตะต้องซากศพหรือแตะต้องชายคนใดที่มีน้ำกามไหลออกจากเขา
  • 22:5 หรือผู้ใดก็ตามที่แตะต้องสัตว์เลื้อยคลานใด ๆ ซึ่งทำให้เขาเป็นมลทิน หรือแตะต้องคนใด ๆ ซึ่งอาจทำให้เขาเป็นมลทิน ไม่ว่าจะเป็นมลทินชนิดใดของเขา
  • 22:6 ผู้ใดแตะต้องสิ่งใด ๆ เหล่านี้ จะต้องเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น และจะรับประทานของบริสุทธิ์ไม่ได้ นอกจากเขาชำระตัวด้วยน้ำเสียก่อน
  • 22:7 และเมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว เขาก็จะสะอาด และภายหลังเขาจะรับประทานของบริสุทธิ์ได้ เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นอาหารของเขา
  • 22:8 สัตว์ใดที่ตายเอง หรือที่ถูกสัตว์อื่นกัดตาย อย่าให้เขารับประทานเพราะจะทำให้เขาเป็นมลทินด้วยสิ่งเหล่านี้ เราคือพระเยโฮวาห์’
  • 22:9 เพราะฉะนั้น เขาทั้งหลายต้องรักษากฎของเรา เกรงว่าพวกเขาจะต้องรับโทษบาปเพราะสิ่งนั้น และจะต้องตายเพราะเหตุนั้น ถ้าหากเขาทั้งหลายกระทำให้สิ่งนั้นเป็นมลทิน เราคือพระเยโฮวาห์ผู้ชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์
  • 22:10 อย่าให้คนภายนอกรับประทานของบริสุทธิ์ ผู้ที่มาอาศัยอยู่กับปุโรหิตหรือลูกจ้าง อย่าให้รับประทานของบริสุทธิ์นั้น
  • 22:11 แต่ถ้าปุโรหิตซื้อทาสคนใดมาด้วยเงินของตนเอง ทาสคนนั้นจะรับประทานของบริสุทธิ์นั้นได้ และผู้ที่เกิดในครัวเรือนของปุโรหิต พวกเขาจะรับประทานอาหารของเขาได้
  • 22:12 เช่นเดียวกันถ้าบุตรสาวของปุโรหิตไปแต่งงานกับคนภายนอก นางไม่อาจรับประทานของถวายแห่งของบริสุทธิ์ทั้งปวงได้
  • 22:13 แต่ถ้าบุตรสาวของปุโรหิตเป็นหญิงม่ายหรือหญิงที่หย่าร้างและไม่มีบุตร และกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านของบิดาอย่างเมื่อนางยังสาวอยู่ นางจะรับประทานอาหารของบิดาได้ แต่คนภายนอกจะรับประทานไม่ได้
  • 22:14 และถ้าชายคนใดรับประทานของบริสุทธิ์โดยไม่ได้เจตนา ดังนั้นเขาจะต้องเพิ่มค่าของนั้นหนึ่งในห้า และจงมอบให้แก่ปุโรหิตพร้อมกับของบริสุทธิ์นั้น
  • 22:15 และอย่าให้เขาทั้งหลายกระทำของบริสุทธิ์ทั้งปวงของชนชาติอิสราเอล ที่พวกเขานำมาถวายแด่พระเยโฮวาห์ ให้เป็นมลทิน
  • 22:16 หรือกระทำให้พวกเขาต้องรับโทษความชั่วช้าแห่งการละเมิด เมื่อเขาทั้งหลายรับประทานของบริสุทธิ์ทั้งปวงของพวกเขา เพราะเราคือพระเยโฮวาห์ผู้ชำระเขาทั้งหลายให้บริสุทธิ์”
เครื่องบูชาให้ปราศจากตำหนิ
  • 22:17 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 22:18 “จงพูดกับอาโรนและบุตรชายทั้งหลายของเขาและชนชาติอิสราเอลทั้งหมด และกล่าวแก่พวกเขาว่า ผู้ใดก็ตามในวงศ์วานของอิสราเอลหรือคนต่างชาติในอิสราเอล ที่จะถวายเครื่องบูชาของเขาสำหรับบรรดาคำปฏิญาณของเขา และสำหรับบรรดาเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจของเขา ซึ่งพวกเขาจะถวายแด่พระเยโฮวาห์เป็นเครื่องเผาบูชา
  • 22:19 เจ้าทั้งหลายจงถวายด้วยความเต็มใจของตน คือสัตว์ตัวผู้ปราศจากตำหนิ จากฝูงวัว หรือฝูงแกะ หรือฝูงแพะ
  • 22:20 แต่สัตว์ใดก็ตามที่มีตำหนิ เจ้าทั้งหลายอย่าถวายเลย เพราะจะไม่เป็นที่พอพระทัยสำหรับพวกเจ้า
  • 22:21 และผู้ใดก็ตามถวายเครื่องสันติบูชาแด่พระเยโฮวาห์ เพื่อให้คำปฏิญาณของเขาสำเร็จหรือเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจ เป็นสัตว์จากฝูงวัว หรือฝูงแกะ สัตว์นั้นต้องไม่มีตำหนิจึงจะเป็นที่พอพระทัย อย่าให้มีตำหนิในสัตว์นั้นเลย
  • 22:22 สัตว์ที่ตาบอดหรือพิการ หรือมีแผล หรือมีสิ่งไหลออก หรือเป็นกลากเกลื้อน หรือเป็นหิด เจ้าทั้งหลายอย่านำสัตว์เหล่านั้นมาถวายแด่พระเยโฮวาห์ หรืออย่านำมาเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟบนแท่นบูชาถวายแด่พระเยโฮวาห์
  • 22:23 เช่นเดียวกันวัวหนุ่มหรือลูกแกะที่มีอวัยวะใด ๆ ที่เกินออกไปหรือมีอวัยวะใด ๆ ที่ขาดไป เจ้านำมาถวายเป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจได้ แต่เครื่องบูชาสำหรับคำปฏิญาณก็จะไม่เป็นที่พอพระทัย
  • 22:24 สัตว์ตัวใดที่มีรอยช้ำหรือถูกทุบหรือฉีกขาดหรือมีรอยตัด เจ้าทั้งหลายอย่านำมาถวายแด่พระเยโฮวาห์ ทั้งอย่าให้สัตว์เหล่านี้เป็นเครื่องบูชาใด ๆ ในแผ่นดินของพวกเจ้า
  • 22:25 เจ้าทั้งหลายอย่านำสัตว์ซึ่งได้มาจากคนต่างชาติถวายเป็นมังสาหารของพระเจ้าของพวกเจ้า เพราะสัตว์นั้นพิการและมีตำหนิในตัว สัตว์เหล่านั้นจะไม่เป็นที่พอพระทัยสำหรับพวกเจ้า”
  • 22:26 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 22:27 “เมื่อวัวหนุ่มหรือแกะหรือแพะเกิดมา ดังนั้นจงให้มันอยู่กับแม่เจ็ดวัน และตั้งแต่วันที่แปดเป็นต้นไป จะใช้เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระเยโฮวาห์ก็จะเป็นที่พอพระทัย
  • 22:28 และแม้ว่าแม่สัตว์นั้นจะเป็นวัวหรือแกะก็ดี พวกเจ้าอย่าฆ่ามันพร้อมกับลูกของมันในวันเดียวกัน
  • 22:29 และเมื่อเจ้าทั้งหลายจะถวายเครื่องสัตวบูชาเป็นเครื่องบูชาแห่งการขอบพระคุณแด่พระเยโฮวาห์ พวกเจ้าจงถวายเครื่องสัตวบูชานั้นด้วยความเต็มใจ
  • 22:30 จงรับประทานเครื่องบูชานั้นในวันเดียวกันที่ได้ถวายเครื่องบูชานั้น เจ้าทั้งหลายอย่าเหลือไว้จนรุ่งเช้าเลย เราคือพระเยโฮวาห์
  • 22:31 เพราะฉะนั้น เจ้าทั้งหลายจงรักษาบทบัญญัติทั้งสิ้นของเราและกระทำตาม เราคือพระเยโฮวาห์
  • 22:32 ทั้งเจ้าทั้งหลายอย่าลบหลู่นามบริสุทธิ์ของเรา แต่จงถือว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์ในท่ามกลางชนชาติอิสราเอล เราคือพระเยโฮวาห์ผู้ชำระพวกเจ้าให้บริสุทธิ์

22:33 ผู้นำเจ้าทั้งหลายออกจากแผ่นดินแห่งอียิปต์ เพื่อเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า เราคือพระเยโฮวาห์”

23[แก้ไข]

วันสะบาโต
  • 23:1 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 23:2 “จงพูดกับชนชาติอิสราเอลและกล่าวแก่พวกเขาว่า เกี่ยวกับเทศกาลเลี้ยงตามกำหนดของพระเยโฮวาห์ ซึ่งเจ้าทั้งหลายจะต้องประกาศว่าเป็นการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ คือเทศกาลเลี้ยงตามกำหนดของเรานั้นมีดังนี้
  • 23:3 จงทำงานในกำหนดหกวัน แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโตแห่งการพักสงบ เป็นการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ เจ้าทั้งหลายอย่าทำการงานใด ๆ ในวันนั้น วันนั้นเป็นสะบาโตของพระเยโฮวาห์ในที่อยู่อาศัยทั้งหลายของพวกเจ้า
เทศกาลปัสกาและเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ
  • 23:4 นี่เป็นเทศกาลเลี้ยงตามกำหนดของพระเยโฮวาห์ เป็นการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเจ้าทั้งหลายจะต้องประกาศตามเวลากำหนดของเทศกาลเลี้ยงเหล่านั้น
  • 23:5 ในเวลาเย็น วันที่สิบสี่ของเดือนแรกเป็นปัสกาของพระเยโฮวาห์
  • 23:6 และในวันที่สิบห้าเดือนเดียวกัน เป็นเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อถวายแด่พระเยโฮวาห์ เจ้าทั้งหลายจะต้องรับประทานขนมปังไร้เชื้อเป็นเวลาเจ็ดวัน
  • 23:7 ในวันแรกเจ้าทั้งหลายจงมีการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ ในวันนั้นพวกเจ้าอย่าทำงานหนักใด ๆ
  • 23:8 แต่เจ้าทั้งหลายจงถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระเยโฮวาห์ให้ครบเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดเป็นการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ ในวันนั้นพวกเจ้าอย่าทำงานหนักใด ๆ”
การถวายผลแรก
  • 23:9 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 23:10 “จงพูดกับชนชาติอิสราเอลและกล่าวแก่พวกเขาว่า เมื่อเจ้าทั้งหลายเข้ามาในแผ่นดินซึ่งเราให้แก่พวกเจ้า และจงเก็บเกี่ยวพืชผลของแผ่นดินนั้น ดังนั้น เจ้าทั้งหลายจงนำเอาฟ่อนข้าวที่เกี่ยวในผลิตผลรุ่นแรกของพวกเจ้าไปให้ปุโรหิต
  • 23:11 และเขาจะเอาฟ่อนข้าวนั้นโบกพัดไปมาถวายต่อพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์ เพื่อจะเป็นที่พอพระทัยสำหรับพวกเจ้า วันรุ่งขึ้นหลังจากวันสะบาโตปุโรหิตจะเอาฟ่อนข้าวนั้นโบกพัดไปมา
  • 23:12 และในวันที่เจ้าทั้งหลายเอาฟ่อนข้าวโบกพัดไปมานั้น พวกเจ้าจงถวายลูกแกะตัวผู้อายุไม่เกินหนึ่งปีปราศจากตำหนิ เป็นเครื่องเผาบูชาถวายแด่พระเยโฮวาห์
  • 23:13 และเครื่องธัญญบูชาที่ถวายคู่กันนั้น จะต้องเป็นแป้งละเอียดสองในสิบเอฟาห์คลุกด้วยน้ำมัน เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระเยโฮวาห์เป็นกลิ่นหอมที่พอพระทัย และเครื่องดื่มบูชาที่ถวายคู่กันจงเป็นน้ำองุ่นหนึ่งในสี่ฮิน
  • 23:14 และเจ้าทั้งหลายอย่ารับประทานขนมปัง หรือข้าวคั่ว หรือข้าวสด จนกว่าจะถึงวันเดียวกันที่พวกเจ้าได้นำเครื่องบูชาถวายแด่พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย จงให้เป็นกฎเกณฑ์เนืองนิตย์ตลอดชั่วอายุของพวกเจ้าในบรรดาที่อยู่อาศัยของเจ้าทั้งหลาย
เครื่องบูชาโบกพัดและเทศกาลเพ็นเทคอสต์
  • 23:15 และจากวันที่เจ้าทั้งหลายได้นำฟ่อนข้าวแห่งเครื่องบูชาโบกพัดมาถวาย เจ้าทั้งหลายจงนับตั้งแต่วันรุ่งขึ้นหลังจากวันสะบาโต จนครบเจ็ดวันสะบาโต
  • 23:16 เจ้าทั้งหลายจงนับไปให้ได้ห้าสิบวัน คือจนถึงวันรุ่งขึ้นหลังจากวันสะบาโตที่เจ็ด และพวกเจ้าจงถวายเครื่องธัญญบูชาใหม่แด่พระเยโฮวาห์
  • 23:17 เจ้าทั้งหลายจงนำขนมปังสองก้อนทำด้วยแป้งสองในสิบเอฟาห์จากที่อยู่อาศัยของพวกเจ้ามาโบกพัดไปมา ขนมปังนั้นจงทำด้วยแป้งละเอียด ใส่เชื้อแล้วอบ ขนมปังนั้นเป็นผลแรกถวายแด่พระเยโฮวาห์
  • 23:18 และพร้อมกับขนมปังนั้นเจ้าทั้งหลายจงเอาลูกแกะเจ็ดตัวอายุไม่เกินหนึ่งปี ปราศจากตำหนิ วัวหนุ่มหนึ่งตัวและแกะตัวผู้สองตัวมาถวาย สัตว์เหล่านี้จะเป็นเครื่องเผาบูชาถวายแด่พระเยโฮวาห์ พร้อมกับเครื่องธัญญบูชาที่ถวายคู่กัน และเครื่องดื่มบูชาที่ถวายคู่กัน คือเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่พอพระทัยแด่พระเยโฮวาห์
  • 23:19 แล้วเจ้าทั้งหลายจงถวายลูกแพะหนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และลูกแกะสองตัวอายุไม่เกินหนึ่งปีเป็นเครื่องสันติบูชา
  • 23:20 และปุโรหิตจงเอาสิ่งเหล่านี้โบกพัดไปมาพร้อมกับขนมปังจากผลแรก เป็นเครื่องบูชาโบกพัดถวายต่อพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์ พร้อมกับลูกแกะสองตัว สัตว์เหล่านี้จะเป็นของบริสุทธิ์แด่พระเยโฮวาห์สำหรับปุโรหิต
  • 23:21 และในวันเดียวกันนั้น เจ้าทั้งหลายจงประกาศว่า วันนั้นจงเป็นการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกเจ้า ในวันนั้นเจ้าทั้งหลายอย่าทำงานหนักใด ๆ วันนั้นจงให้เป็นกฎเกณฑ์เนืองนิตย์ในบรรดาที่อยู่อาศัยของพวกเจ้าตลอดชั่วอายุของเจ้าทั้งหลาย
  • 23:22 และเมื่อเจ้าทั้งหลายเกี่ยวข้าวในแผ่นดินของพวกเจ้า เจ้าอย่าเกี่ยวเก็บข้าวที่ขอบนาของเจ้าจนหมด ทั้งเจ้าอย่าเก็บข้าวใด ๆ ที่ร่วงหล่นของเจ้า เจ้าจงเหลือสิ่งเหล่านั้นไว้ให้คนยากจนและคนต่างชาติ เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย”
เทศกาลแห่งเสียงแตร
  • 23:23 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 23:24 “จงพูดกับชนชาติอิสราเอลว่า ในเดือนที่เจ็ด ในวันที่หนึ่งของเดือนนั้น เจ้าทั้งหลายจงถือเป็นวันสะบาโต เป็นที่ระลึกด้วยเสียงแตร เป็นการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์
  • 23:25 ในวันนั้นเจ้าทั้งหลายอย่าทำงานหนักใด ๆ แต่พวกเจ้าจงนำเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระเยโฮวาห์”
วันแห่งการลบมลทิน
  • 23:26 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 23:27 “เช่นเดียวกันในวันที่สิบของเดือนที่เจ็ดนี้จะต้องเป็นวันแห่งการลบมลทิน วันนั้นจงให้เป็นการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายจะต้องทรมานจิตใจของตนเอง และนำเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระเยโฮวาห์
  • 23:28 และในวันเดียวกันนั้น เจ้าทั้งหลายอย่าทำงานใด ๆ เพราะเป็นวันแห่งการลบมลทิน เพื่อจะทำการลบมลทินให้พวกเจ้าต่อพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย
  • 23:29 เพราะในวันเดียวกันนั้น ผู้ใดก็ตามที่ไม่ทรมานจิตใจ ผู้นั้นจะต้องถูกตัดขาดจากท่ามกลางชนชาติของตน
  • 23:30 และในวันเดียวกันนั้น ผู้ใดก็ตามที่ทำการงานใด ๆ เราจะทำลายผู้นั้นเสียจากท่ามกลางชนชาติของเขา
  • 23:31 เจ้าทั้งหลายอย่าทำงานใด ๆ เลย จงให้เป็นกฎเกณฑ์เนืองนิตย์ตลอดชั่วอายุของพวกเจ้าในบรรดาที่อยู่อาศัยของเจ้าทั้งหลาย
  • 23:32 วันนั้นจงให้เป็นวันสะบาโตแห่งการพักสงบแก่พวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายจะต้องทรมานจิตใจของตนเอง เริ่มตั้งแต่เวลาเย็นในวันที่เก้าของเดือน เจ้าทั้งหลายจะต้องฉลองวันสะบาโตของพวกเจ้า จากเวลาเย็นถึงเวลาเย็น”
เทศกาลแห่งการอยู่เพิง
  • 23:33 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 23:34 “จงพูดกับชนชาติอิสราเอลว่า ในวันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ดนี้ จงให้เป็นวันเทศกาลเลี้ยงการอยู่เพิงถวายแด่พระเยโฮวาห์เป็นเวลาเจ็ดวัน
  • 23:35 ในวันแรกจะมีการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ ในวันนั้นเจ้าทั้งหลายอย่าทำงานหนักใด ๆ
  • 23:36 ในเจ็ดวันนั้นเจ้าทั้งหลายจงถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระเยโฮวาห์ ในวันที่แปดจะเป็นการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายจงถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระเยโฮวาห์ เป็นการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ และในวันนั้นเจ้าทั้งหลายอย่าทำงานหนักใด ๆ
  • 23:37 นี่เป็นเทศกาลเลี้ยงตามกำหนดแด่พระเยโฮวาห์ ซึ่งเจ้าทั้งหลายจะต้องประกาศเป็นการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้นำเครื่องบูชาด้วยไฟ เครื่องเผาบูชาและเครื่องธัญญบูชา เครื่องสัตวบูชาและเครื่องดื่มบูชา มาถวายแด่พระเยโฮวาห์ ทุกสิ่งตามวันกำหนดนั้น ๆ
  • 23:38 นอกเหนือจากบรรดาวันสะบาโตของพระเยโฮวาห์ และนอกเหนือจากของถวายทั้งหลายของพวกเจ้า และนอกเหนือจากเครื่องบูชาปฏิญาณทั้งหลายของพวกเจ้า และนอกเหนือจากบรรดาเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจของพวกเจ้า ซึ่งเจ้าทั้งหลายนำมาถวายแด่พระเยโฮวาห์
  • 23:39 เช่นเดียวกันในวันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ด เมื่อเจ้าทั้งหลายได้เก็บพืชผลที่ได้จากแผ่นดินนั้นเข้ามาแล้ว พวกเจ้าจงถือเทศกาลเลี้ยงถวายแด่พระเยโฮวาห์เป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันแรกจะเป็นวันสะบาโต และในวันที่แปดจะเป็นวันสะบาโต
  • 23:40 และในวันแรกเจ้าทั้งหลายจงนำกิ่งไม้จากต้นที่สวยงาม ใบอินทผลัม กิ่งไม้ที่มีใบดก และกิ่งต้นหลิวแห่งธารน้ำ และพวกเจ้าจงปีติยินดีอยู่เจ็ดวันต่อพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย
  • 23:41 และเจ้าทั้งหลายจงถือเป็นเทศกาลเลี้ยงปีละเจ็ดวันถวายแด่พระเยโฮวาห์ จงให้เทศกาลนี้เป็นกฎเกณฑ์เนืองนิตย์ตลอดชั่วอายุของพวกเจ้า เจ้าทั้งหลายจงฉลองเทศกาลเลี้ยงนี้ในเดือนที่เจ็ด
  • 23:42 เจ้าทั้งหลายจงอาศัยอยู่ในเพิงเป็นเวลาเจ็ดวัน ทุกคนที่เกิดในวงศ์วานอิสราเอลจงอาศัยอยู่ในเพิง
  • 23:43 เพื่อตลอดชั่วอายุของเจ้าทั้งหลายจะได้ทราบว่า เมื่อเราพาชนชาติอิสราเอลออกจากแผ่นดินแห่งอียิปต์นั้น เราได้ให้พวกเขาอาศัยอยู่ในเพิง เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเจ้า”
  • 23:44 และดังนี้แหละ โมเสสได้ประกาศให้ชนชาติอิสราเอลทราบถึงเทศกาลเลี้ยงตามกำหนดของพระเยโฮวาห์

24[แก้ไข]

น้ำมันมะกอกสำหรับคันประทีป
  • 24:1 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 24:2 “จงบัญชาแก่ชนชาติอิสราเอลให้พวกเขานำน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ที่คั้นไว้นั้นมาให้เจ้าสำหรับจุดประทีป เพื่อจะทำให้คันประทีปนั้นลุกอยู่เสมอ
  • 24:3 ข้างนอกม่านของหีบพระโอวาท ในพลับพลาแห่งชุมนุมชน จงให้อาโรนจัดเตรียมประทีปนั้นอยู่ต่อพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์เสมอตั้งแต่เวลาพลบค่ำจนถึงรุ่งเช้า จงให้เป็นกฎเกณฑ์เนืองนิตย์ตลอดชั่วอายุของพวกเจ้า
  • 24:4 จงให้เขาจัดเตรียมประทีปซึ่งอยู่บนคันประทีปบริสุทธิ์ ต่อพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์อยู่เสมอ
ขนมปังหน้าพระพักตร์สิบสองก้อน
  • 24:5 เจ้าจงเอาแป้งละเอียด และอบขนมปังสิบสองก้อน แต่ละก้อนใช้แป้งละเอียดสองในสิบเอฟาห์
  • 24:6 และเจ้าจงจัดขนมปังนั้นวางบนโต๊ะบริสุทธิ์ต่อพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์ เป็นสองแถว ๆ ละหกก้อน
  • 24:7 และเจ้าจงเอากำยานบริสุทธิ์ใส่ไว้แต่ละแถว เพื่อจะให้อยู่บนขนมปังเป็นที่ระลึก คือเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระเยโฮวาห์
  • 24:8 ทุก ๆ วันสะบาโตจงให้เขาจัดเตรียมขนมปังไว้ให้เป็นระเบียบต่อพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์เสมอ คือเอามาจากชนชาติอิสราเอลเป็นพันธสัญญาเนืองนิตย์
  • 24:9 และขนมปังนี้จงให้เป็นของอาโรนและบุตรชายทั้งหลายของเขา และพวกเขาจงรับประทานขนมปังนี้ในสถานที่บริสุทธิ์ เพราะขนมปังนี้เป็นของบริสุทธิ์ที่สุดสำหรับพระองค์ที่ได้จากเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระเยโฮวาห์เป็นกฎเกณฑ์เนืองนิตย์”
บทลงโทษสำหรับการหมิ่นประมาทและอาชญากรรมอื่น ๆ
  • 24:10 และบุตรชายคนหนึ่งของหญิงคนอิสราเอล ซึ่งบิดาของเขาเป็นคนอียิปต์ ออกไปท่ามกลางชนชาติอิสราเอล และบุตรชายของหญิงคนอิสราเอลคนนี้กับชายคนอิสราเอลคนหนึ่งได้ทะเลาะวิวาทกันในค่าย
  • 24:11 และบุตรชายของหญิงคนอิสราเอลคนนั้นได้หมิ่นประมาทและได้แช่งด่าพระนามของพระเยโฮวาห์ และเขาทั้งหลายได้นำตัวเขามายังโมเสส (และมารดาของเขาชื่อเชโลมิทบุตรสาวของดิบรีคนเผ่าดาน)
  • 24:12 และพวกเขาจึงควบคุมเขาไว้จนกว่าพระประสงค์ของพระเยโฮวาห์จะเป็นที่เปิดเผยต่อเขาทั้งหลาย
  • 24:13 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 24:14 “จงนำผู้ที่แช่งด่านั้นออกไปข้างนอกค่าย และให้บรรดาผู้ที่ได้ยินเขาพูดวางมือของตนไว้บนศีรษะของเขา และให้บรรดาชุมนุมชนเอาหินขว้างเขาเสีย
  • 24:15 และเจ้าจงพูดกับชนชาติอิสราเอลว่า ผู้ใดก็ตามแช่งด่าพระเจ้าของเขา ผู้นั้นจะต้องได้รับโทษบาปของเขา
  • 24:16 และผู้ใดที่หมิ่นประมาทพระนามของพระเยโฮวาห์ ผู้นั้นจะต้องถูกประหารชีวิตอย่างแน่นอน และจงให้ชุมนุมชนทั้งหมดเอาหินขว้างเขาให้ตาย คนต่างชาติหรือชาวเมืองนั้นก็ดี เมื่อเขาหมิ่นประมาทพระนามของพระเยโฮวาห์ จะต้องถูกประหารชีวิต
  • 24:17 และผู้ที่ฆ่าผู้อื่นจะต้องถูกประหารชีวิตอย่างแน่นอน
  • 24:18 และผู้ที่ฆ่าสัตว์จะต้องชดใช้สิ่งนั้น สัตว์แทนสัตว์
  • 24:19 และถ้าผู้ใดทำให้เพื่อนบ้านของตนมีตำหนิ เขาทำให้มีตำหนิอย่างไร ก็จงให้ทำแก่เขาอย่างนั้น
  • 24:20 กระดูกหักแทนกระดูกหัก ตาแทนตา ฟันแทนฟัน เขาทำให้ผู้อื่นมีตำหนิอย่างไร เขาก็จะต้องถูกทำให้มีตำหนิอย่างนั้นเหมือนกัน
  • 24:21 และผู้ใดที่ฆ่าสัตว์ ผู้นั้นจะต้องเสียค่าชดใช้ และผู้ใดที่ฆ่าคน ผู้นั้นจะต้องถูกประหารชีวิต
  • 24:22 เจ้าทั้งหลายจงมีพระราชบัญญัติอย่างเดียวกันสำหรับคนต่างชาติ และสำหรับชาวเมืองของตน เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเจ้า”
  • 24:23 และโมเสสพูดกับชนชาติอิสราเอลให้พวกเขาพาคนที่แช่งด่านั้นออกไปนอกค่าย และเอาหินขว้างเขาเสีย และชนชาติอิสราเอลกระทำตามที่พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาโมเสสไว้

25[แก้ไข]

การถือปีสะบาโตทุก ๆ เจ็ดปี
  • 25:1 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสที่ภูเขาซีนายว่า
  • 25:2 “จงพูดกับชนชาติอิสราเอลและกล่าวแก่พวกเขาว่า เมื่อเจ้าทั้งหลายเข้ามาในแผ่นดินที่เราให้พวกเจ้านั้น ดังนั้น จงให้แผ่นดินนั้นถือรักษาสะบาโตแด่พระเยโฮวาห์
  • 25:3 เจ้าจงหว่านพืชในไร่นาของเจ้าเป็นเวลาหกปี และเจ้าจงลิดแขนงสวนองุ่นของเจ้าและเก็บผลจากสวนนั้นเป็นเวลาหกปี
  • 25:4 แต่ในปีที่เจ็ดนั้นจะต้องเป็นปีสะบาโตแห่งการพักสงบสำหรับแผ่นดิน เป็นปีสะบาโตแด่พระเยโฮวาห์ เจ้าอย่าหว่านพืชในไร่นาของเจ้า หรือลิดแขนงสวนองุ่นของเจ้า
  • 25:5 สิ่งใดที่งอกขึ้นมาเองจากพืชผลของเจ้า เจ้าอย่าเก็บเกี่ยว ทั้งองุ่นซึ่งเกิดอยู่ที่เถาที่เจ้าไม่ได้ตัดแต่งกิ่งก็อย่าเก็บ เพราะเป็นปีแห่งการพักสงบสำหรับแผ่นดิน
  • 25:6 และปีสะบาโตแห่งแผ่นดินนั้นจะมีอาหารให้แก่เจ้าทั้งหลาย คือแก่ตัวเจ้าเอง แก่ทาสชายหญิงของเจ้า แก่ลูกจ้างของเจ้า และแก่คนต่างชาติที่อาศัยอยู่กับเจ้า
  • 25:7 และพืชผลแห่งแผ่นดินทั้งสิ้น จะเป็นอาหารแก่สัตว์เลี้ยงของเจ้า และแก่สัตว์ป่าที่อยู่ในแผ่นดินของเจ้า
ปีที่ห้าสิบเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลอง
  • 25:8 และเจ้าจงนับปีสะบาโตเจ็ดปีสำหรับเจ้า คือเจ็ดปีคูณเจ็ดปี และเวลาปีสะบาโตเจ็ดปีจะเป็นสี่สิบเก้าปีสำหรับเจ้า
  • 25:9 ดังนั้น เจ้าจงให้เป่าแตรแห่งการเฉลิมฉลองในวันที่สิบของเดือนที่เจ็ด เจ้าทั้งหลายจงให้เป่าแตรทั่วแผ่นดินของพวกเจ้าในวันแห่งการลบมลทิน
  • 25:10 และเจ้าทั้งหลายจงถือปีที่ห้าสิบไว้เป็นปีบริสุทธิ์ และประกาศอิสรภาพแก่บรรดาคนที่อาศัยอยู่ทั่วแผ่นดินนั้น จงให้เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองสำหรับพวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายจงให้ทุกคนกลับไปยังที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตน และพวกเจ้าจงให้ทุกคนกลับไปสู่ครอบครัวของตน
  • 25:11 ปีที่ห้าสิบนั้นจะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองสำหรับพวกเจ้า ในปีนั้นเจ้าทั้งหลายอย่าหว่านพืชหรือเกี่ยวเก็บผลที่เกิดขึ้นมาเอง หรือเก็บองุ่นจากเถาของเจ้าที่ไม่ได้ตัดแต่งกิ่ง
  • 25:12 เพราะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลอง จะเป็นปีบริสุทธิ์สำหรับเจ้าทั้งหลาย พวกเจ้าจงรับประทานพืชผลที่งอกมาจากไร่นาในปีนั้น
  • 25:13 ในปีแห่งการเฉลิมฉลองนี้ เจ้าทั้งหลายจงให้ทุกคนกลับไปยังที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตน
  • 25:14 และถ้าเจ้าขายสิ่งใด ๆ ให้เพื่อนบ้านของเจ้า หรือซื้อสิ่งใด ๆ จากมือเพื่อนบ้านของเจ้า เจ้าทั้งหลายอย่ากดขี่ข่มเหงกันและกัน
  • 25:15 ตามจำนวนปีหลังจากปีแห่งการเฉลิมฉลอง เจ้าจงซื้อไร่นาจากเพื่อนบ้านของเจ้า และตามจำนวนปีที่ปลูกพืชได้จงให้เขาขายแก่เจ้า
  • 25:16 ถ้ามากปีเจ้าจะต้องเพิ่มราคาสูงขึ้น และถ้าน้อยปีเจ้าจงลดราคาให้ต่ำลง เพราะที่เขาขายนั้นเขาขายตามจำนวนปีที่ปลูกพืช
  • 25:17 เจ้าทั้งหลายอย่ากดขี่ข่มเหงกันและกัน แต่เจ้าจงเกรงกลัวพระเจ้าของเจ้า เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเจ้า
  • 25:18 ดังนั้น เจ้าทั้งหลายจงกระทำตามกฎเกณฑ์ทั้งหลายของเรา และรักษาคำตัดสินต่าง ๆ ของเราและกระทำตาม และพวกเจ้าจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นอย่างปลอดภัย
  • 25:19 และแผ่นดินจะบังเกิดผลของมัน และเจ้าทั้งหลายจะได้รับประทานอย่างอิ่มหนำ และอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นอย่างปลอดภัย
  • 25:20 และถ้าเจ้าทั้งหลายจะพูดว่า ‘ในปีที่เจ็ดพวกเราจะเอาอะไรรับประทาน ดูเถิด เราทั้งหลายจะไม่ได้หว่านหรือเกี่ยวพืชผลของพวกเรา’
  • 25:21 ดังนั้น เราจะบัญชาพรของเราให้มีเหนือเจ้าทั้งหลายในปีที่หก และแผ่นดินนั้นจะบังเกิดพืชผลมากพอสำหรับสามปี
  • 25:22 และเจ้าทั้งหลายจะหว่านในปีที่แปด และจะยังรับประทานของเก่านั้นจนถึงปีที่เก้า จนกว่าพืชผลใหม่ของแผ่นดินนั้นเข้ามา พวกเจ้าจะรับประทานพืชผลเก่านั้นอยู่
  • 25:23 แผ่นดินนั้นจะขายขาดไม่ได้ เพราะว่าแผ่นดินนั้นเป็นของเรา เพราะเจ้าทั้งหลายเป็นคนต่างชาติและเป็นคนอาศัยอยู่กับเรา
  • 25:24 และตลอดทั่วทั้งแผ่นดินที่เจ้าทั้งหลายถือกรรมสิทธิ์อยู่นั้น พวกเจ้าจงให้มีการไถ่ถอนแผ่นดินนั้นคืน
การไถ่ถอนแผ่นดินที่เป็นมรดก
  • 25:25 ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลงและขายที่ดินส่วนหนึ่งที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเขา และหากว่ามีผู้ใดในพี่น้องของเขามาไถ่ถอนที่ดินนั้น ดังนั้น จงให้เขาไถ่ถอนที่ดินซึ่งพี่น้องของเขาขายไปนั้น
  • 25:26 และถ้าชายคนนั้นไม่มีผู้อื่นมาไถ่ถอนที่ดินนั้นให้ และตัวเขาสามารถจะไถ่ถอนที่ดินนั้นเอง
  • 25:27 ดังนั้น จงให้เขานับปีทั้งหลายที่เขาขายที่ดินนั้นไป และเงินที่เหลือนั้นจงคืนให้แก่คนที่เขาขายให้ เพื่อเขาจะได้กลับไปอยู่ในที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเขา
  • 25:28 แต่ถ้าเขาไม่สามารถที่จะไถ่ที่ดินนั้นคืนได้ ดังนั้น ที่ดินที่เขาได้ขายไปจงให้อยู่ในมือของผู้ซื้อที่ดินนั้นจนถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง และในปีแห่งการเฉลิมฉลองนั้น จะต้องคืนที่ดินนั้น และเขาจะได้กลับไปอยู่ในที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเขา
  • 25:29 และถ้าชายคนใดขายบ้านซึ่งอยู่ในนครที่มีกำแพง ดังนั้นเขาไถ่ถอนบ้านนั้นคืนได้ภายในหนึ่งปีแรกที่เขาขายบ้านนั้นไป ภายในหนึ่งปีเต็มเขาไถ่ถอนบ้านนั้นได้
  • 25:30 และถ้าในเวลาหนึ่งปีเต็มเขาไม่ไถ่ถอนบ้านนั้น ดังนั้นให้จัดการเสียให้เป็นการแน่นอนว่า ผู้ซื้อบ้านที่อยู่ในนครที่มีกำแพงนั้นจะได้สิทธิ์ครอบครองบ้านนั้นตลอดชั่วอายุของเขา ในปีแห่งการเฉลิมฉลองก็จะไม่ต้องคืนบ้านนั้นให้
  • 25:31 แต่บ้านใด ๆ ที่อยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีกำแพงล้อมรอบ จงนับบ้านเหล่านั้นเข้าเป็นพวกเดียวกันกับไร่นาในแผ่นดินนั้น คือไถ่ถอนบ้านเหล่านั้นคืนได้ และจะต้องคืนบ้านนั้นในปีแห่งการเฉลิมฉลอง
  • 25:32 อย่างไรก็ตามนครต่าง ๆ ของคนเลวี และบ้านใด ๆ ในนครที่พวกเขาถือกรรมสิทธิ์ คนเลวีจะไถ่ถอนคืนได้ทุกเวลา
  • 25:33 และถ้าผู้ใดซื้อของจากคนเลวี ดังนั้นบ้านซึ่งถูกขายไปนั้นกับนครที่เขาถือกรรมสิทธิ์จะต้องกลับคืนในปีแห่งการเฉลิมฉลอง เพราะบ้านทั้งหลายในนครต่าง ๆ ของคนเลวีเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาท่ามกลางชนชาติอิสราเอล
  • 25:34 แต่ไร่นาที่อยู่ชานเมืองตามนครทั้งหลายของพวกเขานั้นจะขายไม่ได้ เพราะว่าเป็นกรรมสิทธิ์เนืองนิตย์ของเขาทั้งหลาย
ข้อยกเว้นต่าง ๆ ในการไถ่ถอน
  • 25:35 และถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลงและเสื่อมถอยลงต่อหน้าเจ้า ดังนั้นเจ้าจะต้องชูกำลังเขา ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าเขาเป็นคนต่างชาติหรือคนที่อาศัยอยู่ด้วย เพื่อเขาจะอาศัยอยู่กับเจ้า
  • 25:36 เจ้าอย่าเอาดอกเบี้ยหรือเงินเพิ่มใด ๆ จากเขา แต่จงเกรงกลัวพระเจ้าของเจ้า เพื่อว่าพี่น้องของเจ้าจะอาศัยอยู่กับเจ้าได้
  • 25:37 เจ้าอย่าให้เงินของเจ้าแก่เขาโดยคิดดอกเบี้ย หรืออย่าให้เขายืมอาหารของเจ้าเพื่อเอาเงินเพิ่มใด ๆ จากเขา
  • 25:38 เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย ซึ่งนำพวกเจ้าออกจากแผ่นดินแห่งอียิปต์ เพื่อประทานแผ่นดินแห่งคานาอันให้แก่เจ้าทั้งหลาย และเพื่อจะเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า
  • 25:39 และถ้าพี่น้องของเจ้าที่อาศัยอยู่ใกล้ชิดกับเจ้ายากจนลง และขายตัวให้แก่เจ้า เจ้าอย่าบังคับเขาให้ทำงานเหมือนทาส
  • 25:40 แต่ให้เขาเป็นอย่างลูกจ้างและคนที่อาศัยอยู่ด้วย เขาจะอยู่กับเจ้า และจะปรนนิบัติเจ้าไปจนถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง
  • 25:41 และจากนั้นเขาจะออกไปจากเจ้า ทั้งเขาและลูก ๆ ของเขาที่อยู่กับเขา และจะกลับไปสู่ครอบครัวของเขาเอง และเขาจะกลับไปอยู่ในที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบรรพบุรุษของเขา
  • 25:42 เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นทาสของเรา ซึ่งเรานำออกจากแผ่นดินแห่งอียิปต์ พวกเขาจะขายตัวเป็นทาสไม่ได้
  • 25:43 เจ้าอย่าปกครองเขาด้วยความทารุณโหดร้าย แต่จงเกรงกลัวพระเจ้าของเจ้า
  • 25:44 ทั้งทาสชายหญิงของเจ้าซึ่งเจ้าจะมีได้นั้น จงให้มาจากบรรดาประชาชาติที่อยู่รอบ ๆ เจ้าทั้งหลาย พวกเจ้าจะซื้อทาสชายหญิงจากพวกเขาได้
  • 25:45 ยิ่งกว่านั้นเจ้าทั้งหลายจะซื้อจากลูกหลานของคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า ทั้งครอบครัวของพวกเขาที่อาศัยอยู่กับเจ้าทั้งหลาย ซึ่งเป็นคนเกิดในแผ่นดินของพวกเจ้า และเขาทั้งหลายจะเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเจ้าได้
  • 25:46 และเจ้าทั้งหลายจะทำให้พวกเขาเป็นมรดกแก่ลูก ๆ ของพวกเจ้าที่มาภายหลังเจ้าทั้งหลายได้ ให้เป็นมรดกแก่พวกเขาเป็นกรรมสิทธิ์ พวกเขาจะเป็นทาสของเจ้าทั้งหลายเป็นนิตย์ แต่สำหรับพี่น้องของพวกเจ้าคือชนชาติอิสราเอล เจ้าทั้งหลายอย่าปกครองเขาด้วยความทารุณโหดร้าย
การไถ่ถอนคนอิสราเอลที่เป็นทาส
  • 25:47 และถ้าคนต่างชาติหรือคนที่อาศัยอยู่กับเจ้ามั่งมีขึ้น และพี่น้องของเจ้าที่อยู่ใกล้ชิดกับเขายากจนลง และขายตัวให้แก่คนต่างชาติหรือคนที่อาศัยอยู่กับเจ้านั้น หรือขายให้แก่ญาติคนหนึ่งคนใดของคนต่างชาตินั้น
  • 25:48 หลังจากเขาขายตัวแล้วก็จงให้มีการไถ่ถอนเขาอีก คือพี่น้องคนหนึ่งคนใดของเขาจะทำการไถ่ถอนเขาได้
  • 25:49 ทั้งลุงของเขาหรือลูกลุงของเขาจะทำการไถ่ถอนเขาได้ หรือคนใด ๆ ที่เป็นญาติสนิทในครอบครัวของเขาจะไถ่ถอนเขาได้ หรือถ้าเขามีความสามารถ เขาจะไถ่ถอนตัวเองก็ได้
  • 25:50 และจงให้ผู้ที่ขายตัวนับปีทั้งหลายที่ขายตัวกับผู้ที่ซื้อตัวเขาไป ว่าเขาได้ขายตัวกี่ปีจนถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง และค่าตัวของเขาจงเป็นค่าตามจำนวนปีเหล่านั้น เวลาที่เขาอยู่กับเจ้าของตัวเขานั้นจงให้คิดตามเวลาของลูกจ้าง
  • 25:51 ถ้ายังมีเวลาอีกหลายปีเหลืออยู่ เขาจะต้องชำระเงินคืนเท่ากับเงินที่ถูกซื้อมา นับเป็นค่าไถ่ถอนตัวเขา
  • 25:52 และถ้ายังเหลือน้อยปีจนกว่าจะถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง ดังนั้นจงให้ผู้ขายตัวคิดกับผู้ซื้อตัวไว้เป็นราคาค่าไถ่ของเขานั้น และตามจำนวนปีเหล่านั้น เขาจะคืนเงินให้กับผู้ซื้อตัว
  • 25:53 และผู้ขายตัวนั้นจะต้องอยู่กับผู้ซื้อตัวเขาเหมือนอย่างลูกจ้างที่จ้างเป็นรายปี และอย่าให้ผู้นั้นปกครองเขาด้วยความทารุณโหดร้ายในสายตาของเจ้า
  • 25:54 และถ้าเขาไม่ได้รับการไถ่ถอนตามเวลาเหล่านี้ ดังนั้นจงปล่อยเขาในปีแห่งการเฉลิมฉลอง ทั้งเขาพร้อมกับลูก ๆ ของเขาที่อยู่กับเขา
  • 25:55 เพราะชนชาติอิสราเอลเป็นทาสสำหรับเรา เขาทั้งหลายเป็นทาสของเรา ผู้ที่เรานำออกจากแผ่นดินแห่งอียิปต์ เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย”

26[แก้ไข]

ทรงทบทวนพระราชบัญญัติเกี่ยวกับวันสะบาโตและรูปเคารพ
  • 26:1 “เจ้าทั้งหลายอย่าทำรูปเคารพหรือรูปเคารพแกะสลักสำหรับตัว หรืออย่าตั้งเสาศักดิ์สิทธิ์สำหรับตัว หรือเจ้าทั้งหลายอย่าตั้งรูปสัณฐานใด ๆ ที่ทำด้วยศิลาไว้ในแผ่นดินของพวกเจ้า เพื่อกราบไหว้รูปนั้น เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย
  • 26:2 เจ้าทั้งหลายจะต้องถือรักษาสะบาโตทั้งหลายของเรา และแสดงความยำเกรงต่อสถานบริสุทธิ์ของเรา เราคือพระเยโฮวาห์
ทรงสัญญาว่าจะอวยพรแก่คนที่กระทำความชอบธรรม ผลพรจ
  • 26:3 ถ้าเจ้าทั้งหลายดำเนินตามกฎเกณฑ์ทั้งหลายของเราและรักษาบทบัญญัติทั้งสิ้นของเราและกระทำตาม
  • 26:4 ดังนั้น เราจะประทานฝนตามฤดูแก่เจ้าทั้งหลาย และแผ่นดินจะบังเกิดพืชผลและบรรดาต้นไม้ในไร่นาจะบังเกิดผล
  • 26:5 และเวลานวดข้าวของพวกเจ้าจะยืดยาวถึงฤดูเก็บผลองุ่น และฤดูเก็บผลองุ่นจะยืดยาวไปถึงฤดูหว่าน และเจ้าทั้งหลายจะรับประทานอาหารของพวกเจ้าอย่างอิ่มหนำ และอาศัยอยู่ในแผ่นดินของเจ้าทั้งหลายอย่างปลอดภัย
  • 26:6 และเราจะให้มีความสงบสุขในแผ่นดิน และเจ้าทั้งหลายจะนอนลง และไม่มีผู้ใดที่จะทำให้พวกเจ้ากลัว และเราจะกำจัดสัตว์ร้ายจากแผ่นดิน ทั้งดาบจะไม่ผ่านแผ่นดินของเจ้าทั้งหลายเลย
  • 26:7 และเจ้าทั้งหลายจะขับไล่บรรดาศัตรูของพวกเจ้า และเขาทั้งหลายจะล้มลงต่อหน้าเจ้าทั้งหลายด้วยดาบ
  • 26:8 และเจ้าทั้งหลายห้าคนจะขับไล่ศัตรูหนึ่งร้อยคน และพวกเจ้าหนึ่งร้อยคนจะขับไล่ศัตรูหนึ่งหมื่นคนให้หนีไป และบรรดาศัตรูของเจ้าทั้งหลายจะล้มลงต่อหน้าพวกเจ้าด้วยดาบ
  • 26:9 เพราะเราจะเอาใจใส่เอ็นดูเจ้าทั้งหลาย และจะกระทำให้พวกเจ้ามีลูกดกและเจ้าทั้งหลายจะทวีมากขึ้น และตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับพวกเจ้า
  • 26:10 และเจ้าทั้งหลายจะรับประทานของเก่าที่เก็บสะสมไว้ และจะต้องเอาของเก่าออกไปเพราะเหตุของใหม่นั้น
  • 26:11 และเราจะตั้งพลับพลาของเราไว้ท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย และจิตใจของเราจะไม่เกลียดชังพวกเจ้า
  • 26:12 และเราจะดำเนินท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย และจะเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายจะเป็นประชากรของเรา
  • 26:13 เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย ผู้นำพวกเจ้าออกจากแผ่นดินแห่งอียิปต์ เพื่อเจ้าทั้งหลายจะไม่ได้เป็นทาสของพวกเขา และเราได้หักแอกของเจ้าทั้งหลายเสีย เพื่อให้พวกเจ้ายืนตัวตรงได้
บทลงโทษต่าง ๆ เพราะความบาป
  • 26:14 แต่ถ้าเจ้าทั้งหลายจะไม่ตั้งใจฟังเรา และจะไม่กระทำตามบทบัญญัติทั้งหมดเหล่านี้
  • 26:15 และถ้าเจ้าทั้งหลายจะดูหมิ่นกฎเกณฑ์ทั้งหลายของเรา หรือถ้าจิตใจของพวกเจ้าเกลียดชังคำตัดสินต่าง ๆ ของเรา เพื่อเจ้าทั้งหลายจะไม่กระทำตามบทบัญญัติทั้งสิ้นของเรา แต่พวกเจ้าฝ่าฝืนพันธสัญญาของเรา
  • 26:16 เช่นเดียวกันเราจะกระทำดังนี้แก่เจ้าทั้งหลาย คือเราจะตั้งความหวาดกลัวต่อหน้าพวกเจ้า ความผ่ายผอม และความเจ็บไข้ ซึ่งจะทำให้นัยน์ตาทรุดโทรม และกระทำให้จิตใจเศร้าหมอง และเจ้าทั้งหลายจะหว่านพืชไว้เสียเปล่า เพราะบรรดาศัตรูของพวกเจ้าจะมากินพืชผลนั้น
  • 26:17 และเราจะตั้งหน้าของเราต่อสู้เจ้าทั้งหลาย และพวกเจ้าจะล้มตายต่อหน้าบรรดาศัตรูของเจ้าทั้งหลาย บรรดาคนที่เกลียดชังพวกเจ้าจะปกครองอยู่เหนือเจ้าทั้งหลาย และพวกเจ้าจะหลบหนีไปทั้งที่ไม่มีใครไล่ติดตามเจ้าทั้งหลาย
  • 26:18 และถ้าเจ้าทั้งหลายจะไม่ตั้งใจฟังเราเพราะสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ ดังนั้น เราจึงจะลงโทษพวกเจ้าให้ทวีขึ้นอีกเจ็ดเท่าเพราะเหตุความบาปของเจ้าทั้งหลาย
  • 26:19 และเราจะทำลายความเห่อเหิมในกำลังอำนาจของเจ้าทั้งหลาย และเราจะกระทำให้ฟ้าสวรรค์ของพวกเจ้าเป็นเหมือนเหล็ก และพื้นดินของเจ้าทั้งหลายเป็นเหมือนทองเหลือง
  • 26:20 และเจ้าทั้งหลายจะเปลืองกำลังเสียเปล่า ๆ เพราะว่าแผ่นดินของพวกเจ้าจะไม่บังเกิดพืชผลของมัน ทั้งต้นไม้ต่าง ๆ ในแผ่นดินก็จะไม่บังเกิดผลของมัน
  • 26:21 และถ้าเจ้าทั้งหลายยังดำเนินขัดแย้งต่อเราอยู่ และจะไม่ตั้งใจฟังเรา เราจะนำภัยพิบัติให้ทวีอีกเจ็ดเท่ามายังพวกเจ้าตามความบาปทั้งสิ้นของเจ้าทั้งหลาย
  • 26:22 และเราจะปล่อยบรรดาสัตว์ป่าเข้ามาท่ามกลางพวกเจ้าด้วย ซึ่งจะแย่งชิงลูกหลานของเจ้าทั้งหลาย และทำลายสัตว์ใช้งานของพวกเจ้า และทำให้เจ้าทั้งหลายเหลืออยู่น้อยคน และถนนหลวงของพวกเจ้าก็จะร้างเปล่าไป
  • 26:23 และถ้าด้วยสิ่งเหล่านี้เจ้าทั้งหลายยังไม่หันมาหาเรา แต่ยังจะดำเนินขัดแย้งต่อเราอยู่
  • 26:24 ดังนั้น เราจะดำเนินขัดแย้งต่อเจ้าทั้งหลายด้วย และจะลงโทษแก่พวกเจ้าให้ทวีอีกเจ็ดเท่าเพราะความบาปทั้งสิ้นของเจ้าทั้งหลาย
  • 26:25 และเราจะนำดาบมาเหนือเจ้าทั้งหลาย ซึ่งจะแก้แค้นการโต้เถียงเรื่องพันธสัญญาของเรา และเมื่อพวกเจ้าเข้ามารวมกันอยู่ภายในนครต่าง ๆ ของเจ้าทั้งหลาย เราจะนำโรคร้ายมาอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายจะถูกมอบไว้ในมือของศัตรู
  • 26:26 และเมื่อเราทำลายเสบียงอาหารของเจ้าทั้งหลายแล้ว ผู้หญิงสิบคนจะอบขนมปังของพวกเจ้าด้วยเตาอบอันเดียว และต่อไปพวกเขาจะมอบขนมปังนั้นให้เจ้าทั้งหลายตามน้ำหนัก พวกเจ้าจะรับประทานและจะไม่อิ่ม
  • 26:27 และถ้าเจ้าทั้งหลายยังไม่ตั้งใจฟังเราเพราะสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ แต่ดำเนินขัดแย้งต่อเรา
  • 26:28 ดังนั้น เราจะดำเนินขัดแย้งต่อเจ้าทั้งหลายอย่างเดือดดาลด้วย และเรา คือเราเอง จะลงโทษแก่พวกเจ้าให้ทวีอีกเจ็ดเท่าเพราะความบาปทั้งสิ้นของเจ้าทั้งหลาย
  • 26:29 และเจ้าทั้งหลายจะกินเนื้อบุตรชายทั้งหลายของพวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายจะกินเนื้อบุตรสาวทั้งหลายของพวกเจ้า
  • 26:30 และเราจะทำลายสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลายของพวกเจ้า และโค่นทำลายรูปเคารพทั้งหลายของพวกเจ้า และโยนศพของเจ้าทั้งหลายลงเหนือซากรูปเคารพทั้งหลายของพวกเจ้า และจิตใจของเราจะเกลียดชังเจ้าทั้งหลาย
  • 26:31 และเราจะกระทำให้นครต่าง ๆ ของเจ้าทั้งหลายถูกทิ้งไว้ให้รกร้างว่างเปล่า และจะกระทำให้สถานบริสุทธิ์ของพวกเจ้าถูกทิ้งร้าง และเราจะไม่ดมกลิ่นอันหอมหวานของเจ้าทั้งหลาย
คำพยากรณ์ถึงการถูกกวาดไปเป็นเชลยและการกระจัดกระจายไป
  • 26:32 และเราจะนำแผ่นดินนั้นไปสู่การรกร้าง และบรรดาศัตรูของเจ้าทั้งหลายที่อาศัยอยู่ที่นั่นจะตกตะลึงเพราะแผ่นดินนั้น
  • 26:33 และเราจะให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางประชาชาติ และเราจะชักดาบออกมาไล่ตามเจ้าทั้งหลาย และแผ่นดินของพวกเจ้าจะรกร้าง และนครต่าง ๆ ของเจ้าทั้งหลายจะถูกทิ้งไว้ให้รกร้างว่างเปล่า
  • 26:34 ดังนั้น แผ่นดินจะชื่นชมกับสะบาโตเหล่านั้นของมันตราบเท่าที่แผ่นดินนั้นยังว่างเปล่าอยู่ และเจ้าทั้งหลายต้องไปอยู่ในแผ่นดินแห่งบรรดาศัตรูของพวกเจ้า ซึ่งขณะนั้นแผ่นดินก็จะได้หยุดพัก และชื่นชมกับสะบาโตเหล่านั้นของมัน
  • 26:35 ตราบเท่าที่แผ่นดินยังว่างเปล่าอยู่ มันก็จะได้หยุดพัก เพราะแผ่นดินไม่ได้หยุดพักในสะบาโตทั้งหลายของพวกเจ้า ขณะเมื่อเจ้าทั้งหลายอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น
  • 26:36 และสำหรับคนเหล่านั้นของพวกเจ้าที่ยังเหลืออยู่ เราจะให้พวกเขามีใจอ่อนแอในแผ่นดินแห่งบรรดาศัตรูของเขาทั้งหลาย และเสียงใบไม้ไหวจะไล่ตามพวกเขา และเขาทั้งหลายจะหนีไป เหมือนหนีจากดาบ และพวกเขาจะล้มลงทั้งที่ไม่มีคนไล่ติดตาม
  • 26:37 และเขาทั้งหลายจะล้มลงทับกันและกัน เหมือนหนีจากดาบทั้งที่ไม่มีคนไล่ติดตาม และเจ้าทั้งหลายจะไม่มีกำลังต่อต้านบรรดาศัตรูของพวกเจ้า
  • 26:38 และเจ้าทั้งหลายจะพินาศท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และแผ่นดินแห่งบรรดาศัตรูของพวกเจ้าจะกินเจ้าทั้งหลายเสีย
  • 26:39 และสำหรับคนเหล่านั้นของพวกเจ้าที่ยังเหลืออยู่จะทรุดโทรมไปในแผ่นดินแห่งบรรดาศัตรูของเจ้าทั้งหลายนั้น เพราะความชั่วช้าของตน และเพราะความชั่วช้าของบรรพบุรุษของตน พวกเขาจะต้องทรุดโทรมไปอย่างบรรพบุรุษด้วย
พระเจ้าจะไม่ละทิ้งพันธสัญญาของพระองค์ต่ออับราฮัม
  • 26:40 แต่ถ้าเขาทั้งหลายจะสารภาพความชั่วช้าของพวกเขา และความชั่วช้าของบรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย ซึ่งพวกเขากระทำการละเมิดต่อเรา ด้วยการละเมิดของเขาทั้งหลายนั้น และที่พวกเขาได้ดำเนินขัดแย้งต่อเราด้วย
  • 26:41 และที่เราได้ดำเนินขัดแย้งต่อเขาทั้งหลายด้วย และได้นำพวกเขาเข้ามาในแผ่นดินแห่งบรรดาศัตรูของเขาทั้งหลาย ดังนั้นถ้าจิตใจที่ไม่ได้เข้าสุหนัตของพวกเขาถ่อมลงแล้ว และจากนั้นเขาทั้งหลายยอมรับโทษเพราะความชั่วช้าของพวกเขาแล้ว
  • 26:42 ดังนั้น เราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่อยาโคบ และพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่ออิสอัค และพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่ออับราฮัมด้วย และเราจะระลึกถึงแผ่นดินนั้น
  • 26:43 แผ่นดินจะต้องถูกละไว้จากเขาทั้งหลายด้วย และจะได้ชื่นชมกับสะบาโตเหล่านั้นของมัน ขณะที่มันยังว่างเปล่าอยู่โดยไม่มีพวกเขา และเขาทั้งหลายจะยอมรับโทษเพราะความชั่วช้าของพวกเขา เพราะว่า เหตุเพราะเขาทั้งหลายได้ดูหมิ่นคำตัดสินต่าง ๆ ของเรา และเพราะจิตใจของพวกเขาเกลียดชังกฎเกณฑ์ทั้งหลายของเรา
  • 26:44 และถึงอย่างนั้นก็ดี เมื่อเขาทั้งหลายอยู่ในแผ่นดินแห่งบรรดาศัตรูของพวกเขา เราจะไม่ละทิ้งเขาทั้งหลายเสีย ทั้งเราจะไม่เกลียดชังพวกเขาเพื่อทำลายเขาทั้งหลายเสียให้หมดทีเดียว และเพื่อทำลายพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่อพวกเขาเสีย เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาทั้งหลาย
  • 26:45 แต่เพราะเห็นแก่เขาทั้งหลายเราจะระลึกถึงพันธสัญญาซึ่งมีต่อบรรพบุรุษของพวกเขา ผู้ซึ่งเราได้นำออกมาจากแผ่นดินแห่งอียิปต์ต่อสายตาของบรรดาประชาชาติ เพื่อเราจะได้เป็นพระเจ้าของเขาทั้งหลาย เราคือพระเยโฮวาห์”
  • 26:46 สิ่งเหล่านี้เป็นกฎเกณฑ์ทั้งหลาย คำตัดสินทั้งปวง และพระราชบัญญัติทั้งสิ้น ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงกระทำไว้ระหว่างพระองค์กับชนชาติอิสราเอลบนภูเขาซีนายโดยมือของโมเสส

27[แก้ไข]

พระราชบัญญัติเรื่องการปฏิญาณ
  • 27:1 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า
  • 27:2 “จงพูดกับชนชาติอิสราเอลและกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า เมื่อผู้ใดจะปฏิญาณบนตัวไว้ บุคคลที่ปฏิญาณไว้นั้นจะเป็นของพระเยโฮวาห์ ตามการประเมินราคาของเจ้า
  • 27:3 และเจ้าจงประเมินราคาของผู้ชายอายุตั้งแต่ยี่สิบปีถึงหกสิบปี คือเจ้าจงประเมินราคาให้เป็นเงินห้าสิบเชเขลตามเชเขลของสถานบริสุทธิ์
  • 27:4 ถ้าผู้นั้นเป็นผู้หญิง เจ้าจงประเมินราคาให้เป็นเงินสามสิบเชเขล
  • 27:5 และถ้าผู้นั้นอายุห้าขวบถึงยี่สิบปี ดังนั้น สำหรับผู้ชายเจ้าจงประเมินราคาให้เป็นเงินยี่สิบเชเขล และสำหรับผู้หญิงให้เป็นเงินสิบเชเขล
  • 27:6 และถ้าผู้นั้นอายุหนึ่งเดือนถึงห้าขวบ ดังนั้น สำหรับผู้ชายเจ้าจงประเมินราคาให้เป็นเงินห้าเชเขล และสำหรับผู้หญิงเจ้าจงประเมินราคาให้เป็นเงินสามเชเขล
  • 27:7 และถ้าผู้นั้นอายุตั้งแต่หกสิบปีขึ้นไป ถ้าเป็นผู้ชายดังนั้นเจ้าจงประเมินราคาให้เป็นเงินสิบห้าเชเขล และสำหรับผู้หญิงให้เป็นเงินสิบเชเขล
  • 27:8 แต่ถ้าผู้นั้นยากจนกว่าการประเมินราคาของเจ้า ดังนั้น จงให้เขาปรากฏตัวต่อหน้าปุโรหิต และจงให้ปุโรหิตประเมินราคาของเขา ปุโรหิตจะประเมินราคาของผู้ที่ปฏิญาณตามความสามารถของคนนั้น
  • 27:9 และถ้าของถวายนั้นเป็นสัตว์อย่างที่มนุษย์นำมาถวายเป็นเครื่องบูชาแด่พระเยโฮวาห์ ทุกสิ่งที่มนุษย์ถวายแด่พระเยโฮวาห์จากของดังกล่าวนั้น จงถือว่าเป็นของบริสุทธิ์
  • 27:10 อย่าให้เขานำอะไรมาแทนหรือแลกเปลี่ยนไป เอาของดีมาเปลี่ยนของไม่ดี หรือเอาของไม่ดีมาเปลี่ยนของดี และถ้าเขาจะทำการเปลี่ยนสัตว์แทนสัตว์ ดังนั้นทั้งตัวที่นำมาเปลี่ยนและตัวที่ถูกเปลี่ยน จงถือว่าเป็นของบริสุทธิ์
  • 27:11 และถ้าสัตว์ใด ๆ ซึ่งพวกเขานำมาถวายเป็นเครื่องบูชาแด่พระเยโฮวาห์นั้นเป็นมลทิน ดังนั้น จงให้ผู้นั้นนำสัตว์ตัวนั้นมาต่อหน้าปุโรหิต
  • 27:12 และปุโรหิตจะประเมินราคาให้ ไม่ว่าเป็นของดีหรือของไม่ดี เจ้าผู้ซึ่งเป็นปุโรหิตประเมินราคาเท่าใดก็จงให้เป็นเท่านั้น
  • 27:13 แต่ถ้าเขาอยากจะมาไถ่สัตว์ตัวนั้น ดังนั้น จงให้เขาเพิ่มอีกหนึ่งในห้าของราคาที่เจ้าประเมินไว้
  • 27:14 และเมื่อคนใดจะถวายบ้านของตนไว้เป็นของบริสุทธิ์แด่พระเยโฮวาห์ ดังนั้นปุโรหิตจะต้องประเมินราคาของบ้านนั้น ไม่ว่าของดีหรือของไม่ดี ปุโรหิตประเมินราคาเท่าใดก็จงให้เป็นเท่านั้น
  • 27:15 และถ้าผู้ที่ถวายบ้านไว้อยากจะไถ่บ้านของเขา ดังนั้น จงให้ผู้นั้นเพิ่มเงินอีกหนึ่งในห้าของราคาที่เจ้าประเมินไว้ และบ้านนั้นจะเป็นของเขาได้
  • 27:16 และถ้าผู้ใดถวายไร่นาส่วนหนึ่งแด่พระเยโฮวา ห์ซึ่งเป็นที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตน ดังนั้น จงให้เจ้าประเมินราคาของไร่นาตามจำนวนเมล็ดพืชที่หว่านลงในไร่นานั้น ถ้าไร่นาใช้เมล็ดข้าวบาร์เลย์หนึ่งโฮเมอร์ จงให้ประเมินราคาเป็นเงินห้าสิบเชเขล
  • 27:17 ถ้าเขาถวายไร่นาของตนในปีแห่งการเฉลิมฉลอง ก็จงคงไว้ตามราคาที่เจ้าประเมิน
  • 27:18 แต่ถ้าเขาถวายไร่นาของตนภายหลังปีแห่งการเฉลิมฉลอง ดังนั้น จงให้ปุโรหิตคำนวณเงินให้แก่เขาตามจำนวนปีที่เหลืออยู่ จนกว่าจะถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง และจงให้หักเสียจากราคาที่เจ้าประเมินไว้
  • 27:19 และถ้าผู้ที่ถวายไร่นาอยากจะไถ่ไร่นานั้น ดังนั้น จงให้ผู้นั้นเพิ่มเงินอีกหนึ่งในห้าของราคาที่เจ้าประเมินไว้ และไร่นานั้นจะเป็นของเขาอย่างแน่นอน
  • 27:20 และถ้าเขาไม่อยากที่จะไถ่ไร่นา หรือถ้าเขาได้ขายไร่นานั้นให้แก่อีกคนหนึ่งแล้ว อย่าให้ไถ่ไร่นานั้นอีกเลย
  • 27:21 แต่ไร่นานั้นเมื่อออกไปในปีแห่งการเฉลิมฉลอง จงถือว่าเป็นของบริสุทธิ์ถวายแด่พระเยโฮวาห์ เหมือนไร่นาที่ได้มอบถวายแล้ว ไร่นานั้นจะเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกปุโรหิต
  • 27:22 และถ้าคนใดซื้อไร่นามาถวายแด่พระเยโฮวาห์ ซึ่งไม่ใช่ส่วนหนึ่งของที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเขา
  • 27:23 ดังนั้น จงให้ปุโรหิตคำนวณมูลค่าไร่นาของเขาตามที่เจ้าประเมินราคาไว้นับจนถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง และในวันนั้นเขาจะต้องถวายเงินตามจำนวนที่เจ้าประเมินราคาไว้ เหมือนเป็นของบริสุทธิ์ถวายแด่พระเยโฮวาห์
  • 27:24 ในปีแห่งการเฉลิมฉลอง ไร่นานั้นจะต้องกลับไปเป็นของผู้ที่ขายที่ดินนั้น คือแก่ผู้ซึ่งที่ดินนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา
  • 27:25 และการประเมินราคาทุกอย่างของเจ้าจะต้องเป็นไปตามเชเขลของสถานบริสุทธิ์ คือยี่สิบเกราห์จะเป็นหนึ่งเชเขล
จงอย่าขายลูกสัตว์หัวปีและสิ่งของที่ถวายแล้ว
  • 27:26 เฉพาะลูกสัตว์หัวปีเหล่านั้น ซึ่งจะเป็นลูกสัตว์หัวปีถวายแด่พระเยโฮวาห์ อย่าให้ผู้ใดนำมาถวาย ไม่ว่าวัวตัวผู้หรือแกะก็ตาม ลูกสัตว์หัวปีนั้นเป็นของพระเยโฮวาห์
  • 27:27 และถ้าเป็นสัตว์มลทิน ดังนั้น จงให้เขาไถ่มันตามราคาที่เจ้าประเมินไว้ และจงเพิ่มหนึ่งในห้าของราคาที่เจ้าประเมินไว้นั้น หรือถ้าไม่ไถ่มันไว้ ดังนั้นจงขายเสียตามราคาที่เจ้าประเมินไว้
  • 27:28 อย่างไรก็ตามสิ่งใดที่ได้มอบถวายแล้ว ซึ่งมนุษย์ได้มอบถวายแด่พระเยโฮวาห์จากสิ่งทั้งปวงที่เขามีอยู่ ทั้งคนหรือสัตว์ และไร่นาที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเขา อย่าขายหรือไถ่เลย เพราะทุกสิ่งที่ได้มอบถวายแล้วเป็นของบริสุทธิ์ที่สุดแด่พระเยโฮวาห์
  • 27:29 สิ่งใดที่มนุษย์จะมอบถวายนั้น ซึ่งได้มอบถวายแล้ว จะไถ่คืนไม่ได้ แต่จะต้องถูกฆ่าเสียอย่างแน่นอน
สิบชักหนึ่งทั้งหมดเป็นของพระเยโฮวาห์
  • 27:30 และสิบชักหนึ่งทั้งหมดที่ได้จากแผ่นดิน ไม่ว่าเป็นพืชที่ได้จากแผ่นดิน หรือผลไม้จากต้นไม้ ก็เป็นของพระเยโฮวาห์ เป็นของบริสุทธิ์แด่พระเยโฮวาห์
  • 27:31 และถ้าคนใดอยากจะไถ่สิบชักหนึ่งส่วนหนึ่งส่วนใดของเขา เขาจะต้องเพิ่มอีกหนึ่งในห้าของส่วนนั้น
  • 27:32 และเกี่ยวกับเรื่องสิบชักหนึ่งที่ได้มาจากฝูงวัว หรือมาจากฝูงแพะแกะ คือสัตว์ใด ๆ ที่ลอดใต้ไม้เท้า สิบชักหนึ่งนั้นจะเป็นของบริสุทธิ์แด่พระเยโฮวาห์
  • 27:33 อย่าให้เขาสืบเสาะหาว่าของดีหรือของไม่ดี ทั้งอย่าให้เขาเปลี่ยนสัตว์ตัวนั้น ถ้าเขาเปลี่ยนสัตว์ตัวนั้นแล้ว ดังนั้นทั้งตัวที่นำมาเปลี่ยนกับตัวที่ถูกเปลี่ยนจะเป็นของบริสุทธิ์ สัตว์นั้นจะไถ่คืนไม่ได้”
  • 27:34 สิ่งเหล่านี้เป็นบรรดาพระบัญญัติที่พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาไว้กับโมเสสสำหรับชนชาติอิสราเอลบนภูเขาซีนาย


บทที่: 1· 2· 3· 4· 5· 6· 7· 8· 9· 10·
11· 12· 13· 14· 15· 16· 17· 18· 19· 20·
21· 22· 23· 24· 25· 26· 27·

อ้างอิง[แก้ไข]

ดูเพิ่ม[แก้ไข]