ประชุมกาพย์เห่เรือ (2460)/บทเห่ 4
ไปยังการนำทาง
ไปยังการค้นหา
ดูฉบับอื่นของงานนี้ที่ กาพย์เห่เรือ (รัชกาลที่ 6)
สารบัญ
- กาพย์ห่อโคลง
- ปางเสด็จประเวศห้วง ชลธี
- ล่องลอยในน่านน้ำ เจ้าพญา
- แล่นเรือมาแช่มช้า ตามกระแส
- ฝูงปลาดาดาษท้อง ทเลหลวง
- สีชังชังชื่อแล้ว อย่าชัง
- รอนรอนอ่อนอกโอ้ อัษฎงคต์
- เข้าต้มอมรสเปรี้ยว เค็มปน
- เงียบเหงาเปล่าอกโอ้ อกครวญ
- แถลงปางนางแน่งน้อย สีดา
- นึกถึงพระร่วงเจ้า จอมไทย
- โครมโครมคะครึกครื้น ครืนคราน
- ขอชวนกันช่วยเร้า ระดม
พระราชนิพนธ์รัชกาลปัจจุบัน
โคลง | ||
๏ ปางเสด็จประเวศห้วง | ชลธี | |
ทรงมหาจักรี | เกียรติก้อง | |
พรั่งพร้อมยุทธนาวี | แหนแห่ | |
เสียงอธึกทั่วท้อง | ถิ่นด้าวอ่าวสยาม ฯ | |
กาพย์ | ||
๏ พระเสด็จโดยแดนชล | ทรงเรือต้นงามสดศรี | |
มหาจักรีมี | เกียรติก้องท้องสาคร | |
๏ นาวาวรายุทธ | อุตลุดแลสลอน | |
แห่ห้อมจอมนคร | ราวจะรอนริปูเปลือง | |
๏ ธงทิวปลิวระยับ | สีสลับขาวแดงเหลือง | |
อันธงพระทรงเมือง | เหลืองอร่ามดูงามตา | |
๏ ธงตรามหาราช | ผ่องผุดผาดในเวหา | |
รูปครุฑะราชา | อ้าปีกกว้างท่าทางบิน | |
๏ ธงแดงดังแสงชาด | ลายช้างกาจก่องกายิน | |
บอกตรงธงแผ่นดิน | ถิ่นสยามอันงามงอน | |
๏ จักรีนาวีราช | ทิพอาสน์องค์ภูธร | |
สง่าราวอาภรณ์ | เพื่อประดับทัพเรือไทย | |
๏ ใหญ่กว่านาวาสรรพ | ในกองทัพพหลไกร | |
บรรดานาวาไทย | ในบัดนี้ไม่มีทัน | |
๏ ปืนไฟใหญ่ประเภท | สี่นิ้วเศษสุดแขงขัน | |
สามารถอาจเหียนหัน | ผันหน้าสู้สัตรูแรง | |
๏ อีกศรหกปอนด์หนัก | ก็พร้อมพรักศักดิ์กำแหง | |
เตรียมอยู่สู้ศึกแขง | แย้งยื้อยุทธ์สุดกำลัง | |
๏ พาลีรั้งทวีป | รีบแล่นตามงามเงื่อนขลัง | |
เรือปืนยืนยุทธ์ยัง | ดังกระบี่พาลีหาญ | |
๏ เรือแรงกำแหงยุทธ | มกุฎราชะกุมาร | |
คอยสู้ศัตรูพาล | ผู้ยื้อยุดมกุฎไทย | |
๏ สุครีพครองเมืองศรี | สุรนาวีมุ่งชิงไชย | |
เรือปืนยืนยุทธไกร | เหมือนพญาพานะเรนทร์ | |
๏ สุริยมณฑลกล้า | นาวากาจลาดตระเวน | |
หาญต่อบ่รอเกณฑ์ | สอึกสู้ริปูรอญ | |
๏ เรือเสือทยานชล | พิฆาฏพลริปูสยอน | |
กั่นกล้าในสาคร | บ่ย่อหย่อนยุทธนา | |
๏ เรือเสือคำรนสินธุ์ | พิฆาฏภินอริผลา | |
จู่โจมและโถมถา | กล้าประยุทธ์จนสุดแรง | |
๏ อีกเรือตอร์ปิโด | วิ่งโร่รี่ฝีเท้าแขง | |
ว่องไวไล่ย้อนแย้ง | ยักย้ายลอดดอดเอาไชย | |
๏ กระบวนล้วนแล่นล่อง | ไปแทบท้องชลาไลย | |
อธึกดูคึกใจ | จิตจักสู้ศัตรูพาล ฯ | |
โคลง | ||
๏ ล่องลอยในน่านน้ำ | เจ้าพญา | |
จากเทพนครคลา | คลาดเต้า | |
ชมวังสพรั่งปรา | สาทรัตน์ | |
ชมนครเขตรเค้า | เงื่อนแม้นเมืองราม ฯ | |
กาพย์ | ||
๏ ล่องลอยในน่านน้ำ | วิเศษลำเจ้าพญา | |
จากกรุงเทพมหา | นครราชะธานี | |
๏ ค่อยเลื่อนเคลื่อนนาวา | จากน่าท่าวาสุกรี | |
ใช้จักร์ล่องนที | นาวีเรื่อยเฉื่อยตามลม | |
๏ เหลือบแลชะแง้พิศ | ดูดุสิตวนารมย์ | |
เคยเที่ยวลดเลี้ยวชม | ดมบุบผาสารพรรณ | |
๏ ชมวังดังวิมาน | ถิ่นสถานมัฆวัน | |
เพลินพิศไพจิตรสรร | พะงามเนตรวิเศษชม | |
๏ สล้างปรางมหันต์ | อนันตสมาคม | |
อัมพรสถานสม | เปนสถานพิมานอินทร์ | |
๏ สถานวิมานเมฆ | เอกอาสน์โอ่ท้าวโกสินทร์ | |
อภิเศกดุสิตภิญ | โญยศยงองค์ภูบาล | |
๏ ตำหนักสำนักตา | จิตรลดาระโหฐาน | |
ที่พระอวตาร | สำราญรมย์ภิรมยา | |
๏ สะพรั่งวังอนุช | ผู้ทรงสุดเสนหา | |
ปารุสก์สุดเพลินตา | สวนกุหลาบปลาบปลื้มใจ | |
๏ ตำหนักพระชนนี | มีนามว่าพญาไทย | |
อยู่ทางบ่ห่างไกล | ใกล้ดุสิตวนาภา | |
๏ นาวาผ่านนิเวศน์ | พระทรงเดชจอมประชา | |
พินิจพิศเพลินตา | ตระการตรูดูเลิศดี | |
๏ สล้างปรางค์ปราสาท | ประกอบมาศมณีศรี | |
ระยับจับระพี | สีสว่างกลางอัมพร | |
๏ ปราสาทราชะฐาน | อวตารสโมสร | |
ยงยอดสอดสลอน | ยอนยั่วฟ้าน่านิยม | |
๏ จักรีพระที่นั่ง | สามยอดตั้งตรูตาชม | |
สำราญสถานสม | สถิตย์ถิ่นปิ่นนรา | |
๏ ดุสิตปราสาทตั้ง | พระมนงงคะศิลา | |
พิมานรัถยา | อุดมอาสน์ราชะฐาน | |
๏ มณเฑียรเสถียรศักดิ์ | จักรพรรดิพิมาน | |
เคียงใกล้คือไพศาล | ทักษิณที่สุขาลัย | |
๏ ฝ่ายน่าสง่าสิ้น | อมรินทร์วินิจฉัย | |
พระโรงภูวนัย | ธประศาสน์ราชะการ | |
๏ อารามวัดพระศรี | รัตนศาสดาคาร | |
มงคลมหาสถาน | ปูชนีย์ที่นิยม | |
๏ อันกรุงรุ่งเรืองกิตติ์ | ที่สถิตย์พิโรดม | |
เลิศล้วนชวนจิตชม | สมเกียรติ์เลื่องเมืองสยาม | |
๏ ถนนสถลมารค | อีกคลองหลากล้วนแลงาม | |
รุ่งเรืองดังเมืองราม | จักรพรรดิฉัตรสากล ฯ | |
โคลง | ||
๏ แล่นเรือมาแช่มช้า | ตามกระแส | |
แลเหลือบเหลียวหลังแล | ไฝ่บ้าน | |
ใจโยนประหนึ่งแพ | โดนคลื่น | |
ลมเฉื่อยระเรื่อยสร้าน | จิตเศร้าหาศรี ฯ | |
กาพย์ | ||
๏ เรื่อยเรื่อยเรือลอยลำ | ตามสายน้ำถูกกระแส | |
แลเหลือบเหลียวหลังแล | ไฝ่ถึงบ้านสร้านโศกใจ | |
๏ เรือนแพแลสพรั่ง | คลื่นโดนฝั่งก็กวัดไกว | |
แพโยนโยนเหมือนใจ | เรียมผู้ไฝ่ถึงเคหา | |
๏ ผ่านหน้าวัดอรุณ | เคยทำบุญญะบูชา | |
ขอบุญการุญพา | ให้ข้าสมอารมณ์หวัง | |
๏ ขออย่าให้ข้าศึก | ผู้พิลึกกาจกำลัง | |
สามารถอาจภินพัง | พระปรางค์ศรีธานีไทย | |
๏ ผ่านทางบางคอแหลม | ชื่อบางแนมเหน็บดวงใจ | |
แหลมหลักจักหาไหน | เหมือนแหลมคำเจ้าร่ำวอน | |
๏ ปากลัดตัดวิถี | ทางนทีสู่สาคร | |
วานลัดตัดทางจร | ดลสู่เจ้าตัดเศร้าใจ | |
๏ ยามมองช่องนนทรีย์ | เห็นธานีอยู่ไกล ๆ | |
หลังคาเคหาใน | นครยวนชวนจิตผัน | |
๏ เห็นเสาวิทยุเด่น | เปนของเลิศประเสริฐครัน | |
ถนัดอัศจรรย์ | พูดกันได้ไม่มีสาย | |
๏ ดูราวกับสองจิต | มิตร์ต่อมิตร์คิดเหมือนหมาย | |
เหมือนตารักตาชาย | ตาเห็นรักประจักษ์ใจ | |
๏ ผ่านป้อมเสือซ่อนเล็บ | นึกน่าเจ็บดวงหทัย | |
โบราณท่านตั้งไว้ | ให้เล็งเหมาะจำเภาะดี | |
๏ ยิงเป้งเผงกลางน้ำ | ไม่ผิดลำถูกนาวี | |
อนิจจามาบัดนี้ | ป้อมปรักแลหักพัง | |
๏ ผีเสื้อสมุทป้อม | หนึ่งนั้นย่อมดูแขงขลัง | |
ยิงปืนครั่นครืนดัง | คำนับองค์พระทรงศร | |
๏ สมุททะเจดีย์ | บูชะนีย์ประนมกร | |
เอี่ยมโอ่สโมสร | กลางวิมลชลธาร | |
๏ นาวามายั้งหยุด | ยังสมุททะปราการ | |
ดูเมืองรุ่งเรืองร้าน | ตลาดของที่ต้องใจ | |
๏ เรือรอพอเวลา | น้ำขึ้นมามากพอไป | |
ก็เลื่อนเคลื่อนคลาไคล | ไปสู่ท้องทเลลม | |
๏ ลมเฉื่อยเรื่อย ๆ พา | กลิ่นบุบผามารวยรมย์ | |
รื่นรวยราวมวยผม | ที่เคยดมชมชื่นใจ | |
๏ ลมพัดไม่จัดจ้าน | พอประมาณไม่แรงไป | |
เหมือนยามเจ้าทรามไวย | พัดรำเพยเชยฤดี | |
๏ อากาศสอาดโปร่ง | สบายโล่งกลางวารี | |
แต่จิตคิดถึงศรี | จิตจึ่งเหงาเศร้าอาดูร ฯ | |
โคลง | ||
๏ ฝูงปลาดาดาษท้อง | ทเลหลวง | |
ดูชาติมัตสยาปวง | คู่เคล้า | |
ยิ่งดูยิ่งโทรมทรวง | แสนโศก | |
โอ้คะนึงถึงเจ้า | จิตว้าเหว่ถวิล | |
กาพย์ | ||
๏ ฝูงปลาดูดาดาษ | ว่ายเกลื่อนกลาดทเลหลวง | |
ดูชาติมัตสยาปวง | เคียงคู่เคล้าเย้ายวนเชย | |
๏ ยิ่งแลชะแง้พิศ | ยิ่งเศร้าจิตนิจจาเอ๋ย | |
ราวปลามาแสร้งเย้ย | ให้เรียมเศร้าเหงาวิญญา | |
๏ ปลาทูชื่อดูชวน | หวลคำนึงถึงเคหา | |
คำนึงถึงแก้วตา | พธูน้อยผู้กลอยใจ | |
๏ กุเราเย้ายวนจิต | คิดถึงมิตร์ชิดหทัย | |
เราอยู่คู่พิสมัย | เราทั้งสองครองคู่กัน | |
๏ เนื้ออ่อนอ่อนแต่ชื่อ | ฤๅเปรียบเนื้อนางสวรรค์ | |
นวลจันทร์ชื่อนวลจันทร์ | ไม่นวลเท่าเจ้านวลแข | |
๏ กะพงเปรียบพงชัฏ | อันแออัดในดวงแด | |
ห่างเจ้าเฝ้าท้อแท้ | เหมือนบุงพงดงหน่ายหนาม | |
๏ โลมามาว่ายล่อ | พอเห็นได้ใต้น้ำงาม | |
วานมาหานงราม | ทรามสงวนชวนนางมา | |
๏ ตาเดียวลดเลี้ยวลี้ | ก็ยังดีกว่าพี่ยา | |
เริศร้างห่างแก้วตา | สองตาแลแพ้ตาเดียว | |
๏ ฉลาดตะกลามเหลือ | ว่ายตามเรือรวดเร็วเจียว | |
ดูคล้ายชายช่างเกี้ยว | เที่ยวคอยมองหาช่องเชย | |
๏ ฉลามอันหยามหยาบ | เสียทีราบละเจ้าเอ๋ย | |
น้องเราเจ้าคงเฉย | มิให้ชู้ชิงคู่ครอง | |
๏ นางนวลนกทะเล | บินร่อนเร่เหหันมอง | |
นางนวลเปรียบนวลน้อง | นกฤๅเท่าเจ้านวลใย | |
๏ ดูนกแสนฉลาด | เหมือนอากาศะยานไคล | |
ร่อนเร่เหหันไป | เที่ยวตรวจดูหมู่อรี | |
๏ เปรียบปลาเหมือนเรือดำ | เดินใต้น้ำสาครศรี | |
แล่นลอดดอดมาตี | เรือลำใหญ่ได้บางครา | |
๏ นางนวลบินลอยล่อง | มองถนัดมัตสยา | |
ไวเจียวเฉี่ยวโฉบปลา | ไปกินเล่นเปนอาหาร | |
๏ ดูนกฉกโฉบปลา | ก็เหมือนอากาศะยาน | |
สามารถอาจสังหาร | เรือใต้น้ำระยำไป | |
๏ อ้านกวิหคหาญ | เราขอวานบ้างเปนไร | |
ช่วยถือหนังสือไป | ถึงเรือนเจ้าเยาวพา | |
๏ พิราบเขาเลี้ยงไว้ | เขาก็ใช้ถือสารา | |
นางนวลชวนเชิญมา | เปนทูตาถึงนวลเชย | |
๏ กระไรช่างใจดำ | ไม่ฟังคำเราบ้างเลย | |
แดดจ้านิจจาเอ๋ย | เหมือนเพลิงรุมสุมอกกรม | |
๏ คำนึงถึงเจ้าพี่ | ราวไฟจี้จ่ออารมณ์ | |
เริศร้างห่างเหินชม | ว้าเหว่จิตคิดถวิล ฯ | |
โคลง | ||
๏ สีชังชังชื่อแล้ว | อย่าชัง | |
อย่าโกรธพี่จริงจัง | จิตข้อง | |
ตัวไกลจิตก็ยัง | เนาแนบ | |
เสน่ห์สนิทน้อง | นิจโอ้อาดูร ฯ | |
กาพย์ | ||
๏ สีชังชังแต่ชื่อ | เกาะนั้นฤๅจะชังใคร | |
ขอแต่แม่ดวงใจ | อย่าชังชิงพี่จริงจัง | |
๏ ตัวไกลใจพี่อยู่ | เปนคู่น้องครองยืนยัง | |
ห่างเจ้าเฝ้าแลหลัง | ตั้งใจติดมิตร์สมาน | |
๏ บางพระนึกถึงพระ | บูชะนีย์ที่สักการ | |
แต่งตั้งยังสถาน | แทบหัวนอนขอพรครอง | |
๏ ผ่านทางบางปลาสร้อย | จิตละห้อยละเหี่ยหมอง | |
นึกสร้อยสายเชพร์ทอง | คล้องศอเจ้าเย้ากะมล | |
๏ บางนี้บุรีงาม | อันออกนามว่าเมืองชล | |
แลท้องทเลวน | ชลนัยน์ไหลลงธาร | |
๏ อ่างหินนึกอ่างหิน | ที่ยุพินเคยสนาน | |
โอ้ว่ายุพาพาล | จะอ้างว้างริมอ่างหิน | |
๏ เรือผ่านเกาะกระดาษ | แม้สามารถจะพังภิน | |
จะเขียนสาราจิน | ตนาส่งถึงนงเยาว์ | |
๏ ถึงอ่าวพุดซาวัน | ริกริกสั่นสิอกเรา | |
คิดถึงพุดซาเจ้า | เคยเก็บไว้ให้พี่ยา | |
๏ คลุกพริกกับเกลือดี | ไว้ให้พี่จิ้มพุดซา | |
เสร็จงานกลับบ้านมา | พอได้ลิ้มชิมชอบใจ | |
๏ ครั้นถึงทุ่งไก่เตี้ย | ยิ่งละเหี่ยละห้อยไป | |
นึกยามเจ้าทรามไวย | ปรุงแกงไก่ให้พี่กิน | |
๏ เดินผ่านร้านดอกไม้ | ก็ยิ่งไฝ่ใจถวิล | |
เคยชวนโฉมยุพิน | ชมดอกไม้ที่ในสวน | |
๏ เกาะยอเหมือนยอเจ้า | ยุพเยาว์อนงค์นวล | |
แสร้งยอบ่มิควร | เพราะนิ่มเนื้อเหลือเลิศชม | |
๏ เข้าถึงสัตะหีบ | รีบหลบลี้หนีคลื่นลม | |
นึกยามเจ้าทรามชม | จัดผ้าจีบลงหีบน้อย | |
๏ ขบวนเรือประพาศ | ดูดาดาษกลาดเกลื่อนลอย | |
ขึงขังดังหนึ่งคอย | จะต่อสู้ศัตรูผลา | |
๏ จอดห้อมล้อมเปนวง | รอบเรือองค์พระราชา | |
ดูเหมือนเดือนสง่า | อยู่ท่ามกลางหว่างหมู่ดาว | |
๏ ดูพลางทางรำพึง | นิ่งคำนึงถึงเนื้อขาว | |
นึกนึกรู้สึกราว | ไปงานศึกพิลึกใจ | |
๏ แม้มีศึกสงคราม | ถึงสยามในวันใด | |
จำพรากจากทรามไวย | ไปต่อสู้ศัตรูพาล | |
๏ เกิดมาเปนชาวไทย | ต้องทำใจเปนทหาร | |
รักเจ้าเยาวมาลย์ | ก็จำหักรักรีบไป | |
๏ จะยอมให้ไพรี | เหยียบย่ำยีแผ่นดินไทย | |
เช่นนั้นสิจัญไร | ไม่รักชาติศาสนา | |
๏ เพราะรักประจักษ์จริง | จึ่งต้องทิ้งเจ้าแก้วตา | |
จงรักภักดีมา | อาสาต้านราญริปู ฯ | |
โคลง | ||
๏ รอนรอนอ่อนอกโอ้ | อัษฎงคต์ | |
สุริยพระมืดลง | หมดแล้ว | |
ยามมืดชืดเย็นองค์ | วายุพัด | |
ยิ่งตรึกนึกถึงแก้ว | พี่เศร้าทรวงศัลย์ ฯ | |
กาพย์ | ||
๏ รอนรอนอ่อนอัษฎงคต์ | ตวันลงลับเหลี่ยมผา | |
มืดมลสนธยา | พามืดมัวทั่วดวงใจ | |
๏ ชะแง้แลเทือกเขา | เปนเงาเงาอยู่รำไร | |
รำพึงคะนึงไป | ชวนให้นึกถึงตึกราม | |
๏ ตึกแถวเปนแนวข้าง | ถนนทางนครงาม | |
สว่างกระจ่างวาม | ด้วยไฟฟ้าอ่าเอี่ยมแสง | |
๏ อีกตามถนนหลวง | ไฟฟ้าดวงรุ่งเรืองแรง | |
สว่างกระจ่างแจ้ง | แสงสว่างราวกลางวัน | |
๏ ยามเย็นเคยเห็นคน | ขึ้นรถยนตร์ขับอวดกัน | |
นารีที่คมสัน | ต่างขันแขงแต่งยวนชาย | |
๏ ผ้าม่วงสีช่วงโชติ | เหลืองแดงโรจนสีหลากหลาย | |
เสื้อแพรแลดอกลาย | ผ้าแพรห่มล้วนสมสรวย | |
๏ หน้านวลนวลแต่น้อย | แช่มช้อยสมกับผมมวย | |
อาภรณ์ซ้อนแซมด้วย | แวววับวับพอจับตา | |
๏ ดูใครไม่ชื่นจิต | เท่ามิ่งมิตร์วนิดา | |
ดูพลางทางจับตา | ชายตารักชักตาชม | |
๏ ตาดำขำแก้วพี่ | พอสมดีกับสีผม | |
ฟันขาวดูราวชม | แก้วมุกดาน่ายินดี | |
๏ หนังสือฤๅเจ้ารู้ | พอควรอยู่แก่สัตรี | |
ประเสริฐเลิศนารี | เจ้าไม่ทิ้งสิ่งที่ควร | |
๏ กิจการในบ้านช่อง | เจ้าช่ำชองสิ้นทั้งมวล | |
ทุกสิ่งยอดหญิงล้วน | จะขยันหมั่นการงาน | |
๏ ไม่เหมือนหญิงบางคน | สาละวนไม่เข้าการ | |
มัวมุ่งยุ่งแต่งสาร | จนลืมงานการบ้านเรือน | |
๏ สำแดงแต่วิชา | หนังสือบ้าจนแชเชือน | |
ยุ่งนักชักฟั่นเฟือน | ฟุ้งสร้านไปจนไร้ผัว | |
๏ น้องพี่สิฉลาด | แสนสามารถในการครัว | |
ช่างชวนและยวนยั่ว | ให้พี่ชิมลิ้มอาหาร ฯ | |
โคลง | ||
๏ เข้าต้มอมรสเปรี้ยว | เค็มปน | |
เนื้อนกนุ่มระคน | ผักเคล้า | |
ร้อนร้อนตักหลายหน | ห่อนเบื่อ | |
รสหลาก ๆ รสเร้า | เร่งให้ใฝ่กิน ฯ | |
กาพย์ | ||
๏ เข้าต้มอมรสเปรี้ยว | ดีจริงเจียวเปรี้ยวเค็มปน | |
เนื้อนกนุ่มระคน | ปนผักเคล้ารสเข้าที | |
๏ เข้าต้มเนื้อโคกลั้ว | ปนถั่วเขียวกลมเกลียวดี | |
มันเทศวิเศษมี | รสโอชาแสนน่ากิน | |
๏ สาคูเม็ดใหญ่กลม | แทนเข้าต้มสมถวิล | |
รสยวนชวนให้กิน | สิ้นทั้งหมดรสเหลือแหลม | |
๏ ขนมจีบเจ้าช่างทำ | ทั้งน้ำพริกมะมาดแกม | |
มะเฟืองเปนเครื่องแกล้ม | รสเหน็บแนมแช่มชูกัน | |
๏ ขนมเบื้องญวนใหม่ | ประกอบไส้วิเศษสรร | |
ทอดกรอบชอบกินมัน | เคี้ยวกรอบ ๆ ชวนชอบใจ | |
๏ หมูแนมแกมเครื่องเรี่ยม | หอมกระเทียมผักชีใหม่ | |
พริกแดงแซงสอดไว้ | ใบทองหลางวางชิ้นหมู | |
๏ เมี่ยงคำน้ำลายสอ | เมี่ยงสมอเมี่ยงปลาทู | |
เข้าคลุก ๆ ไก่หมู | น้ำพริกกลั้วทั่วโอชา | |
๏ เข้าตังกรอบถนัด | น้ำพริกผัดละเลงทา | |
เข้าตังปิ้งใหม่มา | จิ้มน่าตั้งทั้งเค็มมัน | |
๏ อีกทั้งขนมเบื้อง | เครื่องช่างเคล้าเข้าเหมาะกัน | |
ละเลงเก่งเหลือสรร | ชูโอชาไม่ลาลด | |
๏ แกงไก่ใส่เครื่องถม | คลุกขนมจีนแป้งสด | |
เข้ามันมันแกมรส | ส้มตำเปรี้ยวชวนเคี้ยวกิน | |
๏ ลูกไม้ใส่โถแก้ว | ล้วนเลิศแล้วสมใจจินต์ | |
สารพัดจัดให้กิน | เสมอได้ไม่ขัดขวาง | |
๏ ทั้งหมดรสอาหาร | เปรี้ยวเค็มหวานไม่จืดจาง | |
รสเหมาะเพราะมือนาง | แก้วพี่เคล้าเย้ายวนใจ ฯ | |
โคลง | ||
๏ เงียบเหงาเปล่าอกโอ้ | อกครวญ | |
หยิบสมุดชุดชวน | อ่านบ้าง | |
นอนอ่านอ่านยิ่งหวล | ใจโศก | |
น้องพี่เคยเคียงข้าง | ช่วยชี้ชวนหัว ฯ | |
กาพย์ | ||
๏ เงียบเหงาเปล่าอกหมอง | คิดถึงน้องหมองวิญญา | |
จึ่งหยิบหนังสือมา | แก้รำคาญอ่านเรื่อยไป | |
๏ อ่าน ๆ รำคาญฮือ | แบบหนังสือสมัยใหม่ | |
อย่างเราไม่เข้าใจ | ภาษาไทยเขาไม่เขียน | |
๏ ภาษาสมัยใหม่ | ของถูกใจพวกนักเรียน | |
อ่านนักชักวิงเวียน | เขาช่างเพียรเสียจริงจัง | |
๏ แบบเก๋เขวภาษา | สมมตว่าแบบฝรั่ง | |
อ่านเบื่อเหลือกำลัง | ฟังไม่ได้คลื่นไส้เหลือ | |
๏ อ่านไปไม่ได้เรื่อง | ชักชวนเคืองเครื่องให้เบื่อ | |
แต่งกันแสนฝั้นเฝือ | อย่างภาษาบ้าน้ำลาย | |
๏ โอ้ว่าภาษาไทย | ช่างกระไรจวนฉิบหาย | |
คนไทยไพล่กลับกลาย | เปนโซ๊ดบ้าน่าบัดสี | |
๏ หนังสือฤๅหวังอ่าน | แก้รำคาญได้สักที | |
ยิ่งอ่านดาลฤดี | เลยต้องขว้างกลางสาคร | |
๏ ลองหามาอ่านใหม่ | พะเอินได้เปนบทกลอน | |
สมมตบทลคร | ขึ้นชื่อเสียงเฉวียงไว | |
๏ พุทโธ่โอ้ใจหาย | เราเคราะห์ร้ายนี่กระไร | |
จบหมดบทกลอนไทย | ไม่เปนส่ำระยำมัง | |
๏ ทั้งมวลล้วนเหลวแหลก | ทุกแพนกอนิจจัง | |
เรื่องเปื่อยเลื้อยรุงรัง | ทั้งถ้อยคำซ้ำหยาบคาย | |
๏ กลับหันหาเรื่องดี | ที่เอาไว้ใกล้ ๆ กาย | |
อ่านให้ใจสบาย | หายง่วงเหงาเศร้ากระมล ฯ | |
โคลง | ||
๏ แถลงปางนางแน่งน้อย | สีดา | |
ถูกยักษ์อัประลักษณ์พา | ห่างห้อง | |
พระรามพระโกรธา | ยักษ์โหด | |
พระจึ่งยกพลก้อง | กึกเข้าไปรอญ ฯ | |
กาพย์ | ||
๏ กล่าวปางนางสีดา | ถูกพญาทศศีรษ์ | |
ลักพาไปธานี | จึ่งเกิดศึกพิลึกหาญ | |
๏ เหตุสุรปนขา | บ้ากามาแสนสามาญ | |
มุ่งพระอวตาร | ให้เปนผัวเพื่อตัวครอง | |
๏ เสแสร้งจำแลงกาย | ให้เฉิดฉายนวลลออง | |
ไปเกี้ยวเลี้ยวลดลอง | พรากพธูผู้เคียงกัน | |
๏ พระองค์ผู้ทรงศักดิ์ | ไม่จงรักด้วยกับมัน | |
หญิงชั่วมั่วโมหัน | มันจะพาเสียราศี | |
๏ นางยักษ์เข้าหักหาญ | ราญสีดายอดนารี | |
น้องรักพระจักรี | จึ่งบำราบปราบนางมาร | |
๏ พระตัดจมูกมัน | อีกทั้งฟันหูแหลกลาญ | |
ทาสาแสนสามาญ | ก็รีบรี่หลีกหนีไป | |
๏ ไปชวนทั้งทูษณ์ขร | มาราญรอนภูวนัย | |
ยักษาปราชัย | ไม่ทนพระบารมี | |
๏ เดือดดาลนางมารบ้า | วิ่งไปหาทศศีรษ์ | |
กลอกกลับแสนอัปรี | สาระแนยุแหย่ไป | |
๏ ท้าวยักษ์ได้ฟังความ | เหมือนไฟกามจ่อจี้ใจ | |
ให้คิดพิสมัย | ไฝ่อนงค์องค์สีดา | |
๏ ใช้มารีจจำแลง | แปลงเปนกวางร่างโสภา | |
พอพบประสบตา | สีดาเจ้าเฝ้าถวิล | |
๏ ทูลวอนชอ้อนง้อ | ต่อสมเด็จพระจักริน | |
จนองค์พงษ์นรินทร์ | พระเกรงน้องจะหมองหมาง | |
๏ จับศรสุรพล | เสด็จด้นไปตามกวาง | |
ให้ลักษมณ์พักอยู่พลาง | เปนผู้เฝ้าเจ้าสีดา | |
๏ มารีจครั้นถูกศร | ทำเสียงอ่อนด้วยมารยา | |
เรียกลักษมณ์อนุชา | มาช่วยพี่ที่ในพง | |
๏ ยุพินยินเสียงมัน | ให้สำคัญเคลือบแคลงหลง | |
ใช้ลักษมณ์รีบสู่ดง | ช่วงองค์พระอวตาร | |
๏ ครานั้นทศศีรษ์ | จึ่งได้ทีเหมือนใจพาล | |
เข้ามาหานงคราญ | จำแลงร่างอย่างโยคี | |
๏ กล่าวคำร่ำเกลี้ยกล่อม | นางไม่ยอมฟังวาที | |
พูดไปไม่ไยดี | พิษเพลิงกามยิ่งลามลน | |
๏ ยิ่งขัดยิ่งกลัดกลุ้ม | เข้าโอบอุ้มนฤมล | |
พาล่องฟองเวหน | สู่ลงกาธานีมาร | |
๏ พระรามกลับศาลา | ไม่เห็นหน้ายอดสงสาร | |
องค์พระอวตาร | ก็แสนโศกวิโยคนาง | |
๏ ชวนพระอนุชา | รีบลีลาในเถื่อนทาง | |
เดินพลางแลครวญพลาง | จนประสบพบพานร | |
๏ ช่วยลูกพระอาทิตย์ | รณชิตชิงนคร | |
กำแหงพระแผลงศร | ต้องพาลีชีวีลาน | |
๏ สุครีพจึ่งจัดพล | พร้อมพหลพลทวยหาญ | |
เพื่อพระอวตาร | ผลาญขุนราพณ์ปราบลงกา | |
๏ เกิดศึกพิลึกเดช | ก็เพราะเหตุด้วยสีดา | |
ชิงรักชักชวนพา | ให้ประยุทธ์สุดเริงรณ | |
๏ ยุทธ์แย้งแย่งสีดา | ยังอุส่าห์ยอมเสียชนม์ | |
แย่งดินถิ่นถกล | ฤๅจะห่วงหวงชีวัน ฯ | |
โคลง | ||
๏ นึกถึงพระร่วงเจ้า | จอมไทย | |
แค้นพวกขอมจัญไร | โหดห้าว | |
ทนงคิดจงใจ | กู้ชาติ | |
กระเดื่องเดชะท้าว | ร่วงผู้ผดุงเสียม ฯ | |
กาพย์ | ||
๏ นึกถึงพระร่วงเจ้า | ผู้ผ่านเผ่าประชาไทย | |
ดำรงทรงราชัย | ในละโว้โอ่เอี่ยมงาม | |
๏ คั่งแค้นขอมอัปรี | มันกดขี่ชาวสยาม | |
จะคิดทำสงคราม | ฤๅก็อ่อนหย่อนแรงพล | |
๏ พระจึ่งคิดอุบาย | และยักย้ายด้วยเล่ห์กล | |
เอาเปรียบทุรชน | ด้วยว่องไวใช้ปรีชา | |
๏ จักไม้สานชลอม | รูปกลมกล่อมเอาชันยา | |
จึ่งตักเอาน้ำมา | สำเร็จได้ดังใจจินต์ | |
๏ ความรู้ถึงภูธร | นครขอมจอมนรินทร์ | |
จึ่งใช้ให้โยธิน | กรีธาทัพมาจับตัว | |
๏ พระร่วงแสร้งหลบไป | เดโชไชยคิดว่ากลัว | |
โมหันอันมืดมัว | ไม่เข้าใจในอุบาย | |
๏ เชื่อฤทธิ์อิทธิ์กำแหง | จึ่งปลอมแปลงจำแลงกาย | |
จำนงจงใจหมาย | ไปสังหารผลาญเจ้าไทย | |
๏ ด่วนไปให้ลี้ลับ | ดูราวกับดำดินไป | |
ถึงกรุงสุโขทัย | เข้าสถานลานอาราม | |
๏ พบพระรูปหนึ่งไซร้ | ขอมจัญไรไม่รู้ความ | |
จึ่งไหว้และไต่ถาม | ถึงร่วงเจ้าเธออยู่ไหน | |
๏ พระร่วงภิกษุรู้ | ว่าศัตรูไม่รู้นัย | |
จึ่งตอบประวิงไป | ว่าจงรอพอเธอมา | |
๏ แล้วรีบเรียกโยมวัด | มาจับมัดขอมพาลา | |
เดโชโง่หนักหนา | ก็แพ้พระบารมี | |
๏ ชาวเมืองก็เลื่องฦๅ | เสียงเฮฮือทั้งธานี | |
ไพร่ฟ้าประชาชี | ไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ | |
๏ ชีบาเสนามาตย์ | อภิวาทน์บังคมคัล | |
เชิญทรงดำรงขัณฑ์ | สุโขทัยอันไพศาล | |
๏ พระร่วงรับคำเชิญ | ดำเนินสู่ราชฐาน | |
จึ่งทำภิเศกการ | ขึ้นผ่านเผ้าเปนเจ้าไทย | |
๏ ต่อมาราชาคิด | รณชิตขอมจัญไร | |
กู้แคว้นแดนกรุงไทย | ให้พ้นเอื้อมเงื้อมมือขอม | |
๏ ทุกแคว้นแดนนิคม | ก็นิยมระยอบยอม | |
ทั้งหมดประณตน้อม | นอบพระร่วงปวงพำนัก | |
๏ นึกถึงพระร่วงฤท | ธิมหิทธิ์วิสิฐศักดิ์ | |
นามเพราะดูเหมาะนัก | เปนนามาแห่งนาวี | |
๏ พระร่วงเรือรบหมาย | ไว้ถวายพระภูมี | |
ชื่อดีขอโชคดี | จงประสบเรือรบไทย | |
๏ ยามใดใช้แย่งยุทธ์ | ฤทธิรุทจงเกรียงไกร | |
เหมือนร่วงขุนหลวงไทย | บำราบศึกพิลึกหาญ ฯ | |
โคลง | ||
๏ โครมโครมคะครึกครื้น | ครืนคราน | |
ปืนใหญ่ยิงประหาร | ศึกซ้อม | |
ซ้อมรบเพื่อชำนาญ | เชิงประชิต | |
ยามอริมาห้อม | จักสู้เศิกขลัง ฯ | |
กาพย์ | ||
๏ โครม ๆ เสียงครื้นครึก | เมื่อยากดึกครืนครานดัง | |
ปืนตึงปึงโป้งปัง | ดังสนั่นลั่นสาคร | |
๏ เรือตอร์ปิโดไว | เล็ดลอดไปไม่สยอน | |
วิ่งจี๋รี่ไปรอน | ราญเรือปืนเสียงครืนคราน | |
๏ เรือปืนต่างจอดซุ่ม | เห็นตะคุ่มในท้องธาร | |
รอไว้พอได้การ | จึ่งต้านต่อตอร์ปิโด | |
๏ เรือตอร์ปิโดวิ่ง | รวดเร็วจริงวิ่งอะโข | |
เรือปืน ๆ โต ๆ | ยิงปืนใหญ่มิใคร่ทัน | |
๏ อาไศรยความมืดมล | จึ่งประจญได้แขงขัน | |
สว่างในกลางวัน | ฤๅจะกล้าเข้าราวี | |
๏ เรือเล็กเหมือนเด็กน้อย | ได้แต่คอยดูท่วงที | |
ต้องรอพอเหมาะดี | ผู้ใหญ่เผลอเหม่อจึ่งทำ | |
๏ จะเข้าไปตรง ๆ | คงต้องปืนครืนกระหน่ำ | |
ให้ดีมีหลายลำ | จำต้องมีพี่เลี้ยงไป | |
๏ นาวีฝีเท้ารวด | จึ่งจะกวดไปทันได้ | |
บัดนี้นาวีไทย | หาลำไหนไม่พอการ | |
๏ แต่ดูการซ้อมศึก | ยังต้องนึกร้อนรำคาญ | |
ชาวไทยถึงใจหาญ | ไม่มีเรือเหลือสู้เขา | |
๏ คนไทยอย่างไรท่าน | ไม่รำคาญหรือไทยเรา | |
ไฉนทำใจเบา | จะไม่ช่วยกันด้วยฤๅ ฯ | |
โคลง | ||
๏ ขอชวนกันช่วยเร้า | ระดม | |
เร่งเพาะความนิยม | อย่าช้า | |
นาวีสมาคม | ชวนชัก | |
ชวนพวกไทยทั่วหน้า | ปักรั้วกันสยาม ฯ | |
กาพย์ | ||
๏ ขอชวนกันช่วยเร้า | พวกไทยเรารีบระดม | |
เร่งเพาะความนิยม | อย่าชักช้าจะล่าไป | |
๏ นาวีสมาคม | แนะนิยมแห่งชาวไทย | |
ชวนกันพลันพร้อมใจ | ล้อมรั้วกั้นกันสยาม | |
๏ บนบกมีทหาร | คอยเริงราญรุกสงคราม | |
เสือป่าสง่างาม | คอยช่วยรบบรรจบพล | |
๏ ยังว่างแต่ทางเรือ | เพื่อป้องกันขันผจญ | |
ทางที่วิถีชล | ไร้กำลังตั้งรักษา | |
๏ จะทิ้งนิ่งเฉยอยู่ | เหมือนประตูเปิดไว้ร่า | |
ศัตรูจู่โจมมา | ฤๅจะสู้ศัตรูไหว | |
๏ อย่าเหม่อเผอเรอเพลิน | เราขอเชิญช่วยร้อนใจ | |
ทำเผินเนิ่นนานไป | จะลำบากยากใจเรา | |
๏ ศัตรูเข้าสู่ได้ | จะเอาไฟเที่ยวจุดเผา | |
เรือนชานลานเปนเฒ่า | ทรัพย์สมบัติพลัดกระจาย | |
๏ ลูกเมียจะเสียหมด | ทุรยศเยินฉิบหาย | |
เราอยู่ดูน่าอาย | ตายดีกว่าอย่าเสียศรี | |
๏ ตื่นเถิดเราเกิดมา | เปนไทยอย่าให้เสียที | |
ช่วยหานาวามี | กำลังขันไว้กันเมือง ฯ |
