หน้า:อธิบายเบ็ดเตล็ดฯ พงศาวดารฯ - ดำรง - ๒๔๖๙.pdf/46

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๖

เปนพวกดองเฮนริกเปนอันมาก ดองเฮนริกแต่งเรือไปเที่ยวตามเมืองต่างประเทศโดยอาการดังกล่าวมาคราวละ ๒ ลำบ้าง ๓ ลำบ้างทุก ๆ ปี ตั้งแต่ดองเฮนริกได้เริ่มทำการมาตลอดเวลา ๔๐ ปี ตรวจทางทเลตามฝั่งอาฟริกาลงมาได้เพียงแหลมเวอเด ด้วยการที่ใช้ใบในมหาสมุทร์แอตแลนติกต้องฝ่าคลื่นฝืนลม เรือที่มีใช้อยู่ในเวลานั้นลงมาได้ด้วยยาก ดองเฮนริกสิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. ๒๐๐๓ เพราะการที่ดองเฮนริกทำเพราะกลายเปนการสำคัญของโปจุเกต ทั้งที่ได้ทรัพย์แลได้อำนาจดังที่กล่าวมาแล้ว พระเจ้าแผ่นดินโปจุเกตจึงจัดเอาเปนราชการแผ่นดินต่อมา

ถึง พ.ศ. ๒๐๒๙ ในรัชกาลพระเจ้าดองยวงที่ ๒ ครองประเทศโปจุเกต พระเจ้าดองยวงแต่งให้บาโทโลมิวเดอดายส์คุมเรือกำปั่น ๒ ลำแล่นมาตรวจทาง บาโทโลมิวเดอดายส์แล่นก้าวในมหาสมุทร์แอตแลนติกหลงเลยมาได้ถึงแหลมอาฟริกาใต้ที่เรียกว่า แหลมกุ๊ดโฮ๊บ ในบัดนี้ ได้ความรู้ว่า ได้พบทางที่จะมาอินเดียเปนแน่แล้ว บาโทโลมิวเดอดายส์จะแล่นเรือเลยมาอินเดีย แต่พวกลูกเรือถูกลำบากกรากกรำเสียช้านาน ไม่ยอมแล่นต่อมาอีก จึงจำต้องกลับไปเมืองโปจุเกต

ต่อมา มีฝรั่งชาวเยนัวคนหนึ่งชื่อ คฤสโตเฟอโคลัมบัส ได้ไปเดิรเรืออยู่กับโปจุเกตหลายปี ไปได้ความที่เกาะมะไดราซึ่งอยู่ในมหาสมุทร์แอตแลนติกใกล้ฝั่งอาฟริกาว่า มีไม้คลื่นซัดมาในมหาสมุทร์จากทางทิศตวันตกมาติดเกาะนั้น ไม้มีรอยคนแกะเปนลวดลาย จึงเกิดความคิดเห็นว่า แผ่นดินอินเดียที่โปจุเกตค้นหาทางไปอยู่นั้นจะเปนแผ่นดิน