หน้า:อธิบายเบ็ดเตล็ดฯ พงศาวดารฯ - ดำรง - ๒๔๖๙.pdf/58

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๘

เคอเคก็จะขึ้นไปหาเจ้าเมือง ข้างเมืองมะละก็ให้มาบอกว่า จะยอมเปนไมตรี แลจะส่งพวกโปจุเกตคืนให้ แต่ขอให้อัลบูเคอเคขึ้นไปทำทางไมตรีเสียก่อน อัลบูเคอเคคอยอยู่ เห็นการไม่ตกลงกัน ก็ยกกำลังขึ้นตีเมืองมละกา ได้รบพุ่งกันถึงตลุมบอน ชาวมละกาสู้ไม่ได้ ต้องถอยออกไปนอกเมือง พวกโปจุเกตเผาเมืองมละกาเสีย แล้วก็ถอยกลับลงเรือ พวกชาวมละกาก็กลับเข้ามาตั้งค่ายอยู่ในเมืองอีก ในเวลานั้นมีสำเภาจีนมาค้าขายอยู่ที่เมืองมละกาประมาณ ๑๐๐ ลำ สำเภาจีนจะกลับไปเมือง อัลบูเคอเคจึงให้โปจุเกตคน ๑ ชื่อ เฟอนันเด ถือหนังสือโดยสานเรือสำเภาจีนเข้ามากรุงศรีอยุธยาขอเปนไมตรีไปค้าขายกับไทย ด้วยได้ทราบว่า เมืองมละกาเปนเมืองขึ้นของไทยมาแต่ก่อน

อัลบูเคอเคมาตระเตรียมการอยู่ที่เรือ พอพร้อมเสร็จก็คุมกำลังขึ้นตีเมืองมละกาครั้งที่ ๒ ในเดือนสิงหาคม คราวนี้รบพุ่งกันเปนสามารถ พวกเจ้าเมืองมละกาสู้โปจุเกตไม่ได้ก็แตกหนี เมืองมละกาจึงได้อยู่ในอำนาจโปจุเกตแต่นั้นมา

เมื่อโปจุเกตได้เมืองมละกาไว้เปนที่มั่นแล้ว ถึงปีขาล จุลศักราช ๘๘๐ พ.ศ. ๒๐๖๑ พระเจ้ามานูเอลพระเจ้าแผ่นดินโปจุเกตจึงแต่งให้ดวดเตโคเอลโลเปนราชทูตเข้ามาทำสัญญามีทางพระราชไมตรีกับสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ ณกรุงศรีอยุธยาในคราว ๆ เดียวกับไปทำทางพระราชไมตรีกับพระเจ้าหงสาวดี ตามจดหมายของโปจุเกตว่า พระเจ้ากรุงศรีอยุธยาทรงยินดีรับเปนไมตรีกับโปจุเกต พระราชทานอนุญาตให้โปจุเกตตั้งห้างไปมาค้าขายที่กรุงศรีอยุธยาแลที่เมืองปัตตานีได้ตาม