ข้ามไปเนื้อหา

พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา/ภาค 1

จาก วิกิซอร์ซ
ตราของกรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
ตราของกรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
พระราชพงษาวดาร
ฉบับพระราชหัดถเลขา
ภาค ๑

ตราของกรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
ตราของกรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
พระราชพงษาวดาร ฉบับพระราชหัดถเลขา
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์
กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
พิมพ์ขึ้นเปนส่วนพระกุศลทานมัยในงานพระศพ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ (ชั้น ๓) กรมหลวงวรเสฐสุดา
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค
กรมขุนอรรควรราชกัญญา
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร
กรมขุนพิจิตรเจษฎจันทร์
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล
กรมขุนสวรรคโลกย์ลักษณวดี

สารบานเรื่อง
น่า
แผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑
จุลศักราช ๗๑๒–๗๓๑
สร้างกรุงศรีอยุธยา
น่า
สร้างพระที่นั่งไพฑูริย์มหาปราสาท
สร้างพระที่นั่งไพชยนต์มหาปราสาท
สร้างพระที่นั่งไอสวรรย์มหาปราสาท
ให้พระบรมราชาพี่พระมเหษีครองเมืองสุพรรณบุรี
ให้พระราเมศวรราชโอรสครองเมืองลพบุรี
ชื่อเมืองประเทศราชขึ้นกรุงศรีอยุทธยา
ให้พระราเมศวรไปตีกรุงกัมพูชา
ให้สมเด็จพระบรมราชาธิราชไปตีกรุงกัมพูชา
ถวายตำหนักเวียงเหล็กเปนวัดพุทไธสวรรย์
สร้างวัดป่าแก้ว
สมเด็จพระรามาธิบดีสวรรคต
แผ่นดินสมเด็จพระราเมศวร ครั้งที่ ๑
จุลศักราช ๗๓๑–๗๓๒
สมเด็จพระบรมราชาธิราชชิงราชสมบัติ
น่า
แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑
จุลศักราช ๗๓๒–๗๔๔
เสด็จไปเอาเมืองฝ่ายเหนือ
น่า
ได้เมืองเหนือทั้งปวง
เสด็จไปเอาเมืองนครพังคา เมืองแซงเซรา
เสด็จไปเอาเมืองชากังราว ครั้งที่ ๑
สร้างพระศรีรัตนมหาธาตุ
เสด็จไปเอาเมืองพิศณุโลก
เสด็จไปเอาเมืองชากังราว ครั้งที่ ๒
เสด็จไปเอาเมืองชากังราว ครั้งที่ ๓
เสด็จไปเอาเมืองเชียงใหม่
ได้เมืองนครลำปาง
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ สวรรคต
แผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทองจันทร์ ๑๕ วัน
พระราเมศวรจับพระเจ้าทองจันทร์ปลงพระชนม์
น่า
แผ่นดินสมเด็จพระราเมศวร ครั้งที่ ๒
จุลศักราช ๗๔๔–๗๔๙
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่
น่า
ได้เมืองเชียงใหม่
เสด็จกลับ ทำพิธีประเวศพระนคร ครั้งที่ ๑
ส่งเชลยเชียงใหม่ไปไว้หัวเมืองชายทเล
น่า
สร้างวัดมหาธาตุ
เฉลิมพระราชมณเฑียร
พระยากัมพูชามาตีเมืองชลบุรี
เสด็จไปตีกรุงกัมพูชา
ได้กรุงกัมพูชา
เสด็จกลับ ทำพิธีประเวศพระนคร
ญวนมารบ รักษากรุงกัมพูชายาก จึงให้กวาดครัวขอมมาสู่พระนคร
สร้างวัดภูเขาทอง
สมเด็จพระราเมศวรสวรรคต
แผ่นดินสมเด็จพระเจ้ารามราชาธิราช
จุลศักราช ๗๔๙–๗๖๓
เจ้าพระยามหาเสนาเปนขบถ
น่า
พระนครอินทรเข้ามาจากสุพรรณ ชิงราชสมบัติ
แผ่นดินสมเด็จพระอินทราชาธิราชที่ ๑
จุลศักราช ๗๖๓–๗๘๐
ให้สมเด็จพระเจ้ารามไปอยู่เมืองปทาคูจาม
น่า
เมืองเหนือเปนจลาจล
เสด็จขึ้นไปปราบเมืองเหนือถึงเมืองพระบาง
ตั้งลูกหลวงครองเมืองสุพรรณ เมืองแพรกศรีราชา แลเมืองไชยนาท
น่า
สมเด็จพระอินทราชาธิราชสวรรคต
เจ้าอ้ายพระยา เจ้ายี่พระยา ชิงราชสมบัติกัน
เจ้าสามพระยาได้ราชสมบัติ
แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒
จุลศักราช ๗๘๐–๗๙๖
สร้างวัดราชบุรณะ
น่า
ก่อพระเจดีย์ตรงที่เจ้าอ้าย เจ้ายี่ ชนช้าง
เสด็จไปกรุงกัมพูชา (พระนครหลวง)
ได้กรุงกัมพูชา
ขนรูปสัตวของโบราณมาจากกรุงกัมพูชา
สร้างวัดมเหยงค์
ตั้งพระราเมศวรราชโอรสไปครองเมืองพิศณุโลก
ไฟไหม้พระราชมณเฑียร
ไฟไหม้พระที่นั่งตรีมุข
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๑
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๒
ได้เมืองเชียงใหม่
สมเด็จพระบรมราชาธิราชสวรรคต
แผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ
จุลศักราช ๗๙๖–๘๑๑
[1]
ย้ายพระราชวังมาตั้งริมน้ำ
น่า
๑๐
สร้างพระที่นั่งเบญจรัตนปราสาท
๑๐
สร้างพระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท
๑๐
ตั้งตำแหน่งอรรคมหาเสนาแลจตุสดมภ์
๑๐
ตั้งตำแหน่งศักดินา
๑๐
สร้างวัดพระราม
๑๐
คนออกทรพิศม์ตายมาก
๑๐
แต่งทัพไปตีเมืองมะละกา
๑๐
แต่งทัพไปตีเมืองศรีสพเถิน เสด็จหนุนทัพไปถึงบ้านโคน
๑๐
เข้าแพง
๑๐
หล่อรูปพระโพธิสัตว ๕๕๐ ชาติ
๑๐
สร้างวัดจุฬามณี (ที่เมืองพิศณุโลก)
๑๐
พระยาชะเลียงขบถ เอาครัวไปขึ้นเชียงใหม่
๑๐
พระยาชะเลียงนำทัพเชียงใหม่มาตีเมืองเหนือ
๑๑
สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถกับพระอินทราชารบทัพเชียงใหม่ที่เมืองกำแพงเพ็ชร
๑๑
พระอินทราชาชนช้างด้วยหมื่นนคร
๑๑
สร้างวิหารวัดจุฬามณี
น่า
๑๑
สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถทรงผนวชที่วัดจุฬามณี
๑๑
สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถสวรรคต
๑๑
แผ่นดินสมเด็จพระอินทราชาที่ ๒
จุลศักราช ๘๑๑–๘๓๕
[2]
มหาราชเชียงใหม่ชิงราชสมบัติกับท้าวลูก (ท้าวลก คือ ติโลกราช)
น่า
๑๑
ได้ช้างเผือกพัง
๑๑
สมภพ (พระบรมราชา) พระราชโอรส
๑๑
เสด็จไปเมืองชะเลียง
๑๑
ตั้งเมืองนครไทย
๑๒
พระราชทานอภิเศกพระยาเมืองขวาเปนพระยาล้านช้าง
๑๒
ฉลองพระศรีรัตนมหาธาตุ
๑๒
พระบรมราชาราชโอรสทรงผนวช (สามเณร)
๑๒
ตั้งพระบรมราชาเปนพระมหาอุปราช
๑๒
มหาราชเชียงใหม่ท้าวลูกพิราไลย
๑๒
พระบรมราชาเสด็จไปตีเมืองทวาย
๑๒
แรกก่อกำแพงเมืองพิไชย
๑๒
สมเด็จพระอินทราชาสวรรคต
๑๒
แผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒
จุลศักราช ๘๓๕–๘๗๑
[3]
ประดิษฐานพระอัฐิสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถแลสมเด็จพระอินทราชาในมหาสถูป (วัดพระศรีสรรเพชญ์)
น่า
๑๓
ทำพระราชพิธีเบญจาเพศ เล่นการดึกดำบรรพ์
๑๓
ทำพระราชพิธีปฐมกรรม
๑๓
หล่อพระพุทธรูปศรีสรรเพชญ์
๑๓
สร้างพระวิหารวัดศรีสรรเพชญ์
๑๓
ทำตำราพิไชยสงคราม
๑๓
แรกทำสารบาญชี
๑๓
ชำระคลองสำโรงไปศีศะจรเข้
๑๓
ชำระคลองทับนางไปปากน้ำเจ้าพระยา
๑๓
ขุดได้เทวรูปโบราณ สร้างศาลไว้ที่เมืองพระประแดง
๑๓
เกิดเหตุเรื่องบัตรสนเท่ห์ ให้ฆ่าขุนนางมาก
๑๔
น้ำน้อย เข้าตายฝอย
๑๔
ตั้งพระอาทิตยวงษ์ราชโอรสเปนพระมหาอุปราชครองเมืองพิศณุโลก
๑๔
สมเด็จพระรามาธิบดีสวรรคต
๑๔
แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชามหาพุทธางกูร
จุลศักราช ๘๗๑–๘๗๕
สมเด็จพระบรมราชามหาพุทธางกูรสวรรคต
น่า
๑๔
แผ่นดินสมเด็จพระรัฏฐาธิราช ๕ เดือน
พระไชยราชาปลงพระชนม์สมเด็จพระรัฏฐาธิราช
น่า
๑๕
แผ่นดินสมเด็จพระไชยราชาธิราช
จุลศักราช ๘๗๖–๘๘๙
แรกให้พูนดินวัดชีเชียง
น่า
๑๕
เสด็จไปเชียงกราน
๑๕
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๑
๑๕
ไฟไหม้ใหญ่ในพระนคร
๑๕
เสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ ครั้งที่ ๒
๑๖
สมเด็จพระไชยราชาธิราชสวรรคต
๑๖
แผ่นดินสมเด็จพระยอดฟ้า
จุลศักราช ๘๘๙–๘๙๐
พระเทียรราชาออกทรงผนวช
น่า
๑๗
มีช้างบำรูงา
๑๗
ท้าวศรีสุดาจันทร์เปนชู้กับพันบุตรศรีเทพ
๑๗
ตั้งพันบุตรศรีเทพเปนขุนวรวงษาว่าราชการแผ่นดิน
๑๘
แผ่นดินขุนวรวงษาธิราช ๔ เดือน
ราชาภิเศกขุนวรวงษาธิราช
น่า
๑๙
ขุนวรวงษาธิราชปลงพระชนม์สมเด็จพระแก้วฟ้า
๑๙
ขุนพิเรนทรเทพกับข้าราชการคิดถวายราชสมบัติแก่พระเทียรราชา
๑๙
พระเทียรราชาเสี่ยงเทียน
๒๐
ขุนพิเรนทรเทพกับข้าราชการกำจัดขุนวรวงษาธิราชกับท้าวศรีสุดาจันทร์
๒๓
ถวายราชสมบัติแก่พระเทียรราชา
๒๔
แผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราช ครั้งที่ ๑
จุลศักราช ๘๙๑–๙๑๔
ราชาภิเศกสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
น่า
๒๔
ตั้งขุนพิเรนทรเทพเปนพระมหาธรรมราชา
๒๔
พระราชทานพระวิสุทธิกระษัตรีราชธิดาเปนมเหษีพระมหาธรรมราชา
๒๕
ปูนบำเหน็จข้าราชการที่กำจัดขุนวรวงษาธิราช
๒๕
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๑ พระเจ้าหงษาวดีตเบงชเวตี หรือสุวรรณเอกฉัตร ยกมาถึงกรุงฯ แล้วกลับ
๒๖
พระยาลแวกยกมาตีเมืองปาจิณบุรี
๒๗
ถวายวังเดิมสร้างเปนวัดวังไชย
๒๗
ทำพระราชพิธีปฐมกรรมที่ตำบลท่าแดง
๒๗
เสด็จไปตีเมืองลแวก
๒๘
พระยาลแวกยอมแพ้ ถวายนักพระสุโท นักพระสุทัน ราชบุตร
น่า
๒๘
แปลงเรือแซเปนเรือไชยแลเรือศีศะสัตว
๒๙
ทำพระราชพิธีมัธยมที่ไชยนาทบุรี
๒๙
ได้ช้างเผือกพลายเมืองกาญจนบุรีชื่อ พระคเชนทโรดม
๒๙
แต่งกองทัพให้นักพระสุทันไปรบญวนที่เมืองลแวก
๓๐
ไฟไหม้ในพระราชวัง
๓๐
ทำพระราชพิธีอาจาริยาภิเศก
๓๐
ทำพระราชพิธีอินทราภิเศก
๓๐
พระราชทานสัตตสดกมหาทาน
๓๐
ทัพหงษาวดี ครั้งที่ ๒ พระเจ้าหงษาวดีสุวรรณเอกฉัตรยกมาตีกรุง
๓๑
ขุดคลองมหานาค
๓๒
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิชนช้างกับพระเจ้าแปร
๓๕
สมเด็จพระสุริโยไทยชนช้างสิ้นพระชนม์
๓๕
พระมหาธรรมราชายกทัพเมืองเหนือลงมาตั้งที่เมืองไชยนาท
๓๘
พระเจ้าหงษาวดีขัดเสบียง ยกกองทัพกลับทางเหนือ
๔๐
พระราเมศวร พระมหินทราธิราช พระสุนทรสงคราม ยกกองทัพตามพระเจ้าหงษาวดี
๔๑
ทัพพระเจ้าแปรตีทัพน่าพระมหาธรรมราชาแตกที่เมืองอินทบุรี
๔๓
พระมหาธรรมราชายกหนีทัพหงษาวดี
๔๓
มอญจับพระราเมศวรกับพระมหินทราธิราชได้
๔๔
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิให้ข้าหลวงขึ้นไปขอพระราเมศวรพระมหินทราธิราช
น่า
๔๕
พระเจ้าหงษาวดีขอช้างพลายศรีมงคล พลายมงคลทวีป
๔๖
พระเจ้าหงษาวดีคืนช้างพลายศรีมงคล พลายมงคลทวีป
๔๗
พระมหาธรรมราชาลงมาเฝ้า
๔๗
ทำการพระศพสมเด็จพระสุริโยไทย
๔๗
สร้างวัดสบสวรรค์
๔๗
ตั้งบ้านท่าจีนเปนเมืองสาครบุรี
๔๗
ตั้งบ้านตลาดขวัญเปนเมืองนนทบุรี
๔๗
ตั้งเมืองนครไชยศรี
๔๗
รื้อกำแพงเมืองลพบุรี เมืองนครนายก เมืองสุพรรณบุรี
๔๘
พิจารณาเลขสังกัดสมพรรค์
๔๘
พระศรีศิลป์เปนขบถ
๔๘
ได้ช้างเผือกพลายที่ตำบลไทรย้อยชื่อ พระรัตนากาศ
๔๙
ได้ช้างเผือกพลายเมืองเพ็ชรบุรีชื่อ พระแก้วทรงบาศ
๕๐
ได้ช้างเผือกแม่ลูกที่ตำบลป่ามหาโพธิ์
๕๐
ได้ช้างเผือกพลายที่ป่าทเลชุบศรชื่อ พระบรมไกรสร
๕๐
ได้ช้างเผือกพลายที่ตำบลป่าน้ำทรงชื่อ พระสุริยกุญชร
๕๐
ถวายพระนามพระเจ้าช้างเผือกเพิ่มในท้ายพระนามเดิม
๕๐
พระเจ้าหงษาวดีกยอดินนรทา หรือกฤษดานุรุทธ ให้มาขอช้างเผือก ไม่ได้
๕๐
กองทัพหงษาวดียกมารบ ครั้งที่ ๓ พระเจ้าหงษาวดียกทัพหลวงมา
น่า
๕๓
พระเจ้าหงษาวดียกไปติดเมืองพิศณุโลก
๕๕
พระมหาธรรมราชายอมแพ้แก่พระเจ้าหงษาวดี
๕๖
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิยอมทำไมตรี
๖๑
พระเจ้าหงษาวดีขอช้างเผือก ๔ ช้างกับพระราเมศวร พระยาจักรี พระสุนทรสงคราม ได้แล้วยกทัพกลับไป
๖๒
พระยาตานีเข้ามาช่วยราชการทัพ กลับเปนขบถ
๖๓
(พระไชยเชษฐา) พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตทูลขอพระเทพกษัตรีย์เปนพระมเหษี
๖๓
พระมหาจักรพรรดิส่งพระแก้วฟ้าไปแทนพระเทพกษัตรีย์
๖๔
พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตคืนพระแก้วฟ้า
๖๕
ส่งพระเทพกษัตรีย์ไปล้านช้าง
๖๕
พระเจ้าหงษาวดีคิดกับพระมหาธรรมราชาแย่งพระเทพกษัตรีย์ไปหงษาวดี
๖๖
แผ่นดินสมเด็จพระมหินทราธิราช ครั้งที่ ๑
จุลศักราช ๙๑๔–๙๑๖
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิละราชสมบัติ เสด็จออกไปอยู่วังหลัง
น่า
๖๖
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเสด็จขึ้นไปปฏิสังขรณ์พระมหาธาตุเมืองลพบุรี
๖๗
สมเด็จพระมหินทราธิราชเกิดวิวาทกับพระมหาธรรมราชา
น่า
๖๗
สมเด็จพระมหินทราธิราชให้พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตยกมาตีเมืองพิศณุโลก แลส่งพระยาสีหราชเดโชกับพระท้ายน้ำขึ้นไปเปนไส้ศึก
๖๗
กองทัพกรุงศรีสัตนาคนหุตยกมาตีเมืองพิศณุโลก
๖๘
สมเด็จพระมหินทราธิราชยกทัพเรือขึ้นไปเมืองพิศณุโลก
๖๘
พระมหาธรรมราชาเผาทัพเรือสมเด็จพระมหินทราธิราช
๖๙
พระเจ้าหงษาวดีให้มาช่วยเมืองพิศณุโลก
๗๐
กองทัพกรุงศรีสัตนาคนหุตถอยจากเมืองพิศณุโลก
๗๐
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงผนวช
๗๑
แผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ครั้งที่ ๒
จุลศักราช ๙๑๖–๙๑๗
สมเด็จพระมหินทราธิราชถวายราชสมบัติคืนแก่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
น่า
๗๒
พระมหาธรรมราชาไปกรุงหงษาวดี
๗๓
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิขึ้นไปรับพระวิสุทธิกษัตรีย์กับพระเอกาทศรฐมาจากเมืองพิศณุโลก
๗๓
สมเด็จพระมหินทราธิราชให้ไปตีเมืองกำแพงเพ็ชร
๗๔
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๔ พระเจ้าหงษาวดียกทัพหลวงมา
๗๕
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิสวรรคต
๘๐
แผ่นดินสมเด็จพระมหินทราธิราช ครั้งที่ ๒
จุลศักราช ๙๑๗–๙๑๘
พระยารามบัญชาการรักษาพระนคร
น่า
๘๑
พระมหาธรรมราชาลวงขอพระยารามไปถวายพระเจ้าหงษาวดี
๘๕
พระศรีเสาวราชลูกเธอบัญชาการรักษาพระนคร
๘๙
สมเด็จพระมหินทราธิราชสงไสยพระศรีเสาวราช ให้ปลงพระชนม์เสีย
๘๙
กองทัพกรุงศรีสัตนาคนหุตยกมาช่วยสมเด็จพระมหินทราธิราช
๙๐
ทัพหงษาวดีตีทัพกรุงศรีสัตนาคนหุตแตก
๙๒
พระมหาธรรมราชาแต่งพระยาจักรีเข้าไปเปนไส้ศึกในพระนคร
๙๒
พระยาจักรีได้บัญชาการรักษาพระนคร แกล้งให้แพ้พระเจ้าหงษาวดี
๙๓
เสียพระนครแก่พระเจ้าหงษาวดี
๙๔
แผ่นดินสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๑ (พระมหาธรรมราชา)
จุลศักราช ๙๑๘–๙๔๐
พระเจ้าหงษาวดีอภิเศกพระมหาธรรมราชาธิราช
น่า
๙๕
พระมหินทราธิราชสวรรคต
๙๖
ตั้งข้าราชการผู้ใหญ่
๙๗
ศึกลแวก ครั้งที่ ๑ พระยาลแวกยกมาตีพระนคร
๙๗
พระเพ็ชรรัตนเจ้าเมืองเพ็ชรบูรณ์เปนขบถ
๙๘
ศึกลแวก ครั้งที่ ๒ พระยาลแวกให้มาตีหัวเมืองตวันออก
๙๙
พระนเรศวรเสด็จไปครองเมืองพิศณุโลก
น่า
๑๐๐
เสด็จไปช่วยพระเจ้าหงษาวดีตีเมืองล้านช้าง
๑๐๐
ศึกลแวก ครั้งที่ ๓ พระยาลแวกยกมาตีพระนคร
๑๐๐
พระยาลแวกเอาเทวรูปที่เมืองพระประแดงไป
๑๐๑
ศึกลแวก ครั้งที่ ๔ พระยาลแวกให้มาตีเมืองเพ็ชรบุรี
๑๐๒
พระยาจีนจันตุเมืองลแวกเข้ามาสวามิภักดิ์แล้วหนี
๑๐๒
ให้ขุดขื่อน่าพระนครแต่ป้อมมหาไชยไปบางกะจะ
๑๐๓
ญาณพิเชียรเปนขบถ
๑๐๓
ศึกลแวก ครั้งที่ ๕ พระยาลแวกยกมาตีเมืองเพ็ชรบุรี
๑๐๔
ศึกลแวก ครั้งที่ ๖ พระยาลแวกให้มาตีหัวเมืองตวันออก
๑๐๕
พระเจ้าหงษาวดี (กฤษดานุรุทธ) สิ้นพระชนม์
๑๐๖
มังเอิงราชโอรสเปนพระเจ้าหงษาวดี (มีพระนามว่า นันบุเรง คือ นันทราชา หรือไชยสิงห์)
๑๐๖
พระนเรศวรไปช่วยพระเจ้าหงษาวดีตีเมืองรุม เมืองคัง
๑๐๖
พระเจ้าหงษาวดีลวงพระนเรศวรจะเอาไปทำร้าย
๑๐๙
ไทยใหญ่ที่อยู่เมืองกำแพงเพ็ชรหนีพม่ามอญเข้ามาอยู่เมืองพิศณุโลก
๑๑๐
พระเจ้าหงษาวดีอุบายให้พระยาเกียรติ์ พระยาพระราม มารับพระนเรศวร
๑๑๑
พระมหาเถรคันฉ่องทูลพระนเรศวรให้ทราบอุบายพระเจ้าหงษาวดี
๑๑๑
พระนเรศวรประกาศการสงครามกับกรุงหงษาวดี
๑๑๒
พระนเรศวรยิงสุรกรรมาแม่ทัพหงษาวดีตายที่แม่น้ำสโตง
๑๑๓
ตั้งพระมหาเถรคันฉ่องเปนสมเด็จพระสังฆราช
น่า
๑๑๔
แรกแบ่งคณะสงฆ์เปนคณะเหนือ คณะใต้
๑๑๔
ให้พระยาเกียรติ์ พระยาพระราม กับครัวที่ตามเสด็จพระนเรศวรมาจากเมืองมอญ ตั้งอยู่บ้านขมิ้นขุนแสน
๑๑๔
พระนเรศวรให้จับพม่ามอญที่เข้ามาตั้งอยู่เมืองเหนือ
๑๑๕
พระนเรศวรยกไปตีทัพพม่ามอญที่ตั้งอยู่ณเมืองกำแพงเพ็ชร
๑๑๕
พระยาพิไชย พระยาสวรรคโลก เปนขบถ
๑๑๖
พระนเรศวรยกไปตีเมืองสวรรคโลก
๑๑๗
เชิญรูปพระร่วง พระฦๅ เมืองสวรรคโลก มาไว้เมืองพิศณุโลก
๑๑๙
พระยาลแวกขอเปนไมตรี
๑๑๙
ส่งครัวไทยใหญ่ลงมาพระนคร ให้ตั้งอยู่ตำบลวัดป้อม
๑๒๐
เลิกหัวเมืองเหนือ เทครัวอพยพมารวมอยู่พระนคร
๑๒๑
พระนเรศวรเสด็จลงมาอยู่พระนคร เตรียมรบศึกหงษาวดี
๑๒๑
ทำไมตรีกับพระยาลแวก
๑๒๑
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๑ พระเจ้าหงษาวดีให้พระเจ้าเชียงใหม่กับพระยาพสิมยกมาตีพระนคร
๑๒๒
ทัพไทยตีพระยาพสิมแตกที่เมืองสุพรรณ
๑๒๓
พระราชมานูตีทัพน่าเชียงใหม่แตก ทัพเชียงใหม่เลิกกลับไป
๑๒๔
แต่งข้าหลวงไปปันแดนกับพระยาลแวก
๑๒๕
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๒ พระเจ้าหงษาวดีให้พระเจ้าเชียงใหม่ยกลงมาตีพระนคร
๑๒๖
พระยาลแวกให้พระศรีสุพรรณมาธิราชคุมพลเข้ามาช่วย
๑๒๗
พระเจ้าหงษาวดีให้พระมหาอุปราชายกหนุนมาตั้งอยู่เมืองกำแพงเพ็ชร
น่า
๑๒๘
พระนเรศวร พระเอกาทศรฐ ตีทัพน่าเชียงใหม่ที่ปากโมกน้อย
๑๒๙
พระนเรศวร พระเอกาทศรฐ ตีทัพพระเจ้าเชียงใหม่แตกที่บ้านแห
๑๓๑
สมเด็จพระมหาธรรมราชายกทัพหลวงหนุนขึ้นไป
๑๓๓
พระนเรศวรยกตามไปตีได้ค่ายหลวงของพระเจ้าเชียงใหม่ที่ตำบลชะไว
๑๓๔
พระนเรศวรเกิดอริกับพระศรีสุพรรณมาธิราช
๑๓๕
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๓ พระเจ้าหงษาวดียกมาตีพระนคร
๑๓๗
พระนเรศวร พระเอกาทศรฐ รบกองทัพพระมหาอุปราชาที่ตำบลชายเคือง
๑๓๙
พระนเรศวร พระเอกาทศรฐ จะปลอมเข้าค่ายพระเจ้าหงษาวดี
๑๔๐
พระนเรศวร พระเอกาทศรฐ ตีทัพพระเจ้าหงษาวดีที่ปากโมกใหญ่
๑๔๑
พระเจ้าหงษาวดีเลิกทัพกลับไป
๑๔๒
ศึกลแวก ครั้งที่ ๗ พระยาลแวกให้มาตีหัวเมืองตวันออก
๑๔๒
กองทัพกรุงไปตีทัพลแวกแตก
๑๔๒
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๔ พระเจ้าหงษาวดียกมาตีพระนคร
๑๔๓
พระนเรศวรปีนค่ายพระเจ้าหงษาวดี
๑๔๔
พระเจ้าหงษาวดีเลิกทัพกลับไป
๑๔๕
สมเด็จพระมหาธรรมราชาสวรรคต
๑๔๕
แผ่นดินสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๒ (พระนเรศวรมหาราช)
จุลศักราช ๙๔๐–๙๕๕
เตรียมทัพหลวงจะไปตีกรุงกัมพูชา (เมืองลแวก)
น่า
๑๔๖
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๑ พระเจ้าหงษาวดีให้พระมหาอุปราชายกมาตีพระนคร
๑๔๗
สมเด็จพระนเรศวรกับสมเด็จพระเอกาทศรฐยกทัพหลวงไปตั้งรบทัพมอญที่ปากโมก
๑๕๐
กองทัพหลวงรบทัพหงษาวดี
๑๕๖
สมเด็จพระนเรศวรทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชา
๑๕๘
ทัพหงษาวดีแตก
๑๕๙
สมเด็จพระนเรศวรให้ก่อพระเจดีย์สรวมศพพระมหาอุปราชาที่ตะพังตรุ
๑๕๙
มีรับสั่งให้ปฤกษาโทษนายทัพนายกองที่ตามเสด็จไม่ทันยุทธหัตถี
๑๖๐
สมเด็จพระพนรัตนถวายพระพรขอโทษนายทัพนายกอง
๑๖๐
มีรับสั่งให้ข้าราชการที่พ้นโทษคุมกองทัพไปตีเมืองทวาย เมืองตะนาวศรี แก้ตัว
๑๖๒
กลับตั้งหัวเมืองเหนืออย่างเดิม
๑๖๓
พระเจ้าหงษาวดีให้นายทัพนายกองที่แตกทัพไปรักษาเมืองทวาย เมืองตะนาวศรี
๑๖๔
พระเจ้าเชียงใหม่ยอมมาสวามิภักดิ์
๑๖๔
ทัพล้านช้างมาตีเมืองเชียงแสน พระเจ้าเชียงใหม่ขอกองทัพกรุงขึ้นไปช่วย
น่า
๑๖๖
กองทัพกรุงขึ้นไปห้ามทัพล้านช้างเลิกกลับไป
๑๖๗
ให้พระยารามเดโชเปนข้าหลวงประจำอยู่เมืองเชียงแสน
๑๖๗
กองทัพไทยตีได้เมืองทวาย เมืองตะนาวศรี
๑๖๗
กองทัพไทยที่เมืองทวาย เมืองตะนาวศรี แต่งทัพเรือออกตีทัพมอญที่มาช่วยแตก
๑๖๘
กองทัพไทยตีทัพมอญที่ยกมาทางบกแตกที่ใกล้เมืองกลิอ่อง
๑๗๐
จัดการเมืองทวายแล้ว กองทัพกรุงยกกลับ
๑๗๐
กองทัพไทยก่อพระเจดีย์ ๓ องค์ที่ต่อแดน
๑๗๐
เสด็จยกทัพหลวงไปตีกรุงกัมพูชา ครั้งที่ ๑
๑๗๑
กองทัพหลวงขัดเสบียง ต้องยกกลับ
๑๗๒
ศึกหงษาวดี ครั้งที่ ๒ พระเจ้าหงษาวดีให้พระเจ้าแปรยกมา
๑๗๓
เสด็จยกทัพหลวงไปตีพระเจ้าแปรแตกที่ตำบลสังขล่า
๑๗๔
พระเจ้าหงษาวดีให้ถอดพระเจ้าแปร
๑๗๕
เสด็จยกทัพหลวงไปตีกรุงกัมพูชา ครั้งที่ ๒
๑๗๕
ได้กรุงกัมพูชา จับพระยาลแวกแลพระศรีสุพรรณมาธิราชได้
๑๘๙
ทำพระราชพิธีปฐมกรรมประหารชีวิตรพระยาลแวก (นักพระสัฏฐา)
๑๙๐
กวาดครัวเขมรมากรุง
๑๙๑
พระยาศรีไสยณรงค์ผู้รั้งราชการเมืองตะนาวศรีเปนขบถ
๑๙๒
ให้สมเด็จพระเอกาทศรฐยกกองทัพออกไปปราบพระยาศรีไสยณรงค์
น่า
๑๙๒
ได้เมืองตะนาวศรี จับตัวพระยาศรีไสยณรงค์ได้
๑๙๕
เจ้าเมืองเมาะลำเลิงวิวาทกับเจ้าเมืองเมาะตมะ เจ้าเมืองเมาะลำเลิงสวามิภักดิ์ ขอกองทัพยกไปช่วยป้องกันเมือง
๑๙๖
แต่งกองทัพไปช่วยรักษาเมืองเมาะลำเลิง
๑๙๖
พระสุธรรมราชาราชบุตรนักพระสัฎฐาได้เปนพระยาลแวก
๑๙๗
พระยาลแวกสวามิภักดิ์
๑๙๗
เตรียมกองทัพไปตีเมืองหงษาวดี
๑๙๙
กองทัพเจ้าพระยาจักรียกไปตั้งที่เมืองเมาะลำเลิง
๒๐๐
เมืองตองอูแลหัวเมืองมอญอิกหลายเมืองสวามิภักดิ์
๒๐๐
พระมหาเถรเสียมเพรียมบอกอุบายให้พระยาตองอูคิดตั้งตัวเปนใหญ่
๒๐๑
พระยาตองอูยุให้หัวเมืองมอญแตกกับไทย
๒๐๕
พวกมอญหลงอุบายพระยาตองอู จับไทยที่ออกไปเกี่ยวเข้า
๒๐๕
เจ้าพระยาจักรีจะเร่งเอาผู้ร้ายมอญกับเจ้าเมืองเมาะลำเลิง เจ้าเมืองเมาะลำเลิงเอาใจออกหาก อพยหนี
๒๐๖
มอญที่สวามิภักดิ์เกิดเปนขบถ
๒๐๗
เสด็จยกทัพหลวงไปเมืองเมาะตมะ
๒๐๘
พระยาตองอูยกไปรักษาเมืองหงษาวดี
๒๑๒
ทัพหลวงตีได้เมืองเมาะตมะ
น่า
๒๑๔
พระยาตองอูเผาเมืองหงษาวดีแล้วพาพระเจ้าหงษาวดีหนีไปเมืองตองอู
๒๑๕
ทัพหลวงเสด็จถึงเมืองหงษาวดี
๒๑๖
ทัพหลวงยกไปเมืองตองอู
๒๑๖
พระยาตองอูแต่งทูตคุมบรรณาการมาถวาย
๒๑๗
พระมหาเทพจับทูตของพระยาตองอู
๒๑๘
พระยาตองอูทำอุบายหน่วงกองทัพหลวงไม่ให้ตีเมือง
๒๑๘
ทัพหลวงเข้าตีเมืองตองอู
๒๑๙
พระเจ้าเชียงใหม่วิวาทกับพระยารามเดโชข้าหลวง
๒๒๑
เมืองแสนหวีสวามิภักดิ์
๒๒๒
กองทัพหลวงขัดเสบียง ต้องยกกลับ
๒๒๒
ให้สมเด็จพระเอกาทศรฐไประงับวิวาทเมืองเชียงใหม่
๒๒๒
ตั้งพระยาทละอยู่ครองเมืองเมาะลำเลิง เมืองเมาะตมะ ควบคุมหัวเมืองมอญที่ขึ้นไทย
๒๒๓
สมเด็จพระเอกาทศรฐทรงสมัคสมานเมืองเชียงใหม่กับหัวเมืองที่ใกล้เคียง
๒๒๓
สมเด็จพระนเรศวรกลับจากเมืองตองอูไปประทับที่เมืองสุพรรณ
๒๒๙
สมเด็จพระเอกาทศรฐเสด็จกลับมาเฝ้าที่เมืองสุพรรณ
๒๓๕
พระยาลแวกพิราไลย เขมรทูลขอพระศรีสุพรรณมาธิราชออกไปครองกรุงกัมพูชา
๒๓๕
พระยาอ่อนเปนขบถต่อพระยาลแวก โปรดให้พระมหาธรรมราชาราชโอรสยกกองทัพไปช่วยตีพระยาอ่อนแตก
น่า
๒๓๖
สมเด็จพระนเรศวรเสด็จจากเมืองสุพรรณบุรีไปประทับเมืองราชบุรี
๒๓๗
สมเด็จพระเอกาทศรฐเสด็จขึ้นไปเมืองพิศณุโลก ปิดทองพระพุทธชินราช
๒๓๗
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์เสด็จจากเมืองราชบุรีไปประพาศทางฝั่งทเลถึงสามร้อยยอด
๒๓๙
กลับจากประพาศ เสด็จมาประทับเมืองเพ็ชรบุรี
๒๓๙
เตรียมทัพจะยกไปตีเมืองตองอู
๒๓๙
พระยาอังวะยกมาตีเมืองหน่าย แล้วจะตีเมืองแสนหวี
๒๓๙
เสด็จยกทัพหลวงจะไปตีเมืองอังวะ
๒๔๐
ทัพหลวงถึงเมืองเชียงใหม่ ทรงระงับวิวาทในระหว่างพระเจ้าเชียงใหม่กับพระยารามเดโช
๒๔๐
ทัพหลวงสมเด็จพระนเรศวรยกไปทางเมืองห้างหลวงสมเด็จพระเอกาทศรฐยกไปทางเมืองฝาง
๒๔๑
สมเด็จพระนเรศวรเสด็จถึงเมืองห้างหลวง ทรงพระประชวรสวรรคต
๒๔๑
สมเด็จพระเอกาทศรฐได้ข่าวประชวร ตามไปเมืองห้างหลวง
๒๔๑
แผ่นดินสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๓ (พระเอกาทศรฐ)
จุลศักราช ๙๕๕–๙๖๓
เชิญพระบรมศพสมเด็จพระนเรศวรยกทัพกลับคืนพระนคร
น่า
๒๔๓
ตั้งพระทุลองลูกพระเจ้าเชียงใหม่เปนพระศรีสุมหาธรรมราชา
๒๔๔
เมืองไทรแต่งทูตแลเครื่องบรรณาการเข้ามาถวาย ขึ้นไปเฝ้าที่เมืองกำแพงเพ็ชร
๒๔๔
ทำพระราชพิธีสงครามาภิเศก แห่เสด็จจากปากโมก ประเวศพระนคร
๒๔๔
สร้างวัดวรเชษฐาราม
๒๔๗
หัวเมืองมอญเปนขบถต่อพระยาตองอู
๒๔๙
พระยาตองอูแอบอ้างรับสั่งพระเจ้าหงษาวดีลวงหัวเมืองมอญ
๒๔๙
นักสร้างบุตรพระยาตองอูลอบปลงพระชนม์พระเจ้าหงษาวดี
๒๕๐
พระยาตองอูกลัวหัวเมืองมอญจะขบถ ประกาศว่า จะมาขึ้นกรุงศรีอยุทธยา
๒๕๑
หัวเมืองมอญออกหากจากพระยาตองอูมาสวามิภักดิ์พระยาทละ ขึ้นกรุงศรีอยุทธยา
๒๕๒
พระยาตองอูแต่งทูตคุมเครื่องบรรณาการเข้ามาถวาย ขอขึ้นกรุงศรีอยุทธยา
๒๕๒
แต่งเรือทำพระราชพิธีอาศวยุช
๒๕๒
สร้างพระพุทธรูปสนองพระองค์ แลทำพระราชพิธีไล่เรือรับพระพุทธรูป
๒๕๔
ตั้งพระราชกำหนดกฎพระไอยการ
น่า
๒๕๖
ตั้งส่วยแลอากรขนอนตลาด
๒๕๖
พระราชทานที่กัลปนาเปนนิตยภัตรสงฆ์
๒๕๖
ตั้งเจ้าฟ้าสุทัศนราชโอรสเปนพระมหาอุปราช
๒๕๖
พระมหาอุปราชเสวยยาพิศม์สิ้นพระชนม์
๒๕๗
สมเด็จพระเอกาทศรฐสวรรคต
๒๕๗
แผ่นดินสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๔ (เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์)
จุลศักราช ๙๖๓–๙๖๔
พระศรีศิลป์เปนขบถ จับพระเจ้าแผ่นดินปลงพระชนม์
น่า
๒๕๗
แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาที่ ๑ (พระเจ้าทรงธรรม)
จุลศักราช ๙๖๔–๙๘๙
ตั้งจมื่นศรีสรรักษ์เปนพระมหาอุปราช
น่า
๒๕๘
พระมหาอุปราชสิ้นพระชนม์
๒๕๘
ยี่ปุ่นเปนขบถ
๒๕๘
ตั้งพระมหาอำมาตย์ที่ปราบยี่ปุ่นขบถเปนเจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์
๒๕๙
ชักพระมงคลบพิตรจากฝ่ายตวันออกพระราชวังมาทำมณฑปไว้ฝ่ายตวันตก
๒๕๙
เสียเมืองตะนาวศรีแก่มอญ
๒๕๙
พูนดินน่าวิหารแกลบเปนที่ทำการพระเมรุ
๒๕๙
พบรอยพระพุทธบาท
น่า
๒๕๙
สร้างบริเวณวัดพระพุทธบาท
๒๖๐
ตัดทางหลวงแต่ท่าเรือไปพระพุทธบาท
๒๖๐
สร้างตำหนักท่าเจ้าสนุก
๒๖๐
แปลงปัถวีเรือไชยเปนเรือกิ่ง
๒๖๐
ฉลองวัดพระพุทธบาท
๒๖๐
พระปรางค์วัดมหาธาตุพัง
๒๖๑
แต่งหนังสือมหาชาติคำหลวง
๒๖๑
สร้างพระไตรปิฎกจบบริบูรณ์
๒๖๑
สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมสวรรคต
๒๖๑
แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ (พระเชษฐาธิราช)
จุลศักราช ๙๘๙–๙๙๑
พระศรีศิลป์ราชอนุชาเปนขบถ จับได้
น่า
๒๖๑
เจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์ทำศพ เกิดสงไสยว่า จะเปนขบถ
๒๖๒
เจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์เปนขบถ จับพระเจ้าแผ่นดินปลงพระชนม์
๒๖๒
แผ่นดินสมเด็จพระอาทิตยวงษ์ ๖ เดือน
ขุนนางถวายราชสมบัติแก่เจ้าพระยากลาโหมสุริวงษ์
น่า
๒๖๕

  1. หนังสือพงษาวดาร ฉบับบรัดเลพิมพ์ ว่า ๗๙๖–๘๓๕
  2. หนังสือพงษาวดาร ฉบับบรัดเลพิมพ์ ไม่มีแผ่นดินสมเด็จพระอินทราชาที่ ๒ รวมปีไว้ในแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ
  3. ว่า สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ มีรัชกาล ๔๐ ปี จำนวนนี้ขาดไป ๓ ปี บางทีจะนับแต่ปีราชาภิเศกไป

งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งระบุว่า

ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมดา
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
  2. ถ้ามีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์หมดอายุ
    1. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย หรือ
    2. เมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก ในกรณีที่ไม่เคยโฆษณางานนั้นเลยก่อนที่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายจะถึงแก่ความตาย
ถ้ารู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล หรือถ้าไม่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์
  1. ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น
  2. แต่ถ้าได้โฆษณางานนั้นในระหว่าง 50 ปีข้างต้น ลิขสิทธิ์หมดอายุเมื่อพ้น 50 ปีนับแต่ได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรก