ห้องสิน/เล่ม ๑/ตอน ๒๘
หน้า ๒๙๒–๒๙๘ สารบัญ
ครั้นอยู่มาภายหลัง พระเจ้าติวอ๋องจึงสั่งให้ถอดฮุยต๋ง ฮิวฮุน ออกจากโทษ ฝ่ายปิจู๊ซึ่งเป็นบุตรปิกันผู้ตายจึงทูลว่า ฮุยต๋ง ฮิวฮุนนี้ บุนไท้สือให้จำไว้ สำเร็จการศึกแล้วจะกลับมาชำระต่อไป เมื่อยกทัพไปได้วันหนึ่ง เหตุไรพระองค์จึงทำดังนี้เล่า พระเจ้าติวอ๋องจึงตรัสว่า อ้ายรู้กว่าเจ้า บุนไท้สือโกรธฮุยต๋ง ฮิวฮุน เปล่า ๆ เราหาเห็นมีความผิดไม่ จึงให้ถอดเสีย แล้วเรียกฮุยต๋ง ฮิวฮุน เข้ามาใช้เหมือนแต่ก่อน ตั้งแต่บุนไท้สือไปแล้ว พระเจ้าติวอ๋องสบายพระทัย จึงสั่งให้ขุนนางเข้ามากินโต๊ะในสวนดอกไม้ บูเสงอ๋องจึงกระซิบว่าแก่ปิจู๊ว่า บ้านเมืองเกิดศึกวุ่นวายทั้งสี่ทิศ และจะให้ขุนนางไปเล่นสนุกกินโต๊ะกินเหล้า จะมีความสบายมาแต่ไหน ปิจู๊ก็ก้มศีรษะลงคำนับ แล้วก็ชวนขุนนางทั้งปวงเข้าไปกินโต๊ะในสวนดอกไม้ตามรับสั่ง แต่พระเจ้าติวอ๋องเสวยอยู่บนพระที่นั่ง เรียกให้นางขันกี นางฮิบี๋ มากินด้วย ครั้นเวลาบ่าย ขุนนางทั้งปวงรับพระราชทานแล้ว ต่างคนจะถวายบังคมลาไป พระเจ้าติวอ๋องจึงตรัสว่า เทศกาลนี้เป็นฤดูน้ำค้าง ดอกไม้ในสวนต่าง ๆ ก็บานส่งกลิ่นเป็นที่สบาย ท่านทั้งปวงอย่าเพ่อไปก่อน ครั้นค่ำ สั่งให้เจ้าพนักงานแต่งโต๊ะมาพระราชทานขุนนางอีก แล้วให้หญิงมาขับรำบำเรอด้วยมโหรีพิณพาทย์ต่าง ๆ พระเจ้าติวอ๋องก็เสด็จมาเสวยด้วยจนเวลายามสาม
ฝ่ายนางขันกี นางฮิบี๋ กินเหล้าด้วยกันข้างในจนเมาซบลงกับโต๊ะ ปิศาจก็สำแดงฤทธิ์ให้บังเกิดมืดมัวเป็นลมพายุพัดต้องต้นไม้ในสวนหวั่นไหวไป ปิศาจก็กลายเป็นรูปเสือปลาออกเที่ยวเดินเล่นในสวน ขุนนางทั้งปวงครั้นบังเกิดพายุแล้วแลเห็นเสือปลาเดินมา ต่างคนก็ตกใจบอกกันอื้ออึง บูเสงอ๋องครั้นเห็นจึงหักเอากิ่งไม้ไล่ตีเสือปลา เสือปลาก็วิ่งหลบหนีไป บูเสงอ๋องขัดใจ จึงให้ไปเอานกที่บ้านซึ่งได้มาแต่เมืองปักไฮ ตัวเท่าเหยี่ยว ปากและเล็บคมนัก ตาแดงดังดวงเทียน ครั้นได้มาจึงปล่อยนกนั้นให้ไปไล่จิกเฉี่ยวเฮาหลีปิศาจจนหน้าขาดยับ เฮาหลีปิศาจกลัวก็หนีแทรกลงไปใต้ดิน พระเจ้าติวอ๋องทอดพระเนตรเห็น จึงสั่งให้ขุนนางขุดตามเอาตัวให้ได้ ครั้นขุดลงไปลึกสักสองศอก ก็ไม่ได้ตัว เห็นแต่กระดูกผีหนักหนา พระเจ้าติวอ๋องทอดพระเนตรดูแล้วจึงตรัสว่า คำเขาเล่าลือว่า ปิศาจอยู่ในวังเรานี้ เห็นจะจริง แล้วเสด็จเข้าที่ ขุนนางทั้งปวงก็ชวนกันไป เฮาหลีปิศาจจึงกลับกลายเพศเป็นคนไปนอนอยู่ด้วยพระเจ้าติวอ๋อง ครั้นรุ่งขึ้น พระเจ้าติวอ๋องเห็นหน้านางขันกีเป็นริ้วรอย จึงตรัสถามว่า เจ้าเป็นไร นางขันกีจึงทูลเป็นอุบายว่า เวลาคืนนี้ ข้าพเจ้าเที่ยวในสวย เหนี่ยวกิ่งไม้ลงมาจะเด็ดดอก กิ่งไม้หักลง หนามเกี่ยวเอา พระเจ้าติวอ๋องจึงตรัสว่า ทีนี้เจ้าอย่าไปเที่ยวเล่นในสวนเลย จะต้องการดอกไม้ก็ให้คนอื่นไปเก็บเถิด แล้วเล่าความซึ่งบูเสงอ๋องไล่เฮาหลีให้นางฟังทุกประการ นางก็คิดแค้นพยาบาทบูเสงอ๋องว่า จะไปไหนพ้นกัน จะแก้แค้นให้ได้
ฝ่ายเกียงจูแหยซึ่งอยู่ ณ เมืองไซรกีทิศตะวันตก จึงคิดกับบุนอ๋องว่า บัดนี้ พระเจ้าติวอ๋องเสพสุรา หลงด้วยผู้หญิง ไม่เอาใจใส่ในราชการบ้านเมือง ซ่องเฮ่าเฮ้า เจ้าเมืองทิศเหนือนั้น ไปคบกับฮิวฮุนในเมืองจิวโก๋ชวนกันคิดการไม่ตรงต่อแผ่นดิน บุนไท้สือก็ยกทัพไปเมืองปักไฮ ขุนนางบรรดาอยู่ในเมืองหลวงก็ว่าการงานไม่สิทธิ์ขาด คนทั้งปวงก็ได้ความเดือดดังอยู่ในกองไฟ ควรเราจะยกทหารไปฆ่าซ่องเฮ่าเฮ้าเสียเถิด บุนอ๋องก็เห็นชอบด้วย จึงว่า ท่านจะไปแต่ผู้เดียว หรือจะให้เราไปด้วย เกียงจูแหยจึงว่า เชิญท่านไปด้วย จะได้ช่วยคิดอ่าน ครั้นปรึกษากันแล้ว ก็จัดแจงทหารได้สิบหมื่น ยกทัพไปถึงเมืองปักเป๊กเฮ้า แล้วจึงให้ตั้งค่ายมั่นอยู่
ฝ่ายชาวด่าน ครั้นรู้ว่า กองทัพยกมา ก็เข้าไปแจ้งราชการ ขณะนั้น ซ่องเฮ่าเฮ้าไปเมืองจิวโก๋ ให้ซ่องเอ๋งปิวผู้บุตรอยู่รักษาเมือง แจ้งความว่า กองทัพยกมา จึงให้อึ้งวันเจ้ ตั๋นเกงจง หมุยเต๊ก กิมเสง คุมทหารออกไปรบกับเกียงจูแหย บุนอ๋องจึงให้หลำจงกวดคุมทหารออกรบ ครั้นหลำจงกวดออกไปนอกประตูค่าย แล้วจึงร้องว่า อ้ายเหล่านี้ไม่รักชีวิตหรือ จึงมาสู้กับเรา แล้วก็เข้ารบกับทหารสี่คนได้สามสิบสองเพลง หลำจงกวดตัดศีรษะอึ้งวันเจ้ได้ หิ้วเข้าไปให้เกียงจูแหย นายทหารทั้งสามเสียที ก็พาบ่าวไพร่แตกหนีกลับเข้ามาบอกซ่องเอ๋งปิวว่า อึ้งวันเจ้ตาย ซ่องเอ๋งปิวโกรธ เอามือตบโต๊ะลง แล้วร้องว่า อ้ายเกียงจูแหยกับบุนอ๋องคิดกบฏต่อพระเจ้าติวอ๋อง กูจะยกออกไปวันนี้ ถ้าฆ่าอ้ายสองคนไม่ได้ กูจะไม่กลับเข้ามาเลย แล้วก็จัดแจงทหารออกไป เกียงจูแหยกับบุนอ๋องครั้นเห็นกองทัพยกมา ก็ขึ้นม้าพาทหารออกยืนอยู่หน้าค่าย แล้วให้โบกธงสำคัญ ซ่องเอ๋งปิวแลไปดูไม่รู้จัก จึงร้องถามว่า ท่านนี้ชื่อไร จึงองอาจยกทัพมา เกียงจูแหยจึงบอกว่า เราชื่อ เกียงจูแหย พาบุนอ๋องมาจะฆ่าซ่องเฮ่าเฮ้า ด้วยทำผิดไปคบฮิวฮุนยุยงพระเจ้าติวอ๋อง ทำให้อาณาประชาราษฎรได้ความเดือดร้อน ซ่องเอ๋งปิวจึงตอบว่า ซึ่งท่านกล่าวถ้อยคำนั้นเกินนัก ด้วยท่านเป็นคนประมาทเหมือนไม้ผุ อย่าพูดจาจองหองไปเลย แล้วสั่งให้ตันแกเจ๋งคุมทหารออกรบกับเกียงจูแหย เกียงกูแหยก็ให้สินกะ[1] คุมทหารออกต่อสู้ได้ยี่สิบเพลง ตันแกเจ๋งเสียที ทานกำลังมิได้ ซ่องเอ๋งปิวเห็นดังนั้นจึงให้กิมเสง หมุยเต๊ก ออกช่วย เกียงจูแหยก็ให้เตียวก๋งเซ็ก จิวก๋งต้าน ลือก๋งบ๋ง หลำจงกวด บอก๋งซุย ออกไปอีก สู้กันอยู่ช้านาน ลือก๋งบ๋งได้ทีเอาทวนแทงถูกหมุยเต๊กตาย สินกะนั้นเอาขวานฟันถูกกิมเสงตาย ซ่องเอ๋งปิวเห็นก็เสียใจ พาทหารหนีไป เกียงจูแหยจึงบอกกับบุนอ๋องว่า ครั้งนี้ได้ทีแล้ว เราจะตามไปเอาเมืองเถิด บุนอ๋องจึงว่า เราทำการทั้งนี้หวังจะปราบปรามแต่คนชั่ว จะบุกรุกเข้าไปเอาบ้านเมืองนั้น จะมิเป็นกบฏต่อแผ่นดินหรือ เกียงจูแหยก็เห็นด้วย แล้วจึงลอบเขียนหนังสือฉบับหนึ่ง ให้หลำจงกวดถือไปถึงซ่องเฮกเฮ้าผู้เป็นน้องซ่องเฮ่าเฮ้า ณ เมืองเชาจิว เป็นใจความว่า ซ่องเฮ่าเฮ้า พี่ท่าน ทำผิด ไปคบกับฮิวฮุน ฮุยต๋ง ให้แผ่นดินไม่เป็นสุข เราจึงพาบุนอ๋องยกทัพมา หวังจะฆ่าซ่องเฮ่าเฮ้าเสีย บัดนี้ ไม่ได้ตัวซ่องเฮ่าเฮ้า เราเห็นว่า ท่านเป็นคนสัตย์ซื่อ จึงบอกมาให้รู้ ให้ท่านเร่งคิดอ่าน อย่าเอาคนชั่วไว้ จะพาตัวตาย ซ่องเฮ่าเฮ้าพิเคราะห์ดูหนังสือแล้วคิดว่า จะนิ่งอยู่ฉะนี้ไม่ควร ด้วยเป็นการแผ่นดิน ว่าจะไปบอกกับบิดามารดาให้แจ้ง จึงจะจับตัวซ่องเฮ่าเฮ้าผู้พี่ซึ่งทำผิดส่งไปให้บุนอ๋องฆ่าเสียตามโทษ แล้วรินสุราให้หลำจงกวดกิน จึงว่า ท่านกลับไปบอกกับเกียงจูแหยว่า เราไม่เข้าด้วยผู้กระทำผิดดอก อย่าให้ท่านทั้งสองวิตกเลย แล้วสั่งซ่องเฮ่งหลวนผู้บุตรให้อยู่รักษาเมือง ให้โฮเต๋ง ซมก๋ง จัดไพร่สามพัน พร้อมแล้วซ่องเฮกเฮ้าก็ยกไปเมืองปักเป๊กเฮ้า
เชิงอรรถของวิกิซอร์ซ
[แก้ไข]- ↑ ตอนนี้ใช้ว่า "สินกะ" ตอนอื่นใช้ว่า "สินเปี๋ยน" ฉะนั้น โปรดทราบว่า ทั้งสองคือคนเดียวกัน และตรงกับสำเนียงกลางว่า "ซิน เหมี่ยน" (辛免)