หน้า:ไทยสถาปนากษัตริย์เขมร - สนร - ๒๕๐๕.pdf/119

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๐๑

ชั้นใน เพราะจะต้องรอฟังความคิดขององค์พระนโรดมพรหมบริรักษามหาอุปราชดูก่อน การที่จะบังคับออกไปเมืองอุดงมีไชยนั้น จะช้าไปหลายวัน ขอให้เธอกับพระยาพระเขมรในเมืองอุดงมีไชยคิดกับพระศรีเสนา จมื่นราชามาตย์ และพระพลเมืองพระตะบอง เกลี้ยกล่อมพวกเขมรที่มาล้อมเมืองอยู่นั้นให้สงบรอฟังบังคับแต่กรุงเทพฯ ต่อภายหลังครั้งนี้ ข่าวพึงมาถึงในวันเดียวก่อน แต่เวลาเขียนจดหมายมานี้ คิดอ่านการให้ทั่วถึงรอบคอบไม่ทัน ขอผัดต่อไปอีกคราวหนึ่งไม่ช้านักดอก วัตถากับศิริวงศ์นั้น ได้ยินว่า เข้ามากลางทางเกือบจะถึงกรุงเทพฯ อยู่แล้ว ถ้ามาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ก็จะไล่เลียงไต่ถามดี ๆ ไม่จิดจำทำโทษดอก เมื่ออยู่ที่เมืองพระตะบองนั้น ฯข้าฯ ก็ได้ให้เสื้อผ้านุ่งผ้าห่มไปแจกให้ แลได้ให้เงินไป ๒ ชั่งให้ซื้อกิน ไม่ได้ขู่เข็ญอะไรดอก แต่วัตถาคนนี้ ฯข้าฯ รังเกียจแต่ที่สูบฝิ่นนั้นแล เป็นข้อใหญ่ทีเดียว ตัวเธอนั้นไม่มีที่รังเกียจด้วยการสุรายาฝิ่นแลข่าวร้ายต่าง ๆ ดังว่าแล้ว ในจดหมายของ ฯข้าฯ ที่ให้พระศรีเสนาถือไปให้เธอนั้นแล้ว เดี๋ยวนี้วิตกอยู่ตัวเธอกับองค์พระนโรดมผู้พี่นั้นจะสนิทกันอยู่จริง ๆ หรือจะมีความขุ่นข้องหมองหมางกันอยู่ในใจในทีในการลูกเมียอย่างไร ก็ยังไม่แน่ใจเลย เพราะเป็นการไกลหูไกลตา ไม่รู้อะไรด้วยเลย สงสัยอยู่ที่จงกลนีนั้น[1] ได้ยินว่า เป็นเมียเธอแล้ว โกรธกันหรือ จึงตามพี่ชายมา ทิ้งเธอเสีย แลได้ยินมาแต่ก่อนว่า เจ้าหญิงใหญ่ไม่ชอบกับองค์พระนโรดมมาแต่เมื่อบิดายังอยู่ ครั้นบิดาถึงพิราลัยแล้ว ไม่อยู่ในวังนั้น มาอยู่กับเธอ การนี้ก็เป็นการในเย่าเรือนของเธอดอก ไม่ควรเลยที่ ฯข้าฯ จะพักถาม ซึ่งว่าทั้งนี้ด้วยจะชี้เหตุที่เป็นต้นเดิมความวิตกของ ฯข้าฯ ว่า เธอกับองค์พระนโรดมนั้นจะขุ่นข้องหมองมัวกันอยู่


  1. พระธิดาของสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี