ห้องสิน/เล่ม ๓/ตอน ๖๘

จาก วิกิซอร์ซ
แม่แบบผิดพลาด: มีการลบช่องที่ไม่ได้ใช้ออก โปรดเติมกลับเข้าไป (โปรดดูเอกสารกำกับแม่แบบ)

หน้า ๑๙–๒๓ สารบัญ



ฝ่ายเปกอี๋ กับซกเจ๋ ชาวเมืองไซรกี แจ้งว่า บูอ๋องจะไปตีเมืองจิวโก๋ ก็ออกมายืนขวางหน้าทัพไว้ แล้วทูลพระเจ้าบูอ๋องว่า ซึ่งพระองค์จะไปตีเมืองจิวโก๋นั้นหาควรไม่ ด้วยแต่ก่อนเมืองไซรกีนั้นเป็นเมืองขึ้นเมืองจิวโก๋ แล้วพระเจ้าติวอ๋องก็มีพระคุณได้ชุบเลี้ยงพระองค์มาแต่ก่อน คิดทำอย่างนี้ไม่ต้องการเยี่ยงอย่าง พระเจ้าบูอ๋อง กับเกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น ก็หาฟังไม่ เปกอี๋กับซกเจ๋ก็ขัดใจ จึงว่า ถ้าพระองค์มิฟังแล้ว ข้าพระองค์ไม่ปรารถนาจะคืนเข้าในเมืองไซรกี ว่าแล้วเปกอี๋ ซกเจ๋ ก็ไปอยู่ภูเขาซิวเลงซัว กินแต่หญ้า สิ้นกำลังอาหาร แล้วก็ตาย เกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น ยกทัพไปถึงป่ากิ๋มเกเฉีย ทหารกองหน้ามาบอกเกียงจูแหยว่า มีทัพมาตั้งสกัดทางอยู่ แลธงสำหรับแม่ทัพจารึกชื่อ อุยผุน เกียงจูแหยจึงให้ทัพรอไว้ แล้วปรึกษาทหารทั้งปวงว่า ผู้ใดจะออกรบได้ หลำจงกวดจึงว่า ข้าพเจ้าจะอาสาไปจับตัวนายทัพมาให้ท่าน เกียงจูแหยจึงว่า ทัพนี้เป็นแรกศึก จำจะตีให้แตกฉานในเวลาเดียว จะได้เป็นฤกษ์ไว้ ประการหนึ่ง จะหักกล้าทหารเมืองจิวโก๋ด้วย ซึ่งท่านจะรับอาสาไปนั้น ตรึกตรองดูจงดี

หลำจงกวดจึงว่า ถ้าข้าพเจ้าเสียทีข้าศึก ก็ให้ท่านตัดศีรษะเสีย แล้วขึ้นม้า ถือทวน ยกทหารขึ้นมาหน้าทัพ เห็นอุยผุน นายโจรนั้น ใส่เกราะเหล็ก ขี่ม้าดำ ถือง้าว ยืนหน้าทหารทั้งปวง หลำจงกวดจึงร้องถามว่า ท่านชื่อไร จึงอาจมาขวางหน้าทัพหลวงไว้ อุยผุนจึงบอกว่า เราชื่อ อุยผุน ตัวท่านชื่อไร จะยกทัพไปไหน หลำจงกวดบอกว่า เราชื่อ หลำจงกวด เป็นทหารเกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น จะยกไปตีเมืองจิวโก๋ แจ้งว่า ท่านมาขวางหน้าทัพอยู่ จึงให้เรามาตัดศีรษะท่าน อุยผุนก็ขับม้าเข้ารบกับหลำจงกวดได้สิบเพลง หลำจงกวดทานกำลังไม่ได้ ครั้นจะถอยหนีก็กลัวเกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น จะฆ่าเสีย ก็แข็งใจสู้ไปจนเสียที อุยผุนจับตัวหลำจงกวดได้ พากลับเข้าค่าย อุยผุนจึงว่ากับหลำจงกวดว่า เราหาทำอันตรายแก่ชีวิตไม่ ท่านจงกลับไปบอกเกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น มาหาเรา สั่งแล้วอุยผุนก็ปล่อยหลำจงกวดไป อุยผุนก็ขึ้นม้ามายืนอยู่หน้าค่าย หลำจงกวดก็รีบกลับไปค่าย แล้วบอกเกียงจูแหยตามคำอุยผุนสั่ง เกียงจูแหยก็โกรธ สั่งให้ทหารเอาตัวหลำจงกวดไปฆ่าเสียนอกค่าย อุยผุนแลเห็นก็ควบม้ามาโดยเร็ว ร้องว่า ท่านอย่าเพิ่งฆ่าหลำจงกวดก่อน กลับไปบอกเกียงจูแหยให้ออกมาพูดจากันกับเรา ทหารก็กลับมาบอกเกียงจูแหย เกียงจูแหยก็โกรธนัก ให้ยกทหารออกทั้งสิ้น หวังจะเอาตัวอุยผุนให้จงได้ อุยผุนแลเห็นเกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น ออกมา ก็วางอาวุธเสีย เข้าไปคำนับเกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น แล้วว่า ตัวข้าพเจ้าได้เรียนวิชามาแต่เล็กจนใหญ่ บัดนี้ หามีที่พึ่งไม่ รู้ว่า ท่านเป็นไต้เจียงกุ๋นยกทัพมา ก็ดีใจนัก คิดว่า จะมามอบตัวเป็นทหารท่าน ท่านยังหาเห็นฝีมือข้าพเจ้าไม่ ข้าพเจ้าทำการทั้งนี้หวังจะให้เห็นฝีมือ ข้อซึ่งหลำจงกวดออกรบแพ้ข้าพเจ้านั้น โทษก็ถึงตาย แต่เสียดายทหารหายาก ข้าพเจ้าขอชีวิตไว้ครั้งหนึ่ง จะได้เป็นเพื่อนทหารช่วยกันกระทำศึกต่อไป เกียงจูแหย ไต้เจียงกุ๋น ได้ฟังก็ดีใจ ถอดหลำจงกวดจากที่เป็นแม่ทัพหน้า ส่งตัวมาไว้ในกองหลวง ตั้งอุยผุนเป็นแม่ทัพแทนหลำจงกวด คุมทหารสิบห้าหมื่น แล้วก็ยกไป

ฝ่ายฮั่นเอ๋ง ผู้รักษาเมืองกีจุยก๋วน ครั้นรู้ว่า เกียงจูแหยเป็นไต้เจียงกุ๋นยกทหารมาเป็นอันมากจะมาตีเมืองจิวโก๋ ก็บอกหนังสือมาถึงปิจู๊ ขุนนาง ณ เมืองจิวโก๋ ปิจู๊ก็เอาหนังสือกราบทูลพระเจ้าติวอ๋อง พระเจ้าติวอ๋องทราบแล้วก็ปรึกษาด้วยขุนนางทั้งปวงว่า เราจะได้ทหารผู้ใดที่มีฝีมือออกไปรับทัพเกียงจูแหยได้ ไต้หูหุยเหลง ขุนนาง จึงทูลว่า เห็นแต่ขงสวนอยู่ ณ ด่านสามสันก๋วนนั้น มีฝีมืออยู่ พอจะสู้รบกับเกียงจูแหยได้ พระเจ้าติวอ๋องก็เห็นด้วย จึงให้มีหนังสือรับสั่งไปถึงขงสวนจัดทหารออกรบกับเกียงจูแหย ขงสวนแจ้งในหนังสือดังนั้นแล้ว ก็จัดทหารสิบหมื่นยกไปถึงเมืองกีจุยก๋วน ฮั่นเอ๋ง เจ้าเมืองกีจุยก๋วน รู้ว่า กองทัพขงสวนยกมา ก็มาเชิญขงสวนเข้าไปในเมือง ขงสวนให้พักทหารอยู่คืนหนึ่ง ครั้นเวลารุ่งเช้า ก็ยกทหารออกจากเมืองกีจุยก่วนไปถึงเนินดินแห่งหนึ่ง ก็ให้ตั้งค่ายมั่นอยู่




ตอน ๖๗ ขึ้น ตอน ๖๙