นิทานอีสป/นิทานที่ 32
หนูตัวหนึ่งเที่ยวหากินอยู่ตามท้องนา ไปพบกบตัวหนึ่งที่ริมหนอง ไปคุ้นเคยชอบพอกันขึ้น ทั้งสองสัตว์ต่างสัญญาว่า จะเป็นเกลอกันต่อไป แต่นั้นมา ก็ไปเที่ยวหากินด้วยกันทุก ๆ เวลาเช้าเวลาเย็น อยู่มาวันหนึ่ง กบพูดแก่หนูว่า "นี่แน่ะ เจ้าเพื่อนยาก เอ็งกับข้าก็ได้ชอบรักสนิทสนมกันแล้ว ข้าก็เห็นใจเอ็งแล้วว่า เป็นผู้ที่ควรคบได้ แต่มีข้อรำคาญอยู่อย่างหนึ่งที่เอ็งกับข้าจะไปเที่ยวหากินไกล ๆ ด้วยกันไม่ใคร่สะดวก เพราะข้าเป็นสัตว์เดินช้า เอ็งเป็นสตว์เดินเร็ว มักจะตามเอ็งไม่ใคร่ทัน" หนูจึงถามว่า "จะทำอย่างไรจึงจะไปด้วยกันได้" กบจึงว่า "อย่าเลย เอ็งกับข้ามาผูกตีนติดกันเสียเถิด เพื่อไปไหนจะได้ไปพร้อม ๆ กัน ไม่ต้องพลัดพรากจากกัน" หนูเห็นดีด้วยก็ยอมใหกบผูกตีนของตัวติดกับตีนกบ แล้วก็พากันไปเที่ยวหากินห่างออกไปกว่าที่เคยมาแล้ว ครั้นไปพบบึงใหญ่ขวางหน้าอยู่ น้ำในบึงนั้นใสเย็นน่าอาบน่าว่ายเล่น ฝ่ายข้างกบมีความเบิกบานใจ ไม่ทันนึกถึงที่ตัวผูกตีนติดอยู่กับหนู ก็กระโดดลงไปแหวกว่ายดำเล่นเพลินอยู่ ส่วนหนูซึ่งเป็นสัตว์บกไม่ชำนาญในการว่ายนา เมื่อต้องลงไปลอยคอตะเกียกตะกายอยู่ในบึง เพราะเชือกผูกติดอยู่กับเพื่อนเช่นนั้น ไม่ช้าก็อ่อนกำลังลง เลยขาดใจตายลอดน้ำอยู่ ในขณะนั้น มีเหยี่ยวตัวหนึ่งเที่ยวบินร่อนหาอาหารกินอยู่ตามแถบนนั้น ครั้นแลลงมาเห็นหนูตายลอยน้ำ ก็ถาลงมาโฉบเอาไปกิน กบที่กำลังดำงน้ำเล่นเพลินอยู่ ก็พลอยติดเชือกขึ้นไปเป็นเหยื่อของเหยี่ยวด้วยอีกตัวหนึ่ง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การที่เห็นแต่แก่ความสนุกเพลิดเพลินของตัวเองฝ่ายเดียว ไม่นึกถึงความทุกข์ของผู้อื่นบ้าง ย่อมกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ตนได้