รัฐธรรมนูญบริติช/ผู้วายชนม์
- พระยารามราชเดช (ม.ร.ว.ปาล นพวงศ์)
- ถ่ายเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๑
พระยารามราชเดช (ม.ร.ว.ปาล นพวงศ์ ณ อยุธยา) เกิดเมื่อวันที่ ๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๑๙ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๕ ปีชวด จุลศักราช ๑๒๓๘ ที่บ้านตำบลบางลำภูบน อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร เป็นบุตรชายคนที่ ๕ ของหม่อมเจ้าถนอม นพวงศ์ ซึ่งเป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส (พระองค์เจ้านพวงศ์ วรองค์เอกอรรคมหามกุฎ ปรมุตราโชรส) ซึ่งเป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๑ ในพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และหม่อมสาย มารดา
เมื่อเยาว์วัย พระยารามราชเดชได้รับการศึกษาและอบรมเป็นอย่างดี นอกจากการศึกษาอบรมจากครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นการฉะเพาะตัวแล้ว เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง "โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ" ขึ้นในพระบรมมหาราชวัง เพื่อใช้เป็นโรงเรียนสำหรับฝึกหัดราชการทั่วไป และรับสมัครฉะเพาะผู้ที่เป็นเชื้อพระวงศ์และบุตรหลานข้าราชการนั้น พระยารามราชเดชก็ได้เข้าศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๔ ด้วย ได้ศึกษาวิชาภาษาไทยอยู่ที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ๓ ปี สอบไล่ได้ประกาศนียบัตรประโยค ๒ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๗ และในปีเดียวกันนี้ ก็ได้ลาออกจากโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบไปเข้าโรงเรียนสวนกุหลาบซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีการสอนภาษาอังกฤษในสมัยนั้น เพื่อหาความรู้ทางภาษาต่างประเทศต่อไป ได้ศึกษาที่โรงเรียนสวนกุหลาบอยู่ ๒ ปี สอบไล่ได้ประกาศนียบัตรชั้น ๒
พระยารามราชเดชได้ยุตติการศึกษาวิชาสามัญเมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบแล้ว เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๑ ได้เข้ารับราชการสนองพระเดชพระคุณในตำแหน่งผู้ตรวจการมณฑลกรุงเก่า รับพระราชทานเงินเดือน ๆ ละ ๕๐ บาทเป็นเบื้องต้น ด้วยความอุตสาหะวิริยะในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี รุ่งขึ้น พ.ศ. ๒๔๔๒ ก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นแพ่งเมืองกรุงเก่า (ตำแหน่งอัยยการผู้ช่วยในปัจจุบัน) รับพระราชทานเงินเดือน ๆ ละ ๘๐ บาท ครั้นต่อมา วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๔๔๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรให้เป็นหลวงอารีราชการัณย์ ดำรงตำแหน่งยกบัตรเมืองกรุงเก่า (ตำแหน่งอัยยการจังหวัดในปัจจุบัน) รับพระราชทานเงินเดือน ๆ ละ ๑๐๐ บาท ใน พ.ศ. ๒๔๔๔ ได้ย้ายไปเป็นยกบัตรเมืองสิงห์บุรี รับพระราชทานเงินเดือน ๆ ละ ๑๒๐ บาท
การไปรับราชการที่จังหวัดสิงห์บุรีของพระยารามราชเดชครั้งนั้น ประจวบกับสมเด็จพระบรมราชินีนารถในรัชชกาลที่ ๕ ได้ทรงพระดำริที่จะเสด็จไปเยี่ยมอาณาประชาราษฎรในจังหวัดนี้ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีเห็นว่า พระยารามราชเดชเป็นผู้มีความปรีชาสามารถในเรื่องนี้เป็นพิเศษ จึงได้มอบหมายหน้าที่ให้เป็นหัวหน้าจัดทำแพประทับแรมขึ้นรับเสด็จ งานนี้เป็นงานใหญ่และสำคัญ ซึ่งต้องใช้แรงงานและสิ่งก่อสร้างมาก พระยารามราชเดชก็สามารถดำเนินการจัดสร้างได้สำเร็จเรียบร้อยทันตามความประสงค์ของทางราชการ โดยใช้เวลาถึง ๓ เดือนเศษ
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๒ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริเห็นสมควรตั้งสำนักฝึกหัดวิชาข้าราชการพลเรือนเพื่อเข้ารับราชการฝ่ายปกครองขึ้นในกระทรวงมหาดไทย จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จัดตั้งสถานศึกษานี้ขึ้น ณ ศาลาลูกขุนฝ่ายซ้ายในพระบรมมหาราชวัง โดยมีพระราชประสงค์ที่จะจัดการปกครองให้ทันสมัย เพราะได้รวมหัวเมืองซึ่งแยกย้ายสังกัดอยู่ในกระทรวงต่าง ๆ ตามความสะดวกในสมัยเดิมให้มาสังกัดอยู่ในกระทรวงมหาดไทยกระทรวงเดียว และได้ทรงจัดระเบียบการปกครองให้เป็นระเบียบแบบแผนอย่างเดียวกัน การจัดสอนวิชาการปกครองนอกจากที่กล่าวแล้ว ยังได้จัดตั้งโรงเรียนการปกครองเป็นเอกเทศขึ้นในหัวเมืองบางมณฑล เช่น มณฑลกรุงเก่าและปราจีณบุรี ในโอกาสอันสำคัญนี้ แม้พระยารามราชเดชจะได้รับราชการมีตำแหน่งหน้าที่แล้ว ก็ยังได้เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนการปกครองที่มณฑลกรุงเก่าใน พ.ศ. ๒๔๔๕ อีกด้วย พระยารามราชเดชศึกษาอยู่ ๒ ปี ก็สอบไล่ได้ประกาศนีย์บัตร ซึ่งนับว่า พระยารามราชเดชได้รับการศึกษาและอบรมทั้งในทางกฎหมายและการปกครอง พระยารามราชเดชจึงเป็นนักปกครองที่ดีผู้หนึ่ง
เมื่อพระยารามราชเดชสำเร็จการศึกษาวิชาการปกครองที่มณฑลกรุงเก่าแล้ว พระยารามราชเดชก็ยังคงรับราชการในตำแหน่งยกบัตรต่อมาเป็นลำดับดังต่อไปนี้
หน้า:รัฐธรรมนูญบริติช (ดิเรก ชัยนาม, 2490).pdf/9หน้า:รัฐธรรมนูญบริติช (ดิเรก ชัยนาม, 2490).pdf/10หน้า:รัฐธรรมนูญบริติช (ดิเรก ชัยนาม, 2490).pdf/11หน้า:รัฐธรรมนูญบริติช (ดิเรก ชัยนาม, 2490).pdf/12
- พระยารามราชเดช (ม.ร.ว.ปาล นพวงศ์)
- ถ่ายเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๑