โฉมหน้าศักดินาไทย/เชิงอรรถ

จาก วิกิซอร์ซ
เชิงอรรถ :
William Z. Forster, Outline Political History of the Americas, International Publisher, New York, 1951 P. 39
กรมพระยาดำรงราชานุภาพ, ทาสกถา ในวชิรญาณวิเศษ เล่ม ๕, ร.ศ. ๑๐๙ (พ.ศ. ๒๔๓๓)
คำของ Howard Fast ในนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่อง Spartacus
An Epic Revolt by Doxey A. Wilkerson ในนิตยสารรายเดือน Masses and Mainstream, March, 1952
- Spartacus by Howard Fast
การิบัลดี (Garibaldi) เป็นวีรบุรุษอิตาเลียนผู้เข้าช่วยประชาชนปลดแอกทั่วไปในหลายประเทศ ตอนท้ายได้เข้าร่วมกับคาวูร์ ในการปลดแอกเกาะซิซิลีเพื่อแผนการรวมอาณาจักรอิตาลี เมื่อศตวรรษที่ ๑๙
An Epic Revolt by Doxey A. Wilkerson ในนิตยสารรายเดือน Masses and Mainstream, March, 1952
ตรงนี้ต้องเข้าใจด้วยว่า ในสังคมของรัฐทาสเช่นรัฐของชาวโรมัน เสรีชนเท่านั้นที่จะจับอาวุธและสวมเกราะได้ และการจับอาวุธและสวมเกราะเพื่อทำการรบก็ทำได้เมื่อมีศึกเท่านั้น ในยามสงบการจับอาวุธเป็นของต้องห้าม พวกเสรีชนที่เป็ นทหารเป็นชนชั้นพิเศษอีกชนชั้นหนึ่ง ทุกคนได้รับอนุญาตให้มีที่ดินทำนาได้คนละ ๘ เอเคอร์
๑๐ ถ้าจะกล่าวอย่างเข้มงวดแล้วคำ Feudalism หรือ Feodalisme มาจากภาษาละตินว่า Feodalis อันเป็นคำคุณศัพท์ของคำนาม Feodum อีกทอดหนึ่ง
๑๑ คำว่า Donatarios มาจากคำว่า Donatarius ในภาษาละตินแปลว่า "ผู้รับสิ่งที่ให้" อันหมายถึงเจ้าขุนมูลนายผู้รับที่ดินที่ได้รับพระราชทานมาจากกษัตริย์ (รากศัพท์คือ donare = ให้ ซึ่งแยกไปเป็น donner ในภาษาฝรั่งเศสและ donate ในภาษาอังกฤษ)
๑๒ เอเคอร์หนึ่งมีเนื้อที่ ๔,๘๔๐ ตารางหลาเทียบกับมาตราเมตริก
๑๓ William Z. Forster, Outline Political History of the Americas, International Publisher, New York, 1951 P. 63
๑๔ คำว่า Homage มาจากคำว่า Homme ซึ่งแปลว่าคน (คำเดียวกับ Human ในภาษาอังกฤษ) การทำ Homage ต่อนายก็คือการแสดงความสำนึกว่าตนรู้จักคนที่เป็นนาย และตนเป็นคนของนาย
๑๕ Chivalry มาจากคำว่า Cheval ของภาษาฝรั่งเศส แปลว่า "ม้า" ทั้งนี้ เพราะอัศวินเป็นนักรบบนหลังม้า ภาษาฝรั่งเศสยังคงเรียกอัศวินว่า Chevalier แปลว่า "คนขี่ม้า" ส่วนที่อังกฤษเรียกอัศวินว่า Knight นั้น มาจากคำในภาษาเยอรมันและดัตช์ว่า Knecht ซึ่งแปลว่า "ทหาร" คำ "อัศวิน" ของไทยก็แปลว่า "คนขี่ม้า" รากศัพท์คือ "อัศวะ" ในภาษาสันสกฤตซึ่งแปลว่า "ม้า"
๑๖ ญี่ปุ่นเรียกอัศวินว่า "ซามูไร" ก็เพราะอัศวินญี่ปุ่นรบด้วยดาบที่ตีพิเศษ ดาบนี้เรียกว่า "ซามูไร" คนใช้ดาบเก่งจึงเรียกว่า "ซามูไร" ทำนองเดียวกับพระยาพิชัยดาบหักของไทยสมัยธนบุรี ลัทธิซามูไรของญี่ปุ่นเกิดขึ้นพร้อมกับระบบศักดินาในประเทศนั้นเมื่อราว ค.ศ. ๑๖๐๐
๑๗ ตอนที่ว่าด้วยสภาพของทาสกสิกรในฝรั่งเศสทั้งหมดนี้ รวบรวมมาจาก "ยุโรปสมัยใหม่" (ค.ศ. ๑๗๘๙-๑๙๓๓) ของ A.E. Ecclestone, นายประเสริฐ เรืองสกุล แปลและเรียบเรียงลงในวิทยาจารย์ ปีที่ ๕๔ ฉบับที่ ๔ สิงหาคม ๒๔๘๙ หน้า ๗๕๕
๑๘ ดาอิมิโอ (Daimyo) คือพวกเจ้าที่ดินหรือเจ้าขุนมูลนาย
๑๙ จาก "พงศาวดารญี่ปุ่น" ของ ฮิโช-ซาอิโต, ยูปิ เตอร์ แปลจากฉบับภาษาอังกฤษของเอลิซาเบธ ลี, พิมพ์ที่ ร.พ. จีนในสยามวารศัพท์ พ.ศ. ๒๔๙๕ เล่ม ๒ หน้า ๑๗๔
๒๐ ดู "พัฒนาการของสังคม" โดยสุภัทร สุคันธาภิรมย์ ใน น.ส.พ. รายสัปดาห์ ประชาศักดิ ปี ที่ ๒ ฉบับที่ ๓๔, ๗ พ.ศ. ๒๕๐๐
๒๑ ๑ ส้องเท่ากับ ๑๐,๐๐๐ ตารางฟุต เทียบ ๕ โหม่วของจีน
๒๒ ผู้สนใจรายละเอียดของศักดินาน่านเจ้าโปรดดู "เรื่องของชาติไทย" โดยพระยาอนุมานราชธน (พิมพ์แล้วหลายครั้ง)
๒๓ ดู "ลักษณะการปกครองประเทศสยามแต่โบราณ" ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ, ฉบับโรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, ๒๔๗๐ หน้า ๑๖-๒๑
๒๔ ดูกฏหมายลักพาในกฎหมายตราสามดวง มาตรา ๒๐
๒๕ "จารึกกฏหมายลักษณะโจร", ฉ่ำ ทองคำวรรณ อ่าน, วารสารศิลปากร ฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๔๙๘
๒๖ "คำอ่านจารึกภาษาไทย" ของ ฉ่ำ ทองคำวรรณ, วารสารศิลปากร ฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๔๙๗
๒๗ ประชุมกฏหมายไทยโบราณ ภาคที่ ๑, โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๔๘๒ หน้า ๖๖ (กฏหมายที่พิมพ์เป็ นกฏหมายจากอีสาน)
๒๘ ดูเรื่อง "กระลาโหม" ของ จิตร ภูมิศักดิ์ ในหนังสือ อักษรานุสรณ์ ฉบับต้อนรับน้องใหม่ ๒๔๙๗หน้าไม่มี เพราะหนังสือไม่ลงหน้าทั้งเล่ม
๒๙ ประชุมจารึกสยามภาค ๑, โรงพิมพ์พระจันทร์, ๒๔๗๗ หน้า ๘๑
๓๐ "กวานเจ้า" คำกวานก็คือนาย คำนี้มีใช้แม้ในภาษาลาวทางเหนือ กวานเจ้าคือประมุขใหญ่
๓๑ "กวานบ้าน" คือนายบ้าน เป็นตำแหน่งรองลงมาจากกวานเจ้า ในลิลิตยวนพ่ายของไทยก็มีคำเรียกนายบ้านของไทยพายัพว่ากวานบ้าน
๓๒ E. Diguet, Etude de la langue Tai (คือ-ศึกษาภาษาตระกูลไท)
๓๓ Ch. Robequain, Le Than Hoa
๓๔ E. Lunet de la Jonquiere, Ethnographic du Tonkin septentrional (มานุษยชาติวิทยาของตังเกี๋ยส่วนเหนือ)
๓๕ หลักฐานเกี่ยวกับชุมชนไทยที่กล่าวมาทั้งหมดได้จาก "ประวัติศาสตร์กฏหมายไทย" กฏหมายที่ดินโดย ร. แลงกาต์, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิมพ์ ๒๔๙๑ น. ๖-๑๑
๓๖ ประมุขของชุมชนไทยต่างๆ ในดินแดนอินโดจีนที่กล่าว มีสิทธิอำนาจพอที่จะขับไล่ราษฎรออกจากที่ดินเพื่อครอบครองเสียเอง หรือเพื่อยกให้ครอบครัวใหม่ได้ด้วย-ดูหนังสือเล่มเดียวกัน หน้า ๑๐
๓๗ ไทยอาหมเข้าไปสู่อัสสัม โดยแยกพวกออกไปจากไทยใหญ่อาหมรุกเข้าไปในอัสสัมเมื่อปี ๑๗๗๑ จนถึง พ.ศ. ๒๑๙๘ กษัตริย์ไทยอาหมก็หันไปนับถือศาสนาพราหมณ์ ในที่สุดเลยถูกวัฒนธรรมอินเดียกลืนเสียทั้งชาติ รัฐไทยอาหมเพิ่งมาเสื่อมอำนาจตกอยู่ในอารักขาของพม่าเอาเมื่อกลางศตวรรษที่ ๒๓ (สมัยอยุธยาตอนกลาง) ระบบศักดินาของไทยอาหมมีกล่าวอย่างย่อๆ อยู่ใน "ประวัติศาสตร์กฏหมายไทย" กฏหมายที่ดิน ของ ร. แลงกาต์ หน้า ๖-๗
๓๘ อาณาจักรเขมรโบราณเคยแผ่ขึ้นไปจนถึงแคว้นลานช้าง หลักฐานที่ยังมีปรากฏก็คือศิลาจารึกประกาศตั้งโรงพยาบาล (อโรคยศาลา) ของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ แห่งเขมร (พ.ศ. ๑๗๒๔-หลัง พ.ศ. ๑๗๔๔) อยู่ ณ บ้านทรายฟองริมฝั่งโขงใต้เมืองเวียงจันทน์ตรงข้ามบ้านเวียงคุก จังหวัดหนองคายบัดนี้ ดู "กระลาโหม" ของจิตร ภูมิศักดิ์ ใน "อักษรานุสรณ์" ฉบับต้อนรับน้องใหม่ ๒๔๙๗
๓๙ La Stele du Prah Khan d' Angkor, G. Coedes, Bulletin de l' Ecole Francaise d' Extreme-Orient เล่ม ๔๑, หน้า ๒๙๕
๔๐ Le Royaume de Combodge par Maspero
๔๑ ผู้ที่ไม่เคยไปและไม่มีท่าทีว่าจะไปนครวัด หรือไปแล้วอ่านคำบรรยายภาพไม่ออก เพราะเป็นภาษาเขมรโบราณ แต่อยากจะดูหลักฐานให้มั่นใจ ก็หาดูได้จากเรื่อง "Les Bas-relief d' Angkor-Vat" ของ G. Coedes ใน Bulletin de la commission archeologique de l' Indochine เล่มประจำปี ๑๙๑๑
๔๒ Collection de texts et documents sur l' Indochine III, Inscription duc cambodge, Vol. II par G. Coedes, Hanoi 1942, p.176
๔๓ ในจารึกภาษาไทยหลักที่สองของประชุมจารึกสยามภาค ๑ โขลนลำพงหรือลำพังนี้ เป็นตำแหน่งข้าราชการ ภายหลังมาตกอยู่ในเมืองไทย เป็ นกรมพระลำพัง (เขมรเรียกพระลำพัง แล้วไทยสุโขทัยเอามาเขียนลำพง)
๔๔ ดูรายละเอียดใน Pour mieux comprendre Angkor, par G. Coedes, Paris 1947
๔๕ ดู "พิมายในด้านจารึก" ของ จิตร ภูมิศักดิ์, วงวรรณคดี ฉบับกุมภาพันธ์ ๒๔๙๖
๔๖ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่กรุงเทพฯ มีพระพุทธรูปที่ว่านี้อยู่รูปหนึ่ง ทำด้วยศิลาขนาดโตกว่าตัวจริง หน้าตาเป็นเขมรที่ไว้เปียตามคติพราหมณ์ รูปนี้ได้มาจากพิมาย ชาวบ้านเรียกกันว่าท้าวพรหมทัตนับว่าชาวบ้านไทยก็ไม่โง่พอที่จะให้ชัยวรมันหลอกว่าเป็นพระพุทธรูป
๔๗ ดูรายละเอียดใน La Stele du Prah Khan d' Angkor, G. Coedes, Bulletin de l' Ecole Francaise d' Extreme-Orient, Tome XLI, 1941 P. 255-301
๔๘ พระเจ้าอินทรวรมันที่ ๒ นี้ คือที่ไทยเราเรียกว่า พระเจ้าประทุมสุริยวงศ์ในนิทาน
๔๙ ปรากฏในศิลาจารึกพระขัน La Stele du Prah Khan d' Angkor, BEFEO, XLI 1941, p.256
๕๐ เมืองราดนี้ บ้างก็ว่าอยู่ที่เพชรบูรณ์ บ้างก็ว่าอยู่ลพบุรี บ้างก็ว่าอยู่ที่เมืองโคราชร้างในจังหวัดนครราชสีมา
๕๑ ดูศิลาจารึกไทยวัดศรีชุม ในประชุมจารึกสยามภาค ๑
๕๒ นโยบายนี้ เขมรยังได้ใช้ต่อมาอีกนานในรอบร้อยปี ถัดมา ท้าวฟ้ างุ้มกษัตริย์หลวงพระบางก็ได้รับแจกลูกสาวมาคนหนึ่ง ชื่อว่า "ยอดแก้ว"
๕๓ รัฐอีจานนี้ปรากฏในศิลาจารึกวัดศรีชุม ในประชุมจารึกสยามภาค ๑ ภายหลังได้ทะเลาะกับรัฐเมืองราดถึงกับรบกันยกใหญ่
๕๔ นักพงศาวดารมักเดาเอาว่าอาณาเขตของสุโขทัยเลยตลอดไปถึงยะโฮร์! อันนี้เกินจริงที่จริงมีเพียงรัฐของพระยา

นครศรีธรรมราชเท่านั้นที่อยู่ภายใต้อำนาจของสุโขทัย ตามศิลาจารึกที่บ่งไว้ว่าอาณาเขตทางใต้ เลยนครศรีธรรมราชออกไปถึง "ทะเลสมุทร" นั้น หมายถึงทะเลสาบน้ำเค็มสงขลา

๕๕ ดูศิลาจารึกวัดศรีชุม ในประชุมจารึกสยามภาค ๑
๕๖ จารึกกฏหมายลักษณะโจรสมัยสุโขทัย, ฉ่ำ ทองคำวรรณ อ่าน, วารสารศิลปากร ฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๔๙๘, หน้า ๑๐๒
๕๗ ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด เป็นชมรมไทยขนาดใหญ่อีกชมรมหนึ่งทางอำเภอแม่สอด ภายหลังถูกรวบเข้ากับอาณาจักรสุโขทัย
๕๘ พัฒนาการของกษัตริย์จากพ่อขุนไปสู่พญา เจ้าพญา และสมเด็จเจ้าพญาจนถึงพระเจ้าแผ่นดินนี้ ศึกษาได้จากศิลาจารึกสมัยสุโขทัย ทั้งที่พบเก่า (ในประชุมจารึกสยาม ภาค ๑) และที่พบใหม่ (พิมพ์ทยอยในวารสารศิลปากร)
๕๙ ในพระอัยการเบ็ดเสร็จ ซึ่งตราขึ้นก่อนสร้างอยุธยา ๘ ปี ประมวลกฏหมายรัชกาลที่ ๑ ฉบับพิมพ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หน้า ๒๐๐ เล่ม ๒
๖๐ ดู "บันทึกเกณฑ์สอบศักราช" โดย ธนิต อยู่โพธิ์, วารสารศิลปากร ปีที่ ๕ เล่ม ๓ ตุลาคม ๒๔๙๔ หน้า ๕๙ กฏหมายทั้งสองนี้ สมเด็จกรมพระยาดำรงเคยตู่เอาไปไว้สมัยอยุธยาตอนปลาย
๖๑ A Bourlet: Socialisme dans les Hua Phan คัดจาก "ประวัติศาสตร์กฏหมายไทย" กฏหมายที่ดินของ ร. แลงกาต์ หน้า ๘
๖๒ นโยบายนี้ มนุษย์รู้จักใช้มาแต่สมัยระบบทาส หาใช่นโยบายของจักรวรรดินิยมโดยเฉพาะดังที่บางคนเข้าใจกันไม่
๖๓ พญาบาลเมืองกับพญารามคำแหงสองคนนี้ เป็ นคนละคนกับพ่อขุนบาลเมืองกับพ่อขุนรามคำแหงที่รู้จักกันทั่วไป สองคนนี้ เป็นเหลนพ่อขุนรามคำแหง ที่มีชื่อว่าบาลเมืองกับรามคำแหงเท่านั้น นัยว่าตั้งชื่อตามธรรมเนียมลูกหลาน ครั้งปู่ทั้งสองคนนี้ รบกันเมื่อปีพ.ศ. ๑๙๖๒ เจ้าที่ดินใหญ่อยุธยาที่เข้าแทรกแซงครั้งนี้ คือสมเด็จพระนครอินทราธิราช
๖๔ "พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแถลงพระบรมราชาธิบายแก้ไขการปกครองแผ่นดิน" ฉบับรัชกาลที่ โปรดเกล้าให้พิมพ์, โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร พ.ศ. ๒๔๗๐ หน้า ๑๐-๑๑
๖๕ คือตำแหน่งเดียวกับเจ้าแม่ศรีสุดาจันทร์ที่เป็นชู้กับขุนวรวงศาธิราช
๖๖ คือตำแหน่งเดียวกับที่ศรีปราชญ์ไปหลงรักจนถูกเนรเทศ
๖๗ ดูพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒, กรมดำรงฯ หน้า ๒๗๐
๖๘ "คำอธิบายเรื่องพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา", สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ, หน้า ๔๖๓
๖๙ "ลักษณะการปกครองประเทศสยามแต่โบราณ", สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ, หน้า ๓๓
๗๐ "เทศาภิบาล" สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ, สำนักพิมพ์คลังวิทยา, ๒๔๙๕ หน้า ๒๕
๗๑ ประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔ ภาค ๒ ฉบับหอสมุดวชิรญาณ, โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, ๒๔๖๕ หน้า ๒-๓
๗๒ "ลักษณะการปกครองประเทศสยามแต่โบราณ", สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ, หน้า ๔๓ และ "เทศาภิบาล" ของผู้เขียนคนเดียวกัน หน้า ๕๑-๕๒
๗๓ ประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔ ภาค ๕ โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, ๒๔๖๖ หน้า ๑๓๕-๑๓๖
๗๔ "พงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒" สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทรงนิพนธ์, ฉบับกรมศิลปากรพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๘ หน้า ๑๑๙-๑๒๐
๗๕ Conquistador เป็นภาษาสเปนแปลว่าผู้พิชิต เป็นคำเรียกผู้พิชิตชาวสเปนที่ปล้นสะดมแย่งชิงที่ดินจากชาวอินเดียนแดงในเม็กซิโก, เปรู ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ ๑๖
๗๖ William Z. Foster, Outline Political History of the Americas, p.๒๖
๗๗ Economic Change in Thailand Since 1850, James C. Ingram, Stanford University Press, California, 1954, p.7
๗๘ "เค้าโครงเศรษฐกิจ" โดยหลวงประดิษฐ์มนูธรรม, สำนักพิมพ์ ศ.ศิลปานนท์, ๒๔๙๑ หน้า ๑๘
๗๙ คัดมาจากพงศาวดารรัชกาลที่ ๕
๘๐ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช The Social Order of Ancient Thailand (ระเบียบสังคมของไทยในสมัยโบราณ), Thought and Word, Vol. 1 No. 2, Feb 1955, p.12-13
๘๑ รายงานการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด พ.ศ. ๒๔๙๗ เล่ม ๓ หน้า ๑๑๓
๘๒ ดูประชุมจารึกสยามภาค ๒ ศาสตราจารย์ยอร์ช เซเดส์ อ่านและแปล
๘๓ ตัวเลขคัดจากศิลาจารึกที่พบในเทวสถานพระขันเหนือเมืองนครธมในประเทศเขมร ดูรายละเอียดได้จาก "La Stele du Prah Khan d' Angkor ของ G. Coedes ในวารสารของสมาคมฝรั่งเศสแห่งตะวันออกไกล (BEFEO) เล่ม ๔๑ ค.ศ. ๑๙๔๑ หน้า ๒๕๕-๓๐๑ หรือเรื่อง "พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ และต้นเหตุของนามว่า นครชัยศรี" โดยพระองค์เจ้าธานีนิวัติ ในวารสารแห่งสมาคมค้นคว้าวิชาแห่งประเทศไทย ฉบับภาษาไทย เล่ม ๒ พฤษภาคม ๒๔๘๕ น. ๑๐๙
๘๔ ดูรายละเอียดในวารสารศิลปากร ปี ที่ ๗ เล่ม ๕-๖ และปี ที่ ๘ เล่ม ๒, ๓, ๔, ๕ : "เอกสารประวัติศาสตร์ เรื่องพระกัลปนาวัด จังหวัดพัทลุง พ.ศ. ๒๒๔๒" นายฉ่ำ ทองคำวรรณ ผู้อ่านจากอักษรโบราณ
๘๕ คัดจากเรื่อง "พระนาคท่าราย" โดยกระแสสินธ์ุ ในนิตยสารรายปักษ์ ปาริชาติ ปีที่ ๒ เล่ม ๑ ปักษ์แรก มกราคม ๒๔๙๓ หน้า ๙
๘๖ "คำให้การขุนโขลน เรื่องพระพุทธบาท" ในประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๗ หน้า ๕๘
๘๗ จากเล่มเดียวกัน หน้า ๖๖
๘๘ พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแถลงพระบรมราชาธิบายแก้ไขการปกครองแผ่นดิน ร.๗ โปรดเกล้าให้พิมพ์, โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร ๒๔๗๐ หน้า ๒๔, ๓๖
๘๙ พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ ๒, สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ หน้า ๒๗๐
๙๐ คำนวณจากประกาศพระราชทานวิสุงคามสีมา ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๙, ประชุมกฏหมายประจำศก เล่ม ๕๙ หน้า ๖๓
๙๑ ผลของการสำรวจฐานะเศรษฐกิจของกสิกรไทย, ดร. แสวง กุลทองคำ, เศรษฐสารเล่มที่ ๒๐ ปี ที่ ๒ ฉบับที่ ๖ ปั กษ์หลัง ๑๖ มีนาคม ๒๔๙๗
๙๒ ร. แลงกาต์ : ประวัติศาสตร์กฏหมายไทย, สัญญา ฉบับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พิมพ์ หน้า ๒๕-๒๖
๙๓ พระราชหัตถเลขาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมครั้งที่ ๒ ร.พ. ไทย ๒๔๖๔ หน้า ๙๐
๙๔ เมื่อครั้งรัชกาลที่ ๕ นี้ ก็ยังมีพระยอดเมืองขวางวีรบุรุษของประชาชนผู้ต่อสู้กับฝรั่งเศสที่เมืองคำมวนถูกทนายแผ่นดินฟ้องกล่าวโทษให้ฟันคอริบเรือน
๙๕ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ, ลักษณะการปกครองประเทศสยามแต่โบราณ หน้า ๓๐
๙๖ คัดจากหนังสือ "กรมพระจันทบุรี (เมื่อดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพระคลัง)" หน้า ๒๓๖
๙๗ สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ, ลักษณะการปกครองประเทศสยามฯ หน้า ๓๑
๙๘ ประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔ ภาค ๔ หน้า ๖
๙๙ สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ, ลักษณะการปกครองประเทศสยามฯ หน้า ๓๒
๑๐๐ สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ, ลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่ ๑๖ หน้า ๒
๑๐๑ ใบบอกเมืองนครราชสีมา, จดหมายเหตุเมืองนครราชสีมา พิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๗ หน้า ๓๖
๑๐๒ ใบบอกเมืองนครราชสีมา เรื่องส่งทองคำส่วย, จดหมายเหตุเมืองนครราชสีมา พิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๗ หน้า ๓๔
๑๐๓ ดูลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่ ๖, สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ หน้า ๒
๑๐๔ พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เล่มเดียวกับที่เคยอ้างมาแล้ว หน้า ๓๘-๓๙
๑๐๕ สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ, เทศาภิบาล หน้า ๘๖
๑๐๖ ประชุมประกาศ ร. ๔ ภาค ๒, หน้า ๒๔
๑๐๗ พระราชกำหนดเก่าบทที่ ๓๓
๑๐๘ พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงแถลงพระบรมราชาธิบายแก้ไขการปกครองแผ่นดิน หน้า ๓๓
๑๐๙ ประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔ ภาค ๖ หน้า ๔๙
๑๑๐ ร. แลงกาต์, ประวัติศาสตร์กฏหมายไทย, กฏหมายที่ดิน, หน้า ๓๖
๑๑๑ ดูพระราชกำหนดเก่า บทที่ ๔๔ ลงวันศุกร์ เดือน ๗ แรม ๑๑ ค่ำ จ.ศ. ๑๑๑๐ ปี มะโรง สัมฤทธิศก ตรงกับวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๒๙๑
๑๑๒ ประวัติศาสตร์กฏหมายไทย กฏหมายที่ดิน โดย ร. แลงกาต์ หน้า ๔๕
๑๑๓ คำนำของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ใน "ประกาศพระราชพิธีพืชมงคลแลจรดพระนังคัล" โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร ๒๔๖๘
๑๑๔, ๑๑๕ พระราชพิธี ๑๒ เดือน, พระราชนิพนธ์ ร. ๕, หน้า ๕๔๓ และหน้า ๕๕๗
๑๑๖ ประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔ ภาค ๖ ประกาศลงวันพุธ เดือนยี่ ขึ้น ๑ ค่ำ ปี ชวด ฉศก จ.ศ. ๑๒๒๖ ตรงกับวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๔๐๗ (หน้า ๒๐๑-๒๐๘)
๑๑๗ คำของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ใน "ลักษณะการปกครองประเทศสยามแต่โบราณ" หน้า ๒๘
๑๑๘ ลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่ ๑๖ ตำนานภาษีอากรบางอย่าง, สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ หน้า ๑๑
๑๑๙ หมากผการาย-ผการายเป็นภาษาเขมร แปลว่าดอกประปราย
๑๒๐ ประกาศลงวันเสาร์ เดือน ๑๑ แรม ๑๑ ค่ำ ปีชวด จัตวาศก จ.ศ. ๑๒๑๔ (พ.ศ. ๒๓๙๕) ใน "ลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่ ๑๖ ตำนานภาษีอากรบางอย่าง" ของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ หน้า ๑๒
๑๒๑ สำเพ็งเป็นคำภาษาเขมร แปลว่าหญิงโสเภณี
๑๒๒ พงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒, สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ หน้า ๘๓
๑๒๓ สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ, ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๑๗ ตำนานการเลิกบ่อนเบี้ยแลเลิกหวย, หน้า ๗๖
๑๒๔ ตำนานศุลกากร, พระยาอนุมานราชธน หน้า ๔๒-๔๓
๑๒๕ เทศาภิบาล, กรมพระยาดำรงฯ หน้า ๕๑-๕๒
๑๒๖ เล่าโดยวิเคราะห์ใหม่จากคำเล่าของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ, ใน "ตำนานเรื่องละครอิเหนา", โรงพิมพ์ไทย, ๒๔๖๔ หน้า ๙๖-๙๗
๑๒๗ จดหมายถึงเจ้าพระยายมราช ฉบับลงวันที่ ๑ มิถุนายน ร.ศ. ๑๒๙